กรมโยธาธิการและผังเมือง ดอดศึกษาความเป็นไปได้ ปรับเพิ่มความสูงรั้วทำเนียบฯ ตามข้อเสนอฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายผู้บังคับบัญชาแย้ง ขอใช้งบประมาณในส่วนที่จำเป็นก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า เมื่อช่วงเข้าวันที่ 12 ม.ค. ได้มีตัวแทนจากกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย เข้ามาสำรวจ (เซอร์เวย์)ความเป็นไปได้ ตามข้อเสนอของฝ่ายความมั่นคงที่จะปรับปรุงรั้วโดยรอบทำเนียบรัฐบาลทั้งหมด โดยเฉพาะการปรับปรุงเพิ่มความสูงของรั้วรอบตลอดทั้ง 4 ด้าน โดยเพิ่มความสูงมากขึ้น สืบเนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการปรับพื้นผิว รอบทำเนียบรัฐบาลหลายครั้งทำให้ ความสูงของรั้วเดิมที่มีอยู่ประมาณ 2 เมตรครึ่งต่ำลง อีกทั้งบริเวณถนนโดยรอบด้านนอกทั้งถนนพิษณุโลกและถนนราชดำเนิน ได้การปรับพื้นผิวการจราจรให้สูงขึ้นฝ่ายความมั่นคงจึงได้มีการหารือและเสนอไปยังกรมโยธาธิการและผังเมือง ฯ เพื่อดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ที่จะปรับปรุงความสูงของรั้วเพิ่มขึ้นอีก เพื่อรองรับทั้งในเรื่องความมั่นคงปลอดภัย และความสง่างามของทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้เบื้องต้นทางกรมโยธาธิการและผังเมืองได้มีการสำรวจ ศึกษาความสูงแบบรั้วขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประจำประเทศไทย ที่รู้ว่ามีความสูงประมาณ 4 เมตร ในการปรับภูมิทัศน์รั้วรอบทำเนียบรัฐบาล แต่ทั้งหมด เป็นเพียงแค่การศึกษาความเป็นไปได้ ทั้งหมดต้องคำนึงถึงสถาปัตยกรรมอาคารต่างๆภายในทำเนียบรัฐบาลด้วย โดยเฉพาะตึกไทยคู่ฟ้า รั้วที่เตรียมปรับปรุงจะต้องไม่บดบังทัศนียภาพ
ทั้งนี้ จะมีการนำเสนอแผนและแบบแปลน ไปยัง ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของทำเนียบรัฐบาลก่อน หากผ่านความเห็นชอบก็จะต้องเสนอไปยังกรมศิลปากร เพื่อพิจารณาถึงความเหมาะสม ส่วนจะตัดสินใจอย่างไรคงต้องรอทางกรมศิลปากรและผู้บังคับบัญชาระดับสูงตัดสินใจอีกครั้ง เนื่องจากทำเนียบรัฐบาล หรือบ้านนรสิงห์ ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาณ เขตกรุงเทพมหานคร
สำหรับรั้วทำเนียบรัฐบาลในอดีตก่อนหน้านี้ สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการปรับภูมิทัศน์และเปลี่ยนจากกำแพงรั้วคอนกรีต เป็นเป็นรั้วเหล็กโปร่ง สามารถมองทะลุ และมีการปรับปรุงภูมิทัศน์รวมทั้งต้นไม้นานาชนิดอีกหลายครั้งในเกือบทุกรัฐบาล
รายงานข่าวล่าสุดจาก ทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การศึกษาแนวทางเพื่อปรับปรุงเพิ่มความสูงของรั้วโดยรอบทำเนียบรัฐบาลนั้น เป็นเพียงข้อเสนอหนึ่ง ที่ยังไม่เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการและหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ยืนยันว่า ยังไม่มีแผนหรือความชัดเจนอะไรทั้งสิ้น อีกทั้งปัจจุบันมีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณในส่วนที่สำคัญและเร่งด่วนก่อน
