‘วิลาศ’จัดหนัก กปภ.แฉทุจริตอื้อกว่า 30 เรื่อง ปูดส่อล็อกสเปกให้ บ.รองผู้ว่าฯ จี้ ‘เสรี’เร่งสอบโครงการวางท่อประปา จ.จันทบุรี
เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรค ปชป. แถลงเกี่ยวกับการทำงานของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ว่า การทำงานของนายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้ว่าการ กปภ.จะต้องลงพื้นที่ไปดู และตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทุจริต ไม่ใช่รอแต่การรายงาน ซึ่งรายงานที่ได้ก็เป็นเท็จ ตลอดเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา ตนได้ออกมาเรียกร้องให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงใน กปภ.หลายเรื่อง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า กลายเป็นว่านายเสรีพายเรือให้โจรนั่งได้ ซึ่งท่านเคยระบุว่าหากมีความผิดชัดเจนจึงจะลงโทษ วันนี้มีการกล่าวถึงการทุจริตที่เกิดขึ้นในวันที่นายเสรีรับตำแหน่งแล้ว คือโครงการวางท่อส่งน้ำประปาจากอ่างเก็บน้ำคลองพระพุทธ ไปยังหน่วยบริการทรายขาว จ.จันทบุรี มูลค่าโครงการ 20 ล้านบาท โดยขายซองประมูลในราคา 24,100 บาท มีผู้ยื่นซอง 13 ราย ซึ่งมีการปล่อยข่าวว่าจะยกเลิกโมบายแพลน หรือแผนการประปาเคลื่อนที่ แต่มีเจ้าหน้าที่พูดกับผู้ยื่นซองว่า ให้ดูรายละเอียดให้ดีว่าโครงการโมบายแพลนจะแปลงสัญชาติ
“โดยท้ายที่สุดก็เป็นการล็อกสเปกให้กิจการร่วมค้ารายหนึ่ง ที่มีอดีตรองผู้ว่าฯ และรองผู้ว่าฯคนปัจจุบันมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งบริษัทดังกล่าว แต่พอมีการรายงานข่าวนี้ออกไป ก่อนถึงวันเคาะราคา การประปาฯก็ได้แจ้งยกเลิกการประมูลดังกล่าว โดยอ้างว่าจะปรับทีโออาร์ใหม่ ดังนั้นนายเสรีจะปฏิเสธว่าไม่รู้เห็นกับเรื่องนี้ไม่ได้ ถ้าสอบแล้วพบว่าตัวผู้ว่าฯมีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ต้องเล่นตัวเองด้วย และต้องรีบคืนเงินขายซองประมูลให้กับผู้ซื้อโดยเร็ว อย่านำเงินดังกล่าวไปแก้ปัญหาสภาพคล่อง เพราะมีหลายโครงการที่ยังอมไว้ไม่คืนค่าซองให้ โดยที่ไม่มีการประมูล” นายวิลาศ กล่าว
นายวิลาศยังกล่าวถึงโครงการวางท่อปรับปรุงระบบประปาสาขาจันทบุรี โดยมีการประกวดราคา เซ็นสัญญาว่าจ้างเรียบร้อย แต่กลับไม่มีสถานที่ให้ดำเนินการ ซึ่งโครงการดังกล่าวได้ของบจากรัฐบาลหลายครั้ง รวมกว่า 700 ล้านบาท แต่โครงการนี้ก็สร้างไม่ได้เพราะชาวบ้านคัดค้าน และกรมชลประทาน ผู้บริหารท้องถิ่นก็ไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ในการสร้าง แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าก่อนเริ่มโครงการนี้ได้มีการเสนอพื้นที่ 30 ไร่ ที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำ สามารถใช้ฟรีได้ไม่ต้องซื้อ แต่การประปาฯกลับไปซื้อที่ 10 ไร่ ตนสงสัยว่าเป็นเพราะอะไรถึงทำเช่นนี้ หรือมีผลประโยชน์ตอบแทนหรือไม่
นายวิลาศกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่มีลักษณะคล้ายๆ กันคือไม่มีพื้นที่ให้ผู้รับเหมาดำเนินการ และชาวบ้านประท้วง วางท่อประปาขนาด 500 มล. ยาว 8,000 เมตร เป็นโครงการสูบน้ำจากคลองชลประทานไปยังสถานีผลิตน้ำบ้านนายาง จ.เพชรบุรี โดยโครงการนี้เสร็จเมื่อ 16 สิงหาคม 2558 โดยขณะดำเนินการผู้รับเหมาได้ส่งจดหมายทวงถามถึงการส่งมอบพื้นที่ 40 ครั้ง แต่ทางการประปาฯก็ส่งหนังสือเตือนให้ผู้รับเหมาเข้าดำเนินการ ซึ่งเรื่องนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องรับผิดชอบ และตนจะไปยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.และ สตง. เพื่อสอบการปฏิบัติหน้าที่ของการประปาส่วนภูมิภาค สัปดาห์ละ 2 เรื่อง โดยขณะนี้ผ่านไปแล้ว 8 เรื่อง และคาดว่าน่าจะเกิน 30 เรื่อง
