สภาถกเครียด พ.ร.ก.สารต้องห้ามนักกีฬา เพื่อไทยชี้ไม่เข้าเงื่อนไข ก่อนที่ประชุมลงมติเห็นชอบ

สภาราบรื่นองค์ประชุมไม่สะดุด ถกเครียดก่อนอมุมัติ พ.ร.ก.สารต้องห้าม ฝ่ายค้านแตะเบรกบอกเสนอพ.ร.ก.โดยมิชอบ ขอให้เสนอกลับมาเป็นพ.ร.บ.อีกครั้ง

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 19 มกราคม ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่การประชุม ถือเป็นการประชุมสภานัดแรก หลังปีใหม่ หลังจากหยุดประชุมไป 2 สัปดาห์ เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 แม้จะมีปัญหา ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลหลายคนถูกกักตัว เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงไปใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด แต่ก็สามารถเปิดการประชุมสภาได้ มีสมาชิกเซ็นชื่อเข้าร่วมประชุม 317 คน ถือว่าครบองค์ประชุม จากจำนวน ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ในขณะนี้ 473 คน ส่วนการประชุมพิจารณาร่างกฎหมายต่างๆ ในช่วงเช้าเป็นไปอย่างราบรื่น โดยร่างพ.ร.บ.ยกเลิกกฎหมายบางฉบับที่หมดความจำเป็นหรือซ้ำซ้อนกฎหมายอื่น และร่างพ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ ไม่มีปัญหาเรื่องการแสดงตนเป็นองค์ประชุม เพราะ ส.ส.ฝ่ายค้านให้ความร่วมมือเป็นองค์ประชุมในการพิจารณากฎหมายทั้งสองฉบับ มี ส.ส.แสดงตนเป็นองค์ประชุมเกินกึ่งหนึ่งเป็นจำนวนมาก ทำให้การพิจารณากฎหมายแต่ละฉบับผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาไปด้วยดี

ต่อมาเวลา 13.00 น. เข้าสู่การการพิจารณา พ.ร.ก.กำหนดพิกัดอัตราศุลกากร (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2564 ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ ซึ่งการอภิปรายเป็นไปอย่างราบรื่น ที่ประชุมลงมติอนุมัติ พ.ร.ก.ดังกล่าว

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

จากนั้นเข้าสู่วาระการพิจารณา พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา ตามที่ ครม. เสนอมา โดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แถลงถึงเหตุผลการแก้ไข พ.ร.ก.ว่าเพื่อแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับสารต้องห้ามทางการกีฬาให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับมาตรฐานสากลในอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการต่อต้านการใช้สารต้องห้ามในการกีฬา โดยสมาชิกส่วนใหญ่เห็นด้วยกับ พ.ร.ก.ดังกล่าว เพื่อปลดล็อกประเทศไทยจากการถูกแบนโดยองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (WADA) เห็นว่า เป็นเรื่องเร่งด่วน แต่ตำหนิภาครัฐที่ทำงานล่าช้าแก้ไขกฎหมายสารกระตุ้น ทำให้ถูกลงโทษไม่สามารถใช้ธงชาติไทยในการแข่งขันระดับนานาชาติได้

“หากไม่มีการแก้ไขอย่างเร่วด่วนจะส่งผลกระทบต่อการจัดการแข่งขันกีฬาระดับชาติและระดับนานาชาติ ที่ประเทศไทยได้รับสิทธิจัดการแข่งขันมาแล้ว และมีกำหนดที่จะจัดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้หลายรายการ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างรุนแรงทั้งทางตรงและทางอ้อม และจะทำให้ประเทศไทยไม่สามารถเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาในระดับชาติและระดับนานาชาติใดๆ ที่มีผลประโยชน์ตอบแทนต่อระบบเศรษฐกิจประเทศสูง” นายพิพัฒน์ กล่าว

Advertisement

จากนั้นเปิดให้สมาชิกอภิปรายแสดงความคิดเห็น โดยนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า เนื้อหาใน พ.ร.ก.ทั้งการแก้ไขบทนิยามสารต้องห้าม และนักกีฬา การให้คณะกรรมการควบคุมสารต้องห้ามเป็นอิสระจากรัฐ การกำหนดบทลงโทษการใช้สารกระตุ้นให้ได้มาตรฐานสากล มีใครคัดค้าน แต่ติดใจการทำงานของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ล่าช้าเรื่องแก้ไขกฎหมายสารกระตุ้น จนไม่สามารถใช้ธงชาติไทยในการแข่งขันระดับนานาชาติได้ แม้วาด้าเตือนประเทศไทยมาเป็นปีๆ แล้ว แต่ไม่แก้ไข ไม่มีคำขอโทษจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล

ขณะที่นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายว่า ฝ่ายค้านไม่สบายใจที่ พ.ร.ก.ดังกล่าวออกโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ไม่เข้าเงื่อนไขการ ออก พ.ร.ก.จึงไม่อยากมีส่วนรวมกระทำผิดอนุมัติ พ.ร.ก.ฉบับนี้ ฝ่ายค้านไม่สามารถอนุมัติให้ได้ ทางออกที่ดีคือ ขอให้เสนอกลับเข้ามาเป็น พ.ร.บ.อีกครั้ง ฝ่ายค้านพร้อมให้ตั้งคณะกรรมาธิการเต็มคณะพิจารณา 3 วาระรวดให้ความเห็นชอบในวันเดียว เพื่อความรวดเร็ว ส่วนเนื้อหาใน พ.ร.ก.ที่ระบุว่าให้จัดตั้งสำนักงานควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬาเป็นหน่วยงานใน กกท.ที่มีความเป็นอิสระในการปฏิบัติงานนั้น ดูแล้วยังไม่ถือว่า เป็นหน่วยงานอิสระจริงๆ เพราะยังอยู่ภายใต้ กกท. จะอิสระได้อย่างไร วาด้าจะให้การยอมรับหรือไม่

สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย

ด้านนายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ชี้แจงว่า หลังจากเกิดปัญหาขึ้น กกท.ได้ประสานงานแก้ปัญหากับวาด้าอย่างใกล้ชิดมาตลอด เพื่อแก้ปัญหา กรณีสำนักงานควบคุมการใช้สารต้องห้ามที่ยังอยู่ใน กกท.นั้น ไม่เป็นปัญหา เพราะวาด้าไม่ได้เข้มงวดถึงขั้นให้ตั้งเป็นองค์กรอิสระ แค่ให้มีอิสระการทำงาน ได้ส่งเนื้อหา พ.ร.ก.ที่แก้ไขให้วาด้าตรวจสอบแล้ว วาด้าให้การยอมรับใน พ.ร.ก. และวาด้าเตรียมเสนอปลดล็อกประเทศไทยต่อบอร์ดวาด้าในวันที่ 2 ก.พ.นี้ ถ้าได้รับการอนุมัติประเทศไทยจะสามารถกลับมาเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติได้

Advertisement

ทั้งนี้ หลังจากสมาชิกอภิปรายครบถ้วนทุกคนแล้ว ที่ประชุมลงมติอนุมัติ พ.ร.ก.ดังกล่าว ด้วยคะแนน 230 ต่อ 118 งดออกเสียง 3 ไม่ลงคะแนน 2

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image