‘รองโฆษก พท.’ ชี้รัฐเก็บภาษีที่ดินเต็มอัตรา ยิ่งซ้ำเติมวิกฤต อัด เก่งแต่ขูดรีด ปชช.

 

‘รองโฆษก พท.’ ชี้รัฐเก็บภาษีที่ดินเต็มอัตรา ยิ่งซ้ำเติมวิกฤต อัด เก่งแต่ขูดรีด ปชช. แนะหยุดซื้อยุทโธปกรณ์ดีกว่า

เมื่อวันที่ 19 มกราคม นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมจัดเก็บ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เต็มอัตรา 100% ในปี 2565 ว่า รัฐบาลกำลังจะซ้ำเติมวิกฤตประชาชนที่ยังมีรายได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง ให้ล้มตายกันมากขึ้น เพราะภาษีตัวนี้จะกระทบกับผู้ประกอบการที่ยังไม่ฟื้นตัวจากผลกระทบของโรคระบาดโควิด-19 หากรัฐจะเก็บ ภาษีที่ดิน แล้ว จากเดิมที่เคยมีต้นทุนการทำธุรกิจที่เกิดขึ้นจากภาษีที่ดิน 10% จะเพิ่มขึ้นเป็น 100% ทันที เมื่อต้นทุนเพิ่มขึ้นจะยิ่งทำให้สินค้าอุปโภคบริโภคที่ได้รับผลพวงจากการปรับภาษีจะยิ่งแพงขึ้น และอาจกลายเป็นค่าใช้จ่ายสะสมที่สูบเลือดสูบเนื้อ ผลสุดท้ายคนที่รับกรรมคือประชาชน

นายชนินทร์กล่าวว่า รัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังคงบริหารจัดการแผ่นดินแบบคงเส้นคงวา หาเงินไม่เป็น ทำได้เพียงแต่ขึ้นภาษีเอากับประชาชน ในสภาวการณ์เช่นนี้ผู้ครอบครองที่ดินเปล่าที่เป็นประชาชนคนทั่วไป จะหาเงินจากไหนมาจ่ายภาษีได้ เพราะบางคนตกงาน ไม่มีรายได้ มีที่ดินแต่ไม่มีทุนทำต่อ ส่วนในกลุ่มของผู้ประกอบการเองก็ยังไม่มีความพร้อมในการลงทุนตอนนี้ เพราะสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โรคระบาดยังไม่มีทีท่าว่าสถานการณ์จะดีขึ้น เพราะมีรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทุกด้าน ทั้งนี้ แม้องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นถูกแช่แข็งขาดการพัฒนา เพราะขาดรายได้จากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว แต่ในยามวิกฤตเช่นนี้ รัฐบาลที่ดีก็ควรคิดปรับโครงสร้างการใช้งบประมาณในภาพรวม อุดหนุนเม็ดเงินมาเติมในส่วนนี้ เพื่อให้ทั้งองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น และภาคธุรกิจต่างๆ สามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ ไม่ใช่คิดแต่ขูดรีดเอาภาษีจากประชาชนท่าเดียว

“จริงๆ แล้วยังมีวิธีการอื่นที่สามารถหางบประมาณมาอุดหนุนส่วนนี้ได้ เช่น 1.ออก พ.ร.บ.โอนงบประมาณ โยกงบจัดซื้อยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่จัดเตรียมไว้ในงบประมาณประจำปี 2565 ตลอดจนงบซื้อเครื่องบินรบ และอื่นๆ ที่เตรียมขออนุมัติในงบประมาณประจำปี 2566 รวมมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท มาเพื่ออุดหนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2.ใช้งบฟื้นฟูเศรษฐกิจ จากงบประมาณตาม พ.ร.ก.กู้เงิน ทั้ง 2 ฉบับ รวม 1.5 ล้านล้านบาท มาชดเชยและฟื้นฟูท้องถิ่นตามวัตถุประสงค์ แทนที่จะเก็บไว้โยกไปใช้กับโครงการประชานิยมจนหมด ทั้งนี้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศไทยจนถังแตก สร้างเศรษฐกิจ สร้างรายได้ไม่เป็น เก่งแต่ขูดรีดค่าธรรมเนียมและภาษีเอาจากประชาชนที่หมดทางสู้ หากท่านยังคิดจะอยู่เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตและการทำมาหากินของประชาชนต่อ ประเทศไทยคงได้พังทั้งแผ่นดิน” นายชนินทร์กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image