‘วิษณุ’ รับรบ.สุ่มเสี่ยง เรือเหล็กล่มได้ทุกเมื่อ ชี้สนิมเกิดจากเนื้อใน ไม่ใช่ฝ่ายค้าน

วิษณุ เครืองาม

‘วิษณุ’ ชี้ ‘ลาออก-ยุบสภา’ ไม่ใช่ทางออกของเกมการเมือง แนะ คลอดกม.ลูก 2 ฉบับก่อน รับ ‘นายกฯ-รัฐบาล’ อยู่ในช่วงสุ่มเสี่ยง-หนักหน่วง ย้อนคำพูดเตือนใจ “สนิมเกิดแต่เนื้อในตน”

เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 20 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขับ 21 ส.ส. กลุ่ม ร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า พ้นจากสมาชิก พรรค พปชร. ซึ่งส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลในสภา ว่า ตนตอบไม่ถูก เรื่องนี้ฝ่ายการเมืองต้องเป็นคนดูแลรับผิดชอบกันไป มาถามตนตอบไม่ได้ ขณะนี้รัฐบาลยังคงเป็นรัฐบาล และอีกไม่นานก็จะหมดสมัยประชุมสภาอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นมีเวลาที่จะบริหารจัดการ แต่จะจัดการอย่างตนไม่ทราบ อยู่ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ที่จะช่วยคิดกันว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วจะทำอย่างไรกันต่อ

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากนายกฯตัดสินใจยุบสภาในขณะที่ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ ร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง ยังไม่ผ่านจะทำได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า จะเรียกว่าค้างอยู่อย่างนั้น หรือเรียกว่าตกไปก็ได้ เพราะเมื่อยุบสภาแล้วจะไม่สามารถประชุมสภาได้ ซึ่งกฎหมายทั้งสองฉบับจะต้องเข้าสู่ทั้งสองสภา แต่ถ้าเหลือเพียงส.ว. ก็ประชุมโดยลำพังไม่ได้ จึงค้างอยู่เท่ากับว่า ไม่มีกฎหมายลูก และเมื่อยุบสภา แล้วจะต้องเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน แล้วจะเลือกกันอย่างไร ตนก็นึกไม่ออก และตนเคยตอบมาหลายเดือนแล้วว่า หากมีเหตุยุบสภาขึ้นก็ไม่ต้องทำอย่างไรกัน

เมื่อถามว่า หากเป็นรัฐบาลรักษาการจะนำกฎหมายลูกทั้งสองฉบับมาออกเป็น พ.ร.ก. ได้หรือไม่นายวิษณุ กล่าวว่า “ก็มีข้อเสนอแนะอย่างนั้น แต่ผมไม่เห็นด้วย และคิดว่าไม่ใช่วิธีที่ฉลาด เพราะการออกเป็น พ.ร.ก.เป็นการที่รัฐบาล กำหนดฝ่ายเดียว เท่ากับว่ากติกานี้รัฐบาลกำหนด”

เมื่อถามว่า จะกลับไปใช้กฎหมายเดิมได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช้กฎหมายเดิมไม่ได้ เพราะรัฐธรรนูญได้รับการแก้ไข และประกาศใช้ไปแล้ว ก็ต้องจัดการเลือกตั้งอยู่ดี แต่จัดอย่างไรตนนึกไม่ออกจริงๆ และเคยถามทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว กกต.ก็คิดไม่ออก ถึงอย่างไรก็ต้องให้กฎหมายลูกผ่านออกมาใช้เสียก่อน จะได้มีกลไกและเครื่องมือใช้ในการเลือกตั้ง

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามว่า ระยะเวลาที่สั้นที่สุดในการพิจารณาลูกทั้งสองฉบับให้ผ่านต้องใช้เวลาเท่าไหร่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ใช้เวลายาวอยู่ดี เพราะถ้าพิจารณาแบบเร็วและยังมีการแก้ไขอยู่อีก และถาม กกต.อีกว่าพอใจตามนั้นหรือไม่ หาก กกต.ไม่พอใจ กกต.ก็จะมีสิทธิ์ให้สภาแก้ไขใหม่ ต้องใช้เวลา แต่ถ้าทุกอย่างราบรื่นแล้วเป็นไปตามร่าง ก็ใช้เวลา 1 เดือนก็จะได้ แต่ตนไม่คิดว่าจะราบรื่น เพราะตนเชื่อว่าสภาเองก็อยากแก้ไขอยู่ดีไม่ว่าจะฝ่ายค้านหรือรัฐบาล เมื่อแก้แล้วก็กลับไปถามกกต.อีกว่าพอใจหรือไม่ เนื่องจากรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่ากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญมาจากใคร ต้องกลับไปถามคนนั้น ตนถึงได้ตอบคำถามสื่อตั้งแต่ต้น ตนตอบไม่ถูก เพราะเป็นการสมมุติในสิ่งที่ไม่เห็นทาง

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่านายกฯ ไม่ควรยุบสภาก่อนที่กฎหมายลูกทั้งสองฉบับจะเสร็จใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่ คำตอบคืออย่างนั้น เมื่อถามถึงความคืบหน้ากฎหมายลูกสองฉบับเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ยังเดินไปตามปกติหรือไม่ นายวิษณุ บอกว่า ใช่ และ กกต.จะส่งเข้าครม.สัปดาห์หน้า และ หากผ่านครม. แล้ว ก็จะส่งสภาได้ทันที

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ จะใช้วิธีลาออกเพื่อแก้ปัญหาได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ได้ แต่วิธีนั้นจะแก้ปัญหาอะไร แก้ได้อย่างไร ถ้าเลือกนายกฯ ใหม่ ก็ต้องถามแก้ปัญหาอะไรได้ เพราะสภายังเป็นสภาเดิม เสียงยังอยู่แบบเดิม ใครอยู่พรรคไหนก็อยู่พรรคนั้นเหมือนเดิม จะย้ายพรรค ยุบพรรค ไม่ได้ทั้งนั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ส.ส.ขอให้พรรคขับตัวเองออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ในกฎหมายทำได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า จะขอก็ขอไป แต่อยู่ที่พรรคต้นสังกัดจะว่าอย่างไร แล้วแต่มติพรรคว่าอย่างไร เพราะเป็นเรื่องภายในของพรรค

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้เสียงของพรรคร่วมรัฐบาลลดลงไปจะทำให้รัฐบาลลั่นคลอนหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นเรื่องการเมือง ตนตอบไม่ถูก อย่างไรก็ตาม ในอดีตก็มีเหตุการณ์คล้ายแบบนี้ แต่ถึงแม้เสียงหายไป รัฐบาลยังเป็นเสียงข้างมาอยู่ ขณะนี้อย่าไปคิดว่าพรรค พปชร. เป็นพรรคที่มีเสียงข้างมาก เพราะเมื่อรวมกับพรรคร่วมรัฐบาล รัฐบาลก็คือเสียงข้างมากก็เป็นรัฐบาลได้ และไม่ได้เรียกว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อย

เมื่อถามว่า หลังจากมีเหตุวุ่นวายทางการเมืองนายกฯได้ปรึกษาข้อกฎหมายกับนายวิษณุหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มี ไม่ได้หารือ ยังไม่ได้พบเจอนายกฯ และเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 19 มกราคม ขอให้รอสักพักหนึ่ง และตนเชื่อว่าตอนนี้ยังไม่มีใครตอบอะไรได้ ทั้งนั้นเพราะทุกคนกำลังอ่านเกมอยู่ อ่านกติกา อยู่ และหาทางออกอยู่ และต้องถามผู้ที่มีอำนาจเกี่ยวข้อง เพราะนี่คือเรื่องของการจัดตั้งรัฐบาล ตนจึงยังตอบอะไรไม่ถูก

เมื่อถามย้ำว่า ขณะนี้ถือว่ารัฐบาลอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ใช่” เมื่อถามย้ำว่า และพร้อมที่จะเกิดอุบัติเหตุทุกเวลาใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ใช่ครับ” เมื่อถามย้ำว่า นายกฯ จะต้องเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ทั้งนายกฯ และ พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหลาย ที่จะต้องรีบแก้

“ผมถึงเคยพูดตั้งแต่ตอนตั้งรัฐบาลเมื่อ 2 ปีที่แล้วว่า รัฐบาลเป็นเรือเหล็ก แต่เป็นเรือลำเล็ก และสนิมเหล็กเกิดแต่ในเนื้อในตน มันไม่ ได้มาจากฝ่ายค้านหรอก” นายวิษณุ กล่าว

เมื่อถามย้ำว่า รัฐบาลทำให้เกิดปัญหาเองใช่หรือไม่ นายวิษณุ หยักหน้าพร้อมกล่าวว่า “ครับ”

เมื่อถามว่าขณะนี้ นายกฯ อยู่ในสภาวะที่หนักหน่วงใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “อือ”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่บอกว่า นายกฯ และ พรรคร่วมรัฐบาลต้องรีบแก้ปัญหานั้น จะให้แก้อย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า “ผมไม่รู้ และ ผมไม่มีคำแนะนำ เพราะผมจะแนะนำนายกฯ ผ่านสื่อได้อย่างไร คงไม่ต้องเตรียมคำตอบอะไร เพราะผมไม่เกี่ยว”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image