‘เพื่อไทย’ บอกให้ ‘ประยุทธ์’ ลาออก บอกอายคนอื่นเขา อัดรัฐปกปิดข้อมูลอหิวาต์แอฟริกาในหมู แต่ขอเบิกงบฯแก้โรค จ่อเปิดข้อซักฟอก ม.152 พร้อมยื่น ป.ป.ช.เอาผิดด้วย
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 11 มกราคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท. พร้อมด้วย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา ฐานะประธาน ส.ส.พรรค และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรค พท. ร่วมแถลงถึงแนวทางการดำเนินการกับนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอธิบดีกรมปศุสัตว์ กรณีที่ปล่อยปละละเลย หรือมีพฤติกรรมปกปิดปัญหาการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ซึ่งเป็นผลทำให้เกิดปัญหาหมูล้มตายจนหมูขาดตลาด และราคาหมูพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้พี่น้องเกษตรกรและพี่น้องประชาชนเดือดร้อนอย่างหนัก
โดย นพ.ชลน่านกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องหมูที่ไม่ใช่หมู เพราะจะเป็นเรื่องล้มรัฐบาลได้ เพราะรัฐบาลชุดนี้ปล่อยปละละเลย ก่อความเสียหายต่อบ้านเมืองอย่างใหญ่หลวง เศรษฐกิจฐานรากพังพินาศ เพราะเป็นโรคระบาดสัตว์ รัฐบาลชุดนี้แปลก เจอโรคระบาดแล้วทำงานไม่เป็น ล้มเหลวผิดพลาดตลอด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีประกาศชัดเจนว่าให้การแก้ปัญหาโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมูเป็นวาระแห่งชาติตั้งแต่เมษายน 2562 หลังจากนั้นรัฐบาลไม่ทำอะไรเลย ต่อมา 15 สิงหาคม 2562 นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย พรรค พท. ได้ตั้งกระทู้ถามเรื่องอหิวาต์ในสุกรแต่ก็ไม่มีคำตอบ แต่กลับไปตอบในราชกิจจาฯ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 โดยที่ไม่มีการดำเนินการใดๆ ถือเป็นการปล่อยปละละเลย ทำให้ราคาหมูแพงต่อเนื่องไปถึงราคาอาหารสัตว์อื่นๆ
นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ต้องถามว่ามีหลักฐานชัดเจนว่ามีการปกปิดข้อมูล ถามว่าทำไมต้องปกปิด เพราะ 1.กลัวต้องชดเชยเยียวยาเกษตรกรหรือไม่ 2.ต้องการทำลายล้างเกษตรกรรายย่อยในการเลี้ยงหมู และ 3.ท่านต้องรับผิดชอบทางด้านการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ไปอยู่ไหน ถึงไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชน รมว.เกษตรฯ หายไปไหน ทำไมไม่ประกาศว่ามีการระบาดของโรคเกิดขึ้น โดยพรรค พท.จะนำเรื่องนี้เข้าสู่สภา และขอเรียกร้องไปยังพรรคร่วมรัฐบาลยอมให้พรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นญัตติด่วนด้วยวาจาเพื่อหาทางออก หามาตรการและแนวทางในการแก้ปัญหาประชาชนโดยด่วน นอกจากนี้ จะตั้งกระทู้ถามสด เราต้องการคำตอบจาก รมว.เกษตรฯ ว่าไปดักดานอยู่ที่ไหน ใครเอาเท้าเหยียบปากคุณไว้ และขอประกาศเลยว่ารื่องนี้จะอยู่ในญัตติของการอภิรายทั่วไปตามมาตรา 152 และถ้าไม่มีความรับผิดชอบจากนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ รวมทั้งข้าราชการและผู้เกี่ยวข้อง เรื่องนี้จะนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อไป และจะยื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อถามหาความรับผิดชอบทางการเมือง ส่วนระดับอธิบดีก็จะต้องโดนฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
นายวิสุทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลไม่ยอมบอกความจริง ปกปิดข้อมูลจนทำให้เกิดความเสียหายไปทั่วประเทศ คือหนังสือของกระทรวงเกษตรฯ มีหนังสือถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรและโรคระบาดร้ายแรงในสุกรหรือหมูป่า จากนั้นสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีมีหนังสือตอบกลับเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2564 เรื่องอนุมัติงบกลางเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวประมาณ 574 ล้านบาท แสดงว่ามีความเสียหายจริง แล้วนายกฯ ไปอยู่ไหน ไม่ทราบเรื่องนี้จริงหรือ แบบนี้เสียหาย ในฐานะคนไทยรู้สึกอาย เพราะมีการเกิดโรคระบาดจริง เพราะท่านใช้งบประมาณแผ่นดินแก้ปัญหา แล้วแบบนี้เรียกว่าเบิกเงินเท็จหรือไม่ ขอฝากให้ฝ่ายกฎหมายพรรคดำเนินการด้วย ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์บกพร่องตั้งแต่โรคลัมปีสกิน วันนี้ยังไม่จ่ายเงินชดเชยให้เกษตรกรผู้เลี้ยงวัวเลย นอกจากนี้ธุรกิจเลี้ยงหมูต้องการปรับโครงสร้างทั้งหมด หากสามปีก่อนท่านยอมรับว่ามีโรคระบาดจริง ท่านต้องให้เกษตรกรป้องกันโรคด้วยการบริหารจัดการฟาร์ม ฆ่าเชื้อ หรือกักคน แต่วันนี้ท่านปกปิด ซ่อนเร่น เชื้อจึงระบาดไปทั่ว ท่านไปอ้างว่าเป็นโรคเพิร์ส สุดท้ายหมูติดเชื้อตายหมด
“ดังนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ต้องออกมายอมรับและขอโทษประชาชน วันนี้ความเสียหายเกิดขึ้นหลายแสนล้าน สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนทั้งประเทศ และผู้ผลิตสินค้าที่ส่งออกสินค้าไปต่างประเทศก็ถูกตีกลับ เช่น กุนเชียงที่ถูกไต้หวันตีกลับมาเพราะพบเชื้อ สร้างความเสียหายไปทั่วโลก เพราะท่านไม่แจ้งหน่วยงานระดับโลก ถามว่าใครจะเชื่อถือเรา ท่านโกหกคนทั้งโลก ท่านทำกับคนไทยแบบนี้ได้อย่างไร นายกฯ ไปอยู่ไหน ถ้าผมเป็นนายกฯ จะลาออก เพราะผมอายคนอื่นเขา” นายวิสุทธิ์กล่าว
