‘กรุณพล-โรม’ หาเสียงชุมชนท่าทราย ปราศรัยกร้าว หมดเวลาประนีประนอมทุนผูกขาด อ้อนกาเบอร์ 6 ดันเป็น ส.ส.เข้าตรวจสอบรัฐบาล-เป็นปากเสียงให้ ปชช.
เมื่อวันที่ 20 มกราคม นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 9 เบอร์ 6 พรรคก้าวไกล (ก.ก.) พร้อมด้วย นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. ร่วมรณรงค์หาเสียง เดินพบปะประชาชนที่ตลาดท่าทราย แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ โดยมีประชาชนจำนวนมากให้การต้อนรับ โบกไม้โบกมือทักทาย พร้อมทั้งเข้ามาขอถ่ายรูป นอกจากนี้ เพชร กรุณพล ยังร่วมเตะฟุตบอลกับเยาวชนที่สนามกีฬา ศูนย์เยาวชนหลักสี่ด้วย
นายกรุณพลกล่าวว่า วันนี้กลับมาพบปะพี่น้องชาวชุมชนท่าทรายอีกครั้ง ได้รับการต้อนรับอย่างดีมาก ทำให้ตนยิ่งมั่นใจสำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 30 มกราคมนี้ และโอกาสนี้อยากขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ไปร่วมฟังการปราศรัยใหญ่ของพรรค ก.ก. ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 22 มกราคมนี้ด้วย วันนี้หมดเวลาการประนีประนอมกับรัฐบาลชุดนี้ หมดเวลาประนีประนอมกับทุนผูกขาด รวมถึงหมดเวลาแล้วกับการประนีประนอมกับกองทัพที่จ้องแต่จะซื้ออาวุธสงครามโดยไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชน ดังนั้น ต่อไปนี้จะเป็นเวลาที่ประชาชนจะลุกมาทวงถามความชอบธรรม ทวงถามถึงวิสัยทัศน์และความมีประสิทธิภาพในการบริหารประเทศ ประชาชนจะใช้การเข้าคูหาครั้งนี้สั่งสอนรัฐบาล
“ผมขอโอกาสเข้าไปทำงานในสภาในระยะเวลาที่เหลือ เพื่อร่วมตรวจสอบการใช้งบประมาณที่มาจากภาษีของประชาชนอีกมูลค่ากว่า 3.3 ล้านล้านบาท จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด เพื่อให้เงินจำนวนนี้ถูกใช้ไปอย่างคุ้มค่า ในภาวะที่ยากลำบาก ในภาวะที่ข้าวของแพงทั้งแผ่นดิน เราต้องการ ส.ส.ที่พร้อมจ้องหน้าประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แล้วตั้งคำถามเรื่องความคุ้มค่าในการใช้งบประมาณเพื่อประชาชน
“ผมพร้อมจะชนกับต้นตอของปัญหาเหล่านี้ อย่างที่ผ่านมา ส.ส.พรรคก้าวไกลได้พิสูจน์ให้เห็นมาแล้ว และผมขอโอกาสจากพี่น้องประชาชนเข้าไปเป็นคนทำหน้าที่นี้อีกคนหนึ่ง” นายกรุณพลกล่าว
ด้านนายรังสิมันต์กล่าวว่า สำหรับใครกำลังลังเลกับการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ อยากเชิญชวนกาเบอร์ 6 ให้นายกรุณพล เราเกิดขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ เราไม่ได้ต้องการมีตำแหน่ง ส.ส.เพื่อเอาไปต่อรองขอตำแหน่งรัฐมนตรี แต่เราจะเป็น ส.ส.เพื่อเป็นปากเสียงให้ประชาชน พูดจริง ทำจริง ไม่เกี้ยเซี้ยกับกลุ่มอำนาจและชนชั้นนำที่ได้ผลประโยชน์
นายรังสิมันต์กล่าวว่า เชื่อว่าปัญหาต่างๆ เช่น หมูแพง ล้วนเป็นเรื่องการเมือง และการแก้ปัญหาก็ไม่ใช่แค่ให้เงินแล้วจบ ความแพงที่ประชาชนได้รับนี้มีคนบางกลุ่มที่เอาความเดือดร้อนของพี่น้องมาเป็นประโยชน์ของตนเอง นี่เป็นปัญหาการเมืองที่เราต้องการคนจริง ไม่หวาดกลัวต่ออำนาจรัฐ หรืออำนาจใด เข้าไปตั้งคำถาม เข้าไปตรวจสอบให้เกิดการแก้ปัญหา
