พิธา ลงใต้ไฮด์ปาร์กในค่ายทหาร หาเสียงเลือกตั้งซ่อม โชว์วิสัยทัศน์กองทัพสมัยใหม่

‘พิธา’ นำทัพชุดใหญ่ ช่วยหาเสียง ‘ธิวัชร์ ดำแก้ว’ – เปิดเวทีปราศรัยแสดงวิสัยทัศน์ ‘กองทัพในศตวรรษที่ 21’ พบปะชาว ‘สะเดา’ ชูศักยภาพเศรษฐกิจชายแดน

เมื่อวันที่ 7 มกราคม ที่กองพลพัฒนาที่ 4 ค่ายรัตนพล อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา พรรคก้าวไกล (ก.ก.) นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย ส.ส.ของพรรค อาทิ นายรังสิมันต์ โรม, นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล, น.ส.เบญจา แสงจันทร์, น.ส.วรรณวิภา ไม้สน, นายกัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี, นายธีรัจชัย พันธุมาศ, นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์, น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ และนายนิติพล ผิวเหมาะ ร่วมรณรงค์ช่วยหาเสียงให้กับ นายธิวัชร์ ดำแก้ว เบอร์ 2 ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สงขลา เขต 6 โดยมีการเปิดเวทีปราศรัยและพบปะครอบครัวทหารในค่าย บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น มีนายทหารทั้งระดับชั้นประทวนและสัญญาบัตร ร่วมรับฟังการปราศรัยเป็นจำนวนมาก

นายพิธากล่าวว่า อยากเริ่มในสิ่งที่กองทัพและประชาชนคนไทยอาจเข้าใจผิดเกี่ยวกับแนวคิดของพรรคก้าวไกลที่มีต่อกองทัพ ขอยืนยันในฐานะหัวหน้าพรรคว่า เราต้องการอยู่เคียงข้างกองทัพ หากแต่ต้องเป็นกองทัพที่ทันสมัย และยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยของกองทัพในศตวรรษที่ 21 นั้นมีความจำเป็นเป็นอย่างยิ่ง แต่กองทัพที่อุ้ยอ้ายหรือมีพลทหารที่มากเกินไป ก็คงจะไม่สามารถมีงบประมาณซื้อเครื่องมือที่ทันสมัยได้ ตนคิดว่ากองทัพในศตวรรษที่ 21 คือกองทัพที่อยู่คู่กับประชาธิปไตยอย่างคู่ขนาน ไม่ได้ทับเส้นซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ ความเสียสละและความกล้าหาญของพลทหารก็ควรอยู่คู่กับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เพราะฉะนั้น เรื่องราวของพลทหารที่เสียชีวิตซ้ำแล้วซ้ำเล่าในค่ายทหารคงจะต้องหมดไปในศตวรรษที่ 21 และความมั่นคงของกองทัพจำเป็นต้องอยู่คู่กับความมั่นคงของทหารชั้นผู้น้อย เราต้องการสร้างความมั่นคงในอาชีพให้กับทหารชั้นผู้น้อย เพื่อให้เขามีครอบครัวที่มั่นคงและเข้มแข็ง มีพลังปกป้องและเป็นรั้วของชาติ

“อย่างไรก็ตาม ความมั่นคงทางการทหารและกองทัพยังสำคัญไม่น้อยไปกว่าความมั่นคงทางสาธารณสุข ความมั่นคงทางสิ่งแวดล้อม ความมั่นคงทางดิจิทัลที่เป็นความท้าทายแบบใหม่ของโลก ซึ่งประเทศไทยจะต้องหาสมดุลในจุดนี้ให้ได้ อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่า ธิวัชร์ ดำแก้ว ผู้สมัครฯ สงขลา เขต 6 ที่อยู่เบื้องหลังการอภิปรายในสภาของตนมาตลอด 3 ปี จะอยู่เคียงข้างและเป็นปากเป็นเสียงแทนทหารทุกชั้นยศ ในวันที่เดือดร้อนและไม่ได้รับความเป็นธรรม” นายพิธากล่าว

Advertisement

ด้านนายธิวัชร์กล่าวว่า พรรคก้าวไกลมีนโยบายที่ชัดเจนเรื่องการปฏิรูปกองทัพให้ทันสมัย ซึ่งเรื่องนี้มั่นคงชัดเจนตามที่หัวพรรคได้นำเสนอไปแล้ว ดังนั้น ตนอยากพูดเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งหากได้มีโอกาสเข้าไปรับใช้พี่น้องประชาชน พร้อมที่จะกลั่นกรองความรู้ความสามารถที่มีเข้าไปพัฒนา จ.สงขลา เพราะจากการที่อยู่เบื้องหลังการอภิปรายในสภาของคุณพิธาตลอดระยะเวลา 3 ปี ทำให้รู้ดีว่า หากได้เข้าไปเป็นผู้แทน จะต้องผลักดันประเด็นปัญหาในพื้นที่ เขต 6 สงขลา อย่างไรบ้าง อยากจะบอกว่า ไม่มีที่ไหนในประเทศไทย ที่ตื่นเช้ามาแล้วได้กลิ่นจากโรงงานยางพาราได้เท่าที่นี่อีกแล้ว เพราะที่นี่มีโรงงานยางพารามากเป็นอันดับสองของประเทศ นอกจากนี้ยังมีประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อมในเรื่องของบ่อขยะที่อยู่บนต้นน้ำในเขตอำเภอสะเดา ซึ่งการตั้งบ่อขยะที่ตั้งอยู่บนต้นน้ำโดยไม่มีการตรวจสอบ แสดงให้เห็นว่าผู้แทนฯ คนที่ผ่านๆ มา ไม่มีความใส่ใจในด้านสิ่งแวดล้อม ถึงเวลาแล้วที่ สงขลา เขต 6 ต้องเปลี่ยน สุดท้าย ตนขอแรงสนับสนุนจากพ่อแม่พี่น้อง ในเขต 6 ทุกท่าน ให้ได้เข้าไปเป็นผู้แทนฯ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจ ของพี่น้อง สะเดา-คลองหอยโข่ง ให้ดีกว่าที่เป็นอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในเวทีดังกล่าว ยังมีการปราศรัยของนายประเสริฐพงษ์เป็นภาษาท้องถิ่นภาคใต้ และเนื่องจากทหารส่วนใหญ่ที่มารับฟังเป็นคนท้องถิ่น จึงทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างเป็นกันเองและสนุกสนานอย่างยิ่ง จากนั้นในช่วงบ่าย ได้พรรคก้าวไกล ได้แบ่งทีมหาเสียงออกเป็น 2 ชุด เพื่อรณรงค์หาเสียงในเขตตัวเมือง อ.สะเดา โดยชูนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจชายแดน พัฒนาให้เป็นสากล เทียบเคียงนานาอารยประเทศ โดยเชื่อว่าจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประชาชนในพื้นที่ได้ โดยทีมหาเสียงชุดที่ 1 นำโดย นายพิธาและนายธิวัชร์ ขณะที่อีกชุดหนึ่ง นำโดย น.ส.เบญจา และคณะ ส.ส.โดยตลอดเส้นทางมีประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image