บทนำ : ผลจากการป้องกันดี

เมื่อโรคโควิดสายพันธุ์โอมิครอนระบาดทำให้ทุกฝ่ายเกิดความหวั่นไหว เพราะเคยมีประสบการณ์จากสายพันธุ์เดลต้าที่ส่งผลกระทบเป็นอย่างมาก ทั้งคร่าชีวิตผู้คน และทำลายธุรกิจ กระทั่งเมื่อช่วงปีใหม่ กระทรวงสาธารณสุขได้เตือนภัยพร้อมฉายภาพการประเมินที่เรียกว่าฉากทัศน์การระบาด ระบุว่า หากควบคุมได้ดีจะระบาดประมาณ 10,000 คนต่อวัน หากควบคุมได้ไม่ดีจะพุ่งไปถึงวันละ 30,000 คนต่อวัน จึงขอความร่วมมือจากคนไทยและทุกองค์กรให้ช่วยกันป้องกันการระบาดตามมาตรการทางสาธารณสุข

กระทั่งเมื่อเวลาผ่านไป นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ได้เชิญ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค หารือและชี้แจงให้ฟังว่าในการพิจารณามาตรการใดๆ ให้คำนึงถึงมิติเศรษฐกิจ การทำมาหากิน และการใช้ชีวิต เพื่อให้ประชาชนดำเนินชีวิตเป็นปกติมากที่สุด โดยกรมควบคุมโรคแถลงไปแล้วว่า แม้เชื้อโอมิครอนติดเชื้อได้เร็ว แต่จากวิจัยที่รายงานเข้ามาพบว่ามีความรุนแรงน้อยกว่า รวมถึงเราอยู่ในจุดที่รับมือได้ เพราะฉีดวัคซีนได้ตามเป้า และมีแนวปฏิบัติเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด จากนี้ ต้องเสนอให้มีการปรับมาตรการต่างๆ เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงกับปกติ แต่ก็ต้องปลอดภัยด้วย

มาตรการที่เสนอให้ปรับเปลี่ยนจะต้องผ่านการพิจารณาจาก ศบค.วันที่ 20 มกราคม โดยจะมีมาตรการเกี่ยวกับพื้นที่สีจังหวัด การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และอื่นๆ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือมาโดยตลอด ขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือต่อไป เพราะยิ่งให้ความร่วมมือมาก จะนำไปสู่การผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ภาครัฐจะมีความกล้าตัดสินใจ ภาครัฐต้องเข้าใจการทำมาหากินของประชาชน ภาคประชาชนและภาคเอกชนต้องเข้าใจภาครัฐ ที่ต้องต่อสู้กับการระบาดในภาพรวม

ผลจากการร่วมมือกับป้องกันการระบาด ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมด้านวัคซีนที่จะฉีดให้ประชาชน หรือภาคเอกชนที่ให้ความร่วมมือใช้มาตรการทางสาธารณสุขในการค้าขาย รวมไปถึงภาคประชาชนที่ดำรงชีวิตตามวิถีใหม่ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ รวมไปถึงการเข้ารับวัคซีนตามกำหนดเวลาที่แพทย์แนะนำ ทุกอย่างมีผลต่อการระงับการระบาด และผลจากการป้องกันโรคที่ดี ทำให้ทุกชีวิตสามารถหารายได้ และอยู่ได้อย่างมั่นใจว่าชีวิตจะปลอดภัย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image