‘ธีรรัตน์’ งง ‘ประยุทธ์’ ทุ่มงบกลางแก้หมูแพง แต่ตอนนี้ยังกิโลละ 200 อยากรู้ตรวจสต๊อกหมูถึงไหนแล้ว?

‘ธีรรัตน์’ ชี้หมูในตลาดสดยังแพงเกินกิโลกรัมละ 200 บาท ถามรัฐใช้งบกลางที่ขอไปแก้ปัญหาอย่างไร บี้ต่อ หลังจากจับคนกักตุนหมูแล้วขยายผลต่ออย่างไรบ้าง

เมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่รัฐบาลอนุมัติงบประมาณในการแก้ไขปัญหาราคาเนื้อหมูแพง 574.11 ล้านบาท ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ถูกใช้จ่ายไปอย่างไร เหตุใดราคาเนื้อหมูยังอยู่ที่กิโลกรัมละ 200 บาท ขณะที่การเดินหน้าตรวจสต๊อกหมูแช่แข็งนั้นมีความคืบหน้าอย่างไร ขณะนี้สุกรส่วนใหญ่อยู่ในมือของกลุ่มผู้เลี้ยงรายใหญ่ ที่นั่งเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาล จึงอยากทราบว่ามีการแก้ไขปัญหาหมูแพงให้กับประชาชนหรือไม่ มีการกระทำการใดเพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้กลุ่มนายทุนบางกลุ่มหรือไม่

น.ส.ธีรรัตน์กล่าวว่า นอกจากนี้ รัฐบาลยังเตรียมขึ้นภาษีอีกหลายรายการ ทั้งที่การปรับขึ้นภาษีในตอนนี้ซึ่งเป็นภาวะเศรษฐตกต่ำ เป็นเวลาที่ไม่เหมาะสม นับตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีในยุค คสช.ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันได้ปรับขึ้นภาษีไปแล้วไม่ต่ำกว่า 6 รายการ ได้แก่ ภาษีมรดก ภาษีการรับ-ให้ ขึ้นภาษีน้ำมันดีเซล-เบนซิน ขึ้นภาษีรถยนต์ ขึ้นภาษีบุหรี่ และเตรียมพิจารณาจะจัดเก็บภาษีเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 7 รายการ ทั้งภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีรายได้จากการขายสินค้าออนไลน์ ภาษีเครื่องดื่มน้ำตาลสูง ภาษีความเค็ม ภาษีป้ายโฆษณา เป็นต้น

“แทนที่รัฐบาลจะเอาแต่ใช้เวลาในการหาสูตรคำนวณขึ้นภาษีขูดรีดเงินเอากับประชาชนที่กำลังตกงาน ตกทุกข์ได้ยาก รายได้ไม่พอรายจ่าย รัฐบาลควรทุ่มเทเวลา งบประมาณ และความรู้ความสามารถในการแก้ไขปัญหาความทุกข์ของประชาชนมากกว่าเอาแต่แก้ไขความขัดแย้งภายในพรรคตัวเอง” น.ส.ธีรรัตน์กล่าว

น.ส.ธีรรัตน์กล่าวอีกว่า การที่รัฐบาลอ้างว่าใช้งบประมาณเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้รัฐใช้จ่ายงบประมาณนอกเหนือจากการใช้จ่ายประจำปีเป็นจำนวนมาก จึงต้องเร่งจัดเก็บรายได้ของภาครัฐ เพื่อสนับสนุนให้รัฐบาลจัดเก็บรายได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การพูดแบบนี้สะท้อนได้ว่ารัฐบาลหาเงินได้ทางเดียวคือการเก็บภาษี มองไม่เห็นรายได้จากทางอื่น เช่น การค้า การลงทุนในประเทศ รวมทั้งการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ

Advertisement

“หาก พล.อ.ประยุทธ์คิดไม่เป็น บริหารไม่ได้ อย่าอยู่ให้เป็นภาระประเทศเลย นอกจากนี้ เราขอติดตามทวงถามหลังจากที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการกักตุนเนื้อหมู จนต่อมาเกิดการ
จับกุมโกดังที่กักตุนเนื้อหมูไว้ ท่านมีการปฏิบัติหน้าที่ติดตามผู้ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เนื้อหมูราคาแพงอย่างไร เพราะหลังจากที่มีการลงพื้นที่จับกุมข่าวก็เงียบหายไป

“เรามาติดตามทวงถามว่า หลังจากที่ท่านได้ปฏิบัติการณ์ในวันนั้นไปแล้ว ท่านได้สืบทราบหรือไม่ว่านายทุนท่านใด หรือผู้ประกอบการท่านใดที่ทำผิดอีกบ้างหรือไม่ และมีการดำเนินการอย่างไร ขณะที่งบกลางที่ท่านขอไป ท่านได้นำไปดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างไรบ้าง” น.ส.ธีรรัตน์ระบุ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image