‘ปนัดดา’ขันนอตหน่วยงานสังกัด รวดเร็ว-รอบคอบ-ประหยัด แนะอย่าใช้สื่อโซเชียลสร้างเกลียดชัง

ปนัดดา” ขันนอตการทำงาน “หน่วยงานสังกัด” กระชับ-รอบคอบ-ไม่ยืดเยื้อ แนะ “สังคม” ใช้ “โซเชียลมีเดีย” สร้างสรรค์ ไม่ใส่ร้ายป้ายสี-มีข้อมูลเท็จ ลั่น ต้องตรวจสอบได้ อย่าสร้างความเกลียดชัง

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมมอบนโยบายแก่หน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรีว่า อยากให้ขั้นตอนการทำงานราชการของสำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี, กรมประชาสัมพันธ์, สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.), สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.), มีขั้นตอนไม่ยืดเยื้อกระชับแต่ต้องรอบคอบไม่ใช่สั่งการแต่ขาดความรอบคอบถี่ถ้วน

ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า ส่วนความโปร่งใสซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญนั้น ต้องให้มีการตรวจสอบได้ในทุกระดับชั้น ให้มีหัวหน้างาน หัวหน้า ฝ่ายหัวหน้ากลุ่มที่ดี ตรวจสอบความถูกต้องได้ ส่วนในเรื่องของความประหยัด เรายึดปรัชญาความพอเพียงโดยทั้ง 10 ยุทธศาสตร์สำคัญ อยากให้หน่วยงานในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะในส่วนที่ตนกำกับดูแล ให้ยึดมั่นความเป็นข้าราชการของประชาชน และของแผ่นดิน การทำงานต้องมีเหตุผลและทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ

ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า ส่วนงานการบริการประชาชนนั้น เรามีหน่วยงานโดยตรงที่รับผิดชอบ คือ ศูนย์บริการประชาชน ต้องทำงานหนักร่วมมือกับศูนย์ดำรงธรรม ของกระทรวงมหาดไทย ทั้ง 76 จังหวัดโดยศูนย์ของเราต้องเป็นตัวเชื่อมโยง ความเข้าใจข้อปัญหาวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน คือ จะไม่มีการรับเรื่องมาแล้วปล่อยปละละเลย ซึ่งความจริงช่วงปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นความสำเร็จ เพราะชี้วัดได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่หน่วยงานเรามีความพึงพอใจ แต่ต้องพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ในการเข้าถึงประชาชน

Advertisement

ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า อีกหน่วยงานหนึ่ง คือ สคบ. แม้จะมีบุคลากรที่น้อยอยู่แต่ก็ต้องทำงานกันอย่างมุ่งมั่น คุ้มครองผู้บริโภค ให้ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคและลูกค้า ขณะที่การทำงานของกรมประชาสัมพันธ์ ก็เป็นเรื่องให้ความรู้ความเข้าใจกับสาธารณชน ก็อยากให้รักษามาตรฐานนี้ไว้ สำหรับงานของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เป็นเรื่องของงานวิจัยวิทยาศาสตร์ ที่ต้องช่วยกันคิดให้มีการขยายผล ในเรื่องของนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้ทันประชาคมอาเซียนและประเทศนอกประชาคมอาเซียนต้องมีมาตรฐานไปด้วยกันให้ได้ ขณะที่งานของราชบัญฑิตยสถานเป็นงานให้ความรู้ผู้คน โดยเฉพาะลูกหลานเยาวชนในวัยเรียน สามารถค้นคว้าศึกษาเอกลักษณ์ของชาติ ในเรื่องของการใช้ภาษาไทย ไม่ใช่พูดไทยคำฝรั่งคำ

“การใช้โซเชียลมีเดียที่สร้างสรรค์ ไม่ใช่ให้ร้ายป้ายสีคนหรือข้อมูลที่เป็นเท็จ แต่ต้องมีการตรวจสอบได้ ส่วนจะทำอย่างไรนั้นก็คงต้องขอพึ่งพาสังคม ว่าเราต้องช่วยกันใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างมีความถูกต้อง ไม่ใช่ใช้กันเพื่อสร้างความโกรธ หรือสร้างความเกลียดชัง เรื่องนี้เราผู้ใหญ่ต้องหารือกัน” ม.ล.ปนัดดากล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายศรีราชา วงศารยางกูร อดีตประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ระบุหลังครบวาระตำแหน่งว่า ขอฝากรัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งดูแลเรื่องร้องเรียนของประชาชนใน 3 เดือนนั้น รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกฝ่ายร้องเรียนเข้ามาทางปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้ใหญ่ทุกคนก็ติดตามเรื่องนี้ ไม่เคยปล่อยปละละเลยเรื่องไหน อาจจะต้องใช้เวลาค้นคว้าในขั้นตอนตามกฎระเบียบของกฎหมายบ้าง ก็ต้องใช้เวลา

เมื่อถามว่า บางกลุ่มมองว่าการแก้ไขปัญหาอาจจะล่าช้าในบางเรื่อง ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า ความจริงไม่เคยมีเรื่องไหนที่ล่าช้า เราทำทุกอย่างเป็นระบบเป็นขั้นตอนอยู่แล้ว โดยช่วยเหลืออย่างแท้จริง มีการตรวจสอบติดตามเรื่องกันเป็นระยะๆ ตลอดเวลา ไม่เคยที่จะปล่อยปละละเลยความรับผิดชอบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีเรื่องใดที่อยากจะเร่งรัฐเป็นพิเศษหรือไม่ รมต.นักนายกฯ กล่าวว่า อยากให้การทำงานของข้าราชการเป็นภารกิจ ของการบำบัดทุกข์บำรุงสุขเป็นสำคัญ เพื่อจะได้มีการขับเคลื่อนกันได้ ในภาพรวมของประเทศ ทั้งส่วนกลาง ภูมิภาค และท้องถิ่น ให้ประเทศไทยมีความเข้มแข็งมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืนตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี เรื่องของเมืองไทย 4.0 ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ต้องพยายามช่วยกันในเรื่องของประชารัฐ ซึ่งเอกชนก็มีบทบาทที่สำคัญ เช่น ในวันพรุ่งนี้ที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ จะไปแสดงปาฐกถาพิเศษที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และตนได้รับเชิญให้ไปร่วมด้วยก็จะไปฟังและนำมาประกอบใช้การทำงาน ว่าจะทำอย่างไรที่จะให้ระบบราชการ เกิดความเป็นธรรมาภิบาลได้อย่างเต็มรูปแบบ และให้ประชาชนเกิดความมั่นใจและไว้ใจเราที่เป็นข้าราชการ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image