‘สนธิรัตน์’ เล็งทาบ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ แคนดิเดตนายกฯ มั่นใจรอบหน้าได้ร่วมตั้งรัฐบาล

‘สนธิรัตน์’ ควง ‘สุพล-วัชระ’ เปิดตัวแกนนำภาคอีสาน พรรคสร้างอนาคตไทย ตั้ง ‘สุพล ฟองงาม’ เป็นแม่ทัพคุมทีมอีสาน มั่นใจเป็นพรรคทางเลือกของประชาชน เดินหน้าวางนโยบายแก้เศรษฐกิจทางรอดประเทศไทย ย้ำจุดวิกฤตสุดของไทย หนักกกว่าปี’40 ตั้งเป้าเป็นรัฐบาลสมัยหน้า ปัดเมนต์เรื่องยุบสภา เล็งจีบ ‘สมคิด’ นั่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไม่ปฏิเสธรับกลุ่มธรรมนัส ขอแค่มีใจทำงาน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 มกราคม ที่ห้องประชุมโรงแรมพักพิงอิงโขง อ.เมือง จ.นครพนม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย นายสุพล ฟองงาม อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ และนายวัชระ กรรณิการ์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย ลงพื้นที่ จ.นครพนม พบปะเครือข่ายกลุ่มสร้างอนาคตไทยภาคอีสานกว่า 100 คน

โดยมีกลุ่มการเมืองเลือดอีสานเข้าร่วม อาทิ นายชัยมงคล ไชยรบ อดีตนายก อบจ.สกลนคร นายวิริยะ ทองผา อดีตรองนายก อบจ.มุกดาหาร นายเชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ อดีตรองประธานสภา อบจ.อุบลราชธานี รวมถึงแกนนำกลุ่มการเมืองร่วมอุดมการณ์ในพื้นที่ภาคอีสาน เพื่อประกาศจุดยืน แสดงพลัง แนะนำแนวทางการขับเคลื่อนของพรรคสร้างอนาคตไทยที่ต้องการจะเป็นทางเลือกใหม่ให้กับประชาชน รวมถึงเป็นพรรคการเมืองที่มีศักยภาพในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทย หวังจะเป็นทางรอดของประเทศไทยที่กำลังตกอยู่ในวิกฤตเศรษฐกิจ สังคม และความขัดแย้งทางการเมือง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายสนธิรัตน์เปิดเผยว่า ในการลงพื้นที่อีสาน รวมถึง จ.นครพนม ครั้งนี้ดีใจมาก ไม่มีนัยยะการเมืองแต่เป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ ได้มาขอพรองค์พระธาตุพนม รวมถึงได้มาหารือรับฟังความคิดเห็นประกาศจุดยืน แสดงพลังกับทีมงานการเมืองที่ร่วมอุดมการณ์เดียวกันในการวางแผนขับเคลื่อนการทำงานของพรรค หลังมีการจัดตั้งพรรคการเมืองทางเลือกใหม่ “สร้างอนาคตไทย” ปัจจุบันต้องยอมรับว่าประเทศไทยกำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤต จุดต่ำสุดด้านเศรษฐกิจ สังคม หนักกว่าปี 2540 เพราะไม่เพียงด้านเศรษฐกิจ แต่ยังมีปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง เชื่อว่าประชาชนคนไทยกำลังรอความหวังจากพรรคการเมืองที่มีศักยภาพในการแก้วิกฤตบ้านเมือง เชื่อว่าพรรคสร้างอนาคตไทยมีความพร้อมที่สุด ณ วันนี้

Advertisement

นายสนธิรัตน์กล่าวอีกว่า เมื่อมองย้อนกลับไปในวิกฤตประเทศไทยปี 2540 สอดคล้องกับปัจจุบัน เมื่อเทียบแล้ว เป็นยุคที่ไทยรักไทยเข้าไปอยู่ในใจประชาชน เป็นความหวังประชาชน เพราะมีความพร้อมด้านการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เช่นเดียวกันปัจจุบัน ตนเชื่อว่าพรรคสร้างอนาคตไทยจะเป็นลักษณะเช่นเดียวกัน ในการเลือกตั้งสมัยหน้าจะเป็นทางเลือกของประชาชน เป็นความหวังของประชาชนที่จะเข้ามาพัฒนาแก้ปัญหาปากท้อง โดยเฉพาะภาคอีสาน ถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่จะต้องมีการดูแลพัฒนาทุกด้าน และมั่นใจว่าเราจะเป็นพรรคการเมืองที่เป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอน

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ส่วนเรื่องแคนดิเดตนายกฯ ส่วนตัวกำลังมองว่าจะทาบทาม ท่านสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นหนึ่งในตัวเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีสมัยหน้า ส่วนถามว่าหากกกลุ่มธรรมนัสจะเข้ามาร่วมงาน ตนยินดีทุกฝ่ายหากมีอุดมการณ์ตรงกัน และจะต้องมีเป้าหมายเดียวกันคือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจบ้านเมือง รวมถึงแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในอนาคต ส่วนเรื่องยุบสภา ไม่ขอแสดงความคิดเห็น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง แต่พรรคสร้างอนาคตไทยมีความพร้อมที่จะแก้วิกฤตประเทศ

Advertisement

ด้านนายสุพลระบุว่า ดีใจมากที่ได้มีโอกาสร่วมงานขับเคลื่อนพรรคสร้างอนาคตไทย เพราะเชื่อว่าเป็นพรรคการเมืองใหม่ที่มีความพร้อมทุกด้าน โดยการเลือกตั้งครั้งหน้ามั่นใจว่าจะสามารถส่งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ครบทั้ง 400 เขต โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสาน

“ขอบคุณที่พรรคให้ความไว้วางใจเป็นขุนพลดูแลอีสาน และเชื่อมั่นว่าจะได้ที่นั่ง ส.ส.ในพื้นที่อีสานมากพอสมควร สำคัญที่สุดพรรคสร้างอนาคตไทยจะต้องเป็นพรรคใหม่ คนที่มาร่วมอุดมการณ์จะต้องมีความจริงใจในการทำงาน รวมถึงจะต้องเป็นคนที่ไร้มลทิน ซึ่งจะต้องดูที่ความพร้อมและคุณสมบัติผู้สมัครเป็นสำคัญ และในวันนี้ยังไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะได้จำนวน ส.ส. เท่าไหร่ แต่มั่นใจว่าพรรคนี้จะเป็นคำตอบเรื่องเศรษฐกิจของคนอีสาน โดยส่วนตัวมั่นใจว่าพรรคจะเป็นหนึ่งที่จะได้จัดตั้งรัฐบาล” นายสุพลกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image