‘วิษณุ’ เผย 24 ม.ค.นี้ ครม.ถกกม.ลูก 2 ฉบับของรัฐบาล ก่อนชงสภา ยัน เสร็จตามไทม์ไลน์เดิม ก.ค. 65 วัดใจ ส.ว. ไฟเขียวแก้ของเก่าสมัย สนช.
เมื่อเวลา 16.50 น. วันที่ 21 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เลื่อนจากวันองคารที่ 25 มกราคม มาเป็นวันที่ 24 มกราคม เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ติดภารกิจ ทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จะส่งร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ ร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง เข้าที่ประชุม ครม. ในวันนั้นหรือไม่ ว่า คิดว่าจะนำเข้า ครม. ในวันดังกล่าว และเมื่อส่งสภาแล้วจะเป็นการพิจารณาร่วมของรัฐสภา ซึ่งได้ประสานงานกับ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งนายชวน รับปากว่าจะรีบบรรจุวาระนี้ในการประชุมร่วมรัฐสภา เพราะจะมีทั้งร่างของรัฐบาล ร่างของพรรคร่วมรัฐบาล และร่างของพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยจะต้องเข้าพร้อมคราวเดียวกันทั้ง 3 ฉบับ ซึ่งเนื้อหาของแต่ละฉบับไม่ตรงกัน แต่สิ่งที่จะทำให้เรื่องนี้ล่าช้าคือ การนัดหมายประชุมร่วมรัฐสภา คิดว่าการพิจารณาวาระที่ 1 น่าจะพิจารณาในวันเดียว
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรี ได้มาปรึกษาอะไรหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีไม่ได้มาหารือเรื่องกฎหมายลูก อย่างไรก็ตาม ในการประชุม ครม. เพื่อพิจารณากฎหมายดังกล่าว ต้องรายงานในที่ประชุมด้วย
ผู้สื่ออข่าวถามว่า การประชุม ครม.วันดังกล่าว จะกลับมาเป็นแบบองค์ประชุมเต็มคณะใช่หรือไม่ และแสดงว่ารัฐบาลหมดความกังวลเรื่องโควิด-19 แล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ใช่ไม่กังวล แต่เคยหารือเมื่อการประชุมครั้งที่แล้วว่า การประชุม ครม. ครั้งต่อไปน่าจะกลับมาสู่รูปแบบปกติได้ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็ถามอยู่หลายครั้ง ว่าเมื่อไหร่จะให้กลับมาประชุมที่ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งนายกรัฐมนตรี บอกว่าเอาทีละขั้นตอน คือให้กลับมาประชุมที่ตึกสันติไมตรีก่อนแล้วกัน
เมื่อถามว่า ไทม์ไลน์การออกกฎหมายลูก ตอนนี้ยังเป็นไปตามเดิมที่จะเสร็จสิ้นในช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 ตามที่เคยระบุไว้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า กะเวลาไว้เต็มที่แบบนั้น แต่ถ้าทำได้เร็วกว่านั้นได้ก็เป็นเรื่องดี เมื่อถามว่า ในสถานการณ์ตอนนี้จำเป็นต้องเร่งทำกฎหมายให้เร็วขึ้นหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับที่ว่าใครจะยอมใครหรือไม่ เคยบอกแล้วว่ากฎหมายลูก 2 ฉบับมี 3 แบบ ซึ่งเนื้อหาไม่เหมือนกันเลย และที่สำคัญคือ กกต. ยอมให้ไปแก้ร่างกฎหมายของเขาหรือไม่ ถ้าไม่ยอมก็ต้องส่งกันไปมา และมีขั้นตอนอีกยาว นอกจากนี้ ยังมีขั้นตอนหลังจากทำร่างกฎหมายเสร็จแล้ว คือการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งมีกรอบเวลาอีก 90 วัน และเราไม่สามารถไปคาดเดาตรงนี้ได้ จึงนับให้เต็ม 90 วันคือไปถึงเดือนกรกฎาคมเลย ทั้งนี้ เรื่องการพิจารณาดังกล่าวยังเกี่ยวไปถึงวุฒิสภาด้วย ที่ต้องมาร่วมลงมติในการประชุมร่วมรัฐสภา จึงมีสิ่งที่เป็นห่วงกันอยู่คือกฎหมายลูกฉบับเก่า ได้เคยผ่านความเห็นชอบจากสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งมี สนช. บางคนมาเป็น ส.ว. ตอนนี้ จึงอาจจะยังหวงของเดิม ไม่อยากให้ไปแก้ตรงนั้นก็ได้ อย่างไรก็ตาม ต้องอยู่ที่มติของรัฐสภา
