‘น้องโบ๊ต-ทนายแดง’ เปิดใจน้อมรับผลเลือกตั้ง ลุยทำการบ้านในพื้นที่ ยัน ‘ธรรมนัส’ ทุ่มเท เข้าถึงปัญหาความต้องการของชาวชุมพร-สงขลา
วันที่ 18 มกราคม นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ (น้องโบ๊ต) ผู้สมัคร ส.ส.เขต 6 หมายเลข 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ส่วนตัวต้องขอกราบขอบพระคุณ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ผู้บริหารพรรคทุกท่าน นายสุชาติ ชมกลิ่น ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง โดยเฉพาะร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่เสียสละแรงกาย แรงใจลงพื้นที่มาช่วยหาเสียงให้ตนในพื้นที่เขต 6 สงขลาหลายครั้ง ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วท่านไม่ต้องมาก็ได้ เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบให้ตนในพื้นที่นี้ แต่ด้วยความห่วงใยและหวังดีกับตนอย่างบริสุทธ์ใจ ท่านเลขาฯธรรมนัส พร้อมทีม ส.ส.อีกหลายท่านจึงลงมาช่วยปราศรัยหาเสียงให้ตน และยืนยันว่า ไม่เคยติดใจหรืออึดอัดใจต่อคำปราศรัยของท่านเลขาฯธรรมนัส เพราะตนถือว่าเป็นการปราศรัยสร้างกระแสให้ตน ซึ่งพี่น้องประชาชนและครอบครัว รวมถึงคนที่รู้จักตนดีจะเข้าใจในเรื่องนี้อยู่แล้ว
“ผมต้องกราบขอบพระคุณที่ท่านเลขาฯธรรมนัส ลงพื้นที่มาช่วยหาเสียงให้ผม ส่วนกรณีที่มีกระแสดราม่า จากคำการปราศรัยของท่านเลขาฯนั้น เป็นเพียงการพูดสร้างกระแสในตัวผม ซึ่งพี่น้องประชาชนเข้าใจดีอยู่แล้ว และผมเองก็ไม่เคยติดใจหรืออึดอัดใจอะไรต่อคำพูดดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้ผมได้เคยบอกกับท่านเลขาฯธรรมนัสไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่เห็นด้วยที่ใครจะมาพูดใส่ร้ายพาดพิงว่า กรณีดังกล่าวเป็นจุดเปลี่ยนให้ตนแพ้คะแนนแบบสูสีนักการเมืองคู่แข่งอีกพรรค และอยากวอนขอให้ใครที่ยังพูดใส่ร้ายพาดพิงเรื่องนี้หยุดวาทกรรมดังกล่าวเสียที เพราะผมเองเข้าใจดีที่สุดและไม่เคยคิดว่าเป็นจุดเปลี่ยนแพ้ชนะตามที่หลายคนไปพูดให้เสียหายครับ” นายอนุกูลกล่าวเปิดใจ
นายอนุกูลยังกล่าวย้ำว่า ขอแสดงความยินดีกับพี่น้ำหอม (น.ส.สุภาพร กำเนิดผล) ที่ได้รับเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วย พร้อมกันนี้ต้องขอขอบคุณอีกครั้งต่อทุกคะแนนเสียงที่พี่น้องประชาชนมอบให้กับตน และขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้ ที่ผ่านมาถือว่าทำดีที่สุดแล้ว และยังคงยึดมั่นในเจตนารมณ์เดิมที่ตั้งใจจะเข้ามาทำงานเพื่อพัฒนาบ้านเกิดของตัวเอง และเพื่อประชาชนในพื้นที่ ยังคงเดินหน้าทำงานต่อไป
ด้าน นายชวลิต อาจหาญ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เบอร์ 4 พรรคพลังประชารัฐ หรือ “ทนายแดง” กล่าวขอบคุณพี่น้องชาวชุมพรทุกคน ที่ลงคะแนนเสียงให้ในครั้งนี้ ถือเป็นคะแนนเสียงที่ยังยึดมั่นในตัวผม และพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งยอมรับกับผลคะแนนที่ได้มา จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทำการบ้านเพิ่ม เพื่อวิเคราะห์ความต้องการของคนในพื้นที่ พร้อมจับเข่าคุยเจาะลึกถึงปัญหา กับพี่น้องที่มีความต้องการให้พรรคเข้าไปช่วยเหลือ ในการผลักดัน เพื่อแก้ไขได้อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตามในการเลือกตั้งครั้งนี้ ด้วยปัจจัยระยะเวลาที่สั้น แต่ธรรมชาติของคนชุมพร ต้องการเข้าถึง มีความเฉพาะตัวสูง มีการสานสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เข้าใจแก่นแท้ของบริบทของชุมพร
อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค และผู้บริหารพรรค โดยเฉพาะร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค ที่มีความตั้งใจจริงในการลงพื้นที่มาช่วยหาเสียงอย่างหนัก ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างพลังใจให้กับทีมหาเสียงเลือกตั้ง โดยการลงมาอยู่พื้นที่อยู่ต่อเนื่อง หลังจากนี้เราจะทำงานร่วมกับพรรคในเชิงรุก เพื่อยึดพื้นที่นี้ให้ได้ ในสนามเลือกครั้งต่อไป เพื่อซื้อใจคนชุมพร และต้องทำงานแก้ไขปัญหาเรื่องของการทำกิน ทั้งในเรื่องประมง และเกษตร ซึ่งถือเป็นอาชีพหลัก ซึ่งผมพร้อมด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี ที่อยู่ในท้องถิ่น และการเป็นคนในพื้นที่ เข้าใจถึงความต้องการของชาวชุมพร จากนี้ไปต้องมองไปข้างหน้าและให้ความสำคัญของทุกปัญหาที่เกิดขึ้นกับประชาชน ซึ่งผมจะเสนอให้พรรค เข้ามาร่วมรับฟังปัญหา สู่การแก้ไขให้เกิดขึ้นจริง
