‘สกลธี’ ลงแน่ชิงผู้ว่าฯ ลั่นพร้อมลงพื้นที่แบบ ‘ถึงผู้ถึงคน’ กทม.มีอะไรให้ทำอีกเยอะ

นายสกลธี ภัททิยกุล

‘สกลธี’ พร้อมชิงผู้ว่าฯ ยัน ลงพื้นที่ ‘ถึงลูกถึงคน’ ลั่น กทม. ยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะ

เมื่อวันที่ 7 มกราคม ที่โถงอาคารสำนักงานบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) มีการจัดงานเนื่องในวันคล้ายวันเกิด 9 มกราคม 2521 ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยมีผู้บริหารในเครือมติชน นำโดย นายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.13 น. นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เดินทางมาร่วมอวยพร โดยกล่าวแสดงความยินดีกับมติชน ที่ครบ 44 ปี ย่างเข้าสู่ปีที่ 45 อายุเท่ากับตนพอดี

“สำหรับมติชนผมรู้จักตั้งแต่เด็กๆ ตัวเองเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือพิมพ์ ดูข่าวการบ้าน การเมือง ซึ่งมติชนเป็นฉบับแรกๆ เลยที่ผมดูมาตั้งแต่เด็ก ทุกวันนี้ก็ยังดูอยู่ ก็ขอให้มติชนเป็นสื่อสารหลักของพี่น้องชาวไทย ที่นำเสนอข้อมูลทั้งการเมือง การบ้าน และเรื่องของบันเทิงทุกอย่างให้พี่น้องชาวไทยตลอดไปครับ” นายสกลธีกล่าว

Advertisement

จากนั้น ผู้สื่อข่าวสอบถามประเด็นการลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. โดยนายสกลธีกล่าวว่า ตอนนี้สนใจลงการเมืองอยู่แล้ว ตั้งแต่เป็นสมาชิกผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร มองว่าเกือบ 90% ของ ส.ส.กรุงเทพฯ ก็อยากจะมาบริหารดูแลกรุงเทพมหานคร ก็ได้มีโอกาสมาเป็นรองผู้ว่าฯกทม. 4 ปี พอเข้าไปทำ ก็คิดเลยว่ายังมีอะไรน่าจะทำได้อีกเยอะ แต่ด้วยบทบาทของตน ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่า ‘เป็นรอง’ ดังนั้น บางอย่างที่อยากจะผลักดัน ก็ยังไม่มีโอกาสได้ทำ

นายสกลธีกล่าวต่อว่า ตอนนี้อยู่มาพอสมควร และดูเรื่องโครงสร้างบุคลากรมาพอสมควร ก็คิดว่าจะนำเสนอตัวเองขึ้นมา แต่อยู่ในกระบวนการการตัดสินใจ ถ้ามีความชัดเจนก็คงต้องประกาศตัวอยู่แล้ว โดยความชัดเจนในการเลือก คือ ก่อนหน้านี้ที่นายกรัฐมนตรีประกาศว่าจะให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ประมาณเดือนมิถุนายน 2565 หากมีความชัดเจนตรงนั้น ผมก็ประกาศตัวอยู่แล้ว

“ผมเป็นคนกรุงเทพฯ ตั้งแต่เกิด อยู่กรุงเทพฯ มา 44 ปี มันเห็นปัญหาอยู่แล้ว ยิ่งได้มาทำงานตรงนี้ด้วย และยังอายุน้อย หากได้ติดตามการทำงานของผม จะเห็นว่าผมทำงานในลักษณะที่ถึงผู้ถึงคน ลงพื้นที่ทำจริง ประกอบกับนโยบายหลายอย่างที่เราจะทำน่าจะเป็นตัวเลือกให้แก่ชาวกรุงเทพฯ ได้ไม่มากก็น้อย

Advertisement

เท่าที่ไปดู ตัวข้าราชการกรุงเทพมหานครมีหน้างานลงไปทำงานอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าจะต้องมีการเข้าไปบริหารจัดการเรื่องการติดตาม ดูงาน และนำเอาเทคโนโลยีเข้าไปจัดการเพื่อลดกำลังคนลง” นายสกลธีกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image