บทนำ : อย่าให้ซื้อเสียง
เริ่มแล้ว การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 9 แทนนายสิระ เจนจาคะ ที่พ้นสมาชิกภาพ นายสมบัติ กนกทิพย์วรรณ ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ ในฐานะประธานกรรมการการเลือกตั้ง เขต 9 กทม.ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการจัดเตรียมสถานที่รับสมัคร ว่า วันที่ 6 มกราคม จะเป็นวันเปิดรับสมัครเป็นวันแรก สำนักงานเขตหลักสี่เตรียมความพร้อมทุกอย่าง เพื่อรองรับผู้สมัครและกองเชียร์ที่จะมาให้กำลังใจ โดยยังคงคุมเข้มมาตรการป้องกันโควิด-19 ให้เข้าออกประตูเดียว ส่วนพื้นที่ชั้น 3 ที่เป็นจุดที่รับสมัครจะอนุญาตให้เฉพาะผู้สมัครและผู้ติดตามจำนวน 1 คน พร้อมกันนี้ จำกัดจำนวนสื่อที่จะมารายงานข่าวเพื่อไม่ให้เกิดความหนาแน่น
ด้านนายสำราญ ตันติพานิช ผอ.กกต.กทม. เผยว่า เรื่องของการหาเสียงจะต้องเป็นไปตามกฎหมาย โดยเฉพาะเขตหลักสี่ถือว่ามีการแข่งขันดุเดือดไม่แพ้การเลือกตั้งใหญ่ เป็นที่จับตา ดังนั้น กกต.ได้มีหนังสือประสานงานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล ในการตรวจสอบการกระทำผิดเลือกตั้ง ซึ่งผู้สมัครและผู้ช่วยหาเสียง อาจจะกระทำการโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ รวมถึงมีการจัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วลงไปตรวจสอบการซื้อสิทธิขายเสียงหากมีการร้องเรียน พร้อมกันนี้ กกต.ยังส่งผู้ตรวจการเลือกตั้ง ลงพื้นที่ติดตามการหาเสียงของผู้สมัครแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายงานเรื่องร้องเรียนทุจริตเลือกตั้ง กกต.จะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบกำหนดเวลาต่างๆ อย่างเต็มที่ตามกรอบเวลาที่ได้รับมอบหมาย เพราะมีเวลาเพียง 45 วัน ส่วนการจัดเวทีปราศรัยนั้น ผู้สมัครดำเนินการได้ แต่ต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
การเลือกตั้งซ่อมเขต 9 กทม.เขต 9 เป็น 1 ในการเลือกตั้งซ่อม 3 สนามที่เกิดขึ้นในเดือนมกราคม อีก 2 สนามคือ ที่สงขลาเขต 6 และชุมพรเขต 1 ประเด็นที่เขตและ กกต.จะต้องดูแลมากเป็นพิเศษ คือการซื้อเสียง เนื่องจากมีพรรคการเมืองบางพรรคเริ่มพูดถึงเรื่องนี้ว่า เกิดขึ้นมากในการเลือกตั้งท้องถิ่น และระบุว่า มีการซื้อเสียงหัวละ 2-3 พันบาทแล้ว นอกเหนือไปจากการใช้ทหารเข้ามากดดันการหาเสียงที่เกิดขึ้นที่ชุมพร กกต.จะต้องใช้อำนาจหน้าที่อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการซื้อเสียง และการใช้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าแทรกแซงการเลือกตั้ง เพื่อให้เป็นการเลือกตั้งซ่อมที่โปร่งใสยุติธรรมทั้ง 3 สนาม
