‘บิ๊กตู่’ ประชุม ครม.ถกแก้ปัญหาหมูแพง จับตาเกษตรฯ ของบ 574 ล้าน แก้ผลกระทบโรคระบาด

‘บิ๊กตู่’ ประชุม ครม.ถกแก้ปัญหาหมูแพง จับตากระทรวงเกษตรฯ จ่อของบ 574 ล้านบาท แก้ปัญหาและเยียวยาเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบ Video Conference โดยคาดว่าที่ประชุมจะมีการรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอนที่มีการแพร่ระบาดและกระจายอยู่เกือบทั้งประเทศ และมีอัตราการติดเชื้อที่สูงสะสม 5,000 กว่าราย ภายในระยะเวลาไม่กี่วัน นอกจากนี้จะมีการรายงานสถานการณ์เตียงในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่เฝ้าระวังตามคลัสเตอร์ต่างๆ หลังจากที่ประชุม ศบค.สั่งการยกระดับมาตรการตอบโต้สถานการณ์เชิงรุก บูรณาการส่วนราชการทุกหน่วยงานในการแก้ไขปัญหา เพื่อให้ตอบสนองและทันท่วงที และที่ประชุมจะยังมีการพิจารณาหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉิน โรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

ขณะเดียวกันต้องจับตาการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน โดยเฉพาะการปรับขึ้นราคาเนื้อสุกรที่หน้าเขียงตกอยู่ที่กิโลกรัมละ 250 บาท จากการแพร่ระบาดของเชื้ออหิวาต์ แอฟริกาในสุกร หรือ ASF (African Swine Fever) โดยต้องจับตาในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เตรียมเสนอของบประมาณ 574 ล้านบาท ให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติในการแก้ปัญหาและเยียวยาเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรที่ได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบจากการเกิดโรคระบาดในสุกร

สำหรับบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังจากการหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่ ต่อเนื่องกับการขอความร่วมมือสื่อมวลชน work from home ทำเนียบรัฐบาลได้เปิดให้สื่อมวลชนเข้าปฏิบัติหน้าที่ภายในทำเนียบรัฐบาลได้เป็นวันแรก แม้ว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีการประชุมผ่านระบบ Video Conference ก็ตาม โดยสื่อมวลชนที่เข้าปฏิบัติหน้าที่ภายในทำเนียบรัฐบาลจะต้องปฏิบัติตามระเบียบและมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด พร้อมขอความร่วมมือสำนักข่าวส่งทีมเข้ามาปฏิบัติหน้าที่เพียงสำนักละ 1 ทีมเท่านั้น โดยจะต้องมีการตรวจคัดกรองหาเชื้อผ่านชุดตรวจ ATK โดยต้องนำผลมาแสดงยังเจ้าหน้าที่สํานักโฆษกสํานักนายกรัฐมนตรีเพื่อแลกสติ๊กเกอร์ และคัดกรองอุณหภูมิร่างกาย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ภายในทำเนียบรัฐบาลยังคงยึดตามแนวทาง work from home มีเพียงเจ้าหน้าที่บางส่วนที่เกี่ยวข้องเดินทางเข้ามาปฏิบัติหน้าที่เพียงเล็กน้อย

Advertisement

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image