“จิรายุ” ชี้ 14 วันอันตราย จับตา-หาทางแก้ ปม วาด้าจะยังแบนธงชาติไทยหรือไม่
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 20 มกราคม ที่รัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน แถลงผลการประชุม กมธ. กรณีองค์การต่อต้านสารกระตุ้นโลก (WADA) ได้ทำการแบนธงชาติไทยว่า เมื่อวันที่ 19 มกราคม รัฐบาลได้นำ พ.ร.ก.เข้าสู่การประชุม และผ่านการเห็นชอบไปแล้ว ซึ่งกมธ.ได้เชิญการกีฬาแห่งประเทศไทย นายก้องศักด ยอดมณี และผู้แทนสำนักงานกฤษฎีกา ผู้แทนสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย นายกสมาคมกีฬาแบตมินตันแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย เข้าชี้แจง ซึ่งทางการกีฬาได้ชี้แจงว่า การออกพ.ร.ก.จะมีการประกาศภายใน 90 วัน ซึ่งทาง กมธ.ได้ให้ข้อสังเกตว่า กรณีที่วาด้าจะพิจารณาอีกครั้งในต้นเดือนกุมภาพันธ์เท่ากับจะมีเวลานับจากวันนี้ประมาณ 14 วัน พ.ร.ก.จะออกมาบังคับใช้ทันกำหนดหรือไม่ จึงขอให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ซึ่งผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยได้ยืนยันว่า จะเร่งทำให้เสร็จภายใน 7 วัน
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กมธ.ให้ข้อสังเกตกรณีที่แต่ละการแข่งขันจะมีผู้สนับสนุนของสมาคมกีฬา มีสปอนเซอร์ติดหน้าอกเป็นโลโก้สินค้า ซึ่งมีมูลค่านับหมื่นล้านบาท หากวาด้ายังแบนต่อถึงวันที่ 1 ตุลาคมปีนี้ ประเทศไทยจะสูญเสียเม็ดเงินเป็นจำนวนมากจากสมาคมกีฬา ทางสมาคมกีฬาก็มีความกังวลใจในเรื่องนี้ แต่ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยรับว่า จะเร่งดำเนินการ และนำเสนอแก่วาด้า กมธ.จึงแนะนำว่า ถ้าวันที่ 2 กุมภาพันธ์ วาด้าเห็นว่า การประกาศ พ.ร.ก.ยังไม่สามารถใช้จริง ก็ควรมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวไว้ว่าในเรื่องธงชาติจะให้ขึ้นเป็นธงโอลิมปิคแห่งประเทศไทย หรือขึ้นในนามของสมาคมกีฬาได้หรือไม่ แต่ตนยังมั่นใจว่า วันที่ 2 กุมภาพันธ์ วาด้าจะต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ กมธ.ไม่ห่วงกิจการภายในประเทศ แต่เป็นห่วงเรื่องภายนอกประเทศที่ในวงการกีฬาจะมีกลุ่มคนที่คอยยุ โดยเฉพาะในระดับอาเซียน ที่คู่แข่งส่งข้อมูลให้กับหน่วยงานต่างๆ พิจารณา เพิกถอนสิทธิ แบนธงชาติ ตนจึงไม่อยากให้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้
