‘วิษณุ’ เผย รัฐบาลไม่ขัดข้อง คิงส์เกต ทำสัมปทานเหมืองทองในพื้นที่เดิม วางเงื่อนไข 4 ข้อตามกม.ใหม่

‘วิษณุ’ เผย รัฐบาลไม่ขัดข้อง คิงส์เกต ทำสัมปทานเหมืองทองในพื้นที่เดิม วางเงื่อนไข 4 ข้อตามกม.เหมืองแร่ฉบับใหม่ รอ ก.อุตสาหกรรม นำรายงาน ครม.

เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด บริษัทแม่ของบริษัทอัครา รีซอร์สเซส แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย ว่า รัฐบาลไทยได้อนุมัติประทานบัตรเหมืองแร่ 4 แปลงให้กับบริษัทเพื่อให้กลับมาเปิดเหมืองแร่ในไทย รวมทั้งเหมืองแร่ชาตรีที่ยุติการดำเนินงานไปตั้งแต่ปี 2560 โดยบริษัทเตรียมที่จะกลับมาดำเนินการในพื้นที่เดิม ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดที่แน่ชัด แต่คงเป็นการดำเนินการของกระทรวงอุตสาหกรรม ในส่วนของหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง สามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอนและอำนาจที่ที่มีอยู่ ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีการรายงานให้ตนเอง และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทราบความคืบหน้าทุกๆ 3 เดือน

เมื่อถามว่าการที่บริษัทคิงส์เกตสามารถกลับมาทำเหมืองแร่ในที่เดิม คดีข้อพิพาทที่อยู่ในชั้นอนุญาโตตุลาการ ระหว่างรัฐบาลไทยกับบริษัทคิงส์เกตจะยุติหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบแน่ชัด เพียงแต่ชี้แจงได้ว่าตาม พ.ร.บ.เหมืองแร่ฉบับใหม่มีข้อกำหนดว่ากรณีที่ผู้ประกอบการทำไม่ถูกก็ให้มาทำใหม่ให้ถูกต้องแล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยมี 4 ข้อ ที่ต้องดำเนินการ ได้แก่ ข้อกฎหมายในการขออนุญาตใช้พื้นที่ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านที่ดิน และด้านมวลชน ชุมชน ถ้าทำถูกต้องตามเงื่อนไขเหล่านี้ การกลับเข้ามาทำในพื้นที่เดิมสามารถทำได้ไม่มีปัญหา

“เหตุการณ์ที่ผ่านมารัฐบาล คสช.ไม่ได้ไปยกเลิก ไม่ได้ไปยึด เพียงแต่ให้หยุดไว้ก่อน และไม่ต่ออายุให้คือให้สิ้นสุด ณ ปีนั้น เพราะตอนนั้นกฎหมายแร่ฉบับใหม่ยังไม่ออก เมื่อกฎหมายออกมาแล้วก็ให้มาขออนุญาตได้เพื่อให้สามารถดำเนินกิจการได้ แต่เขาได้ทำอย่างถูกต้องหรือยังผมไม่รู้ เพราะเป็นขั้นตอนที่อยู่ที่หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล ผู้เกี่ยวข้องต้องไปดูแล้วรายงานขึ้นมาตามวงรอบ” นายวิษณุ กล่าว

เมื่อถามว่าการทำงานของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นเพื่อเจรจาในเรื่องข้อพิพาทของบริษัทคิงส์เกตกับรัฐบาลไทยได้รายงานเรื่องเงื่อนไขการเจรจาซึ่งมีการให้สัมปทานในพื้นที่เดิมให้ ครม.รับทราบก่อนหน้าหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่าไม่ทราบ แต่คิดว่าไม่ต้อง เพราะอยู่ในอำนาจที่เจรจากันได้ ยกเว้นว่ามีเรื่องอะไรที่ต้องขออำนาจ ครม.แต่จะมีรายงานความคืบหน้ามาทุกๆ 3 เดือน แต่ครั้งสุดท้ายรายงานว่าอะไรตนลืมไปแล้ว

Advertisement

ส่วนกรณีที่บริษัทคิงส์เกตได้รับสัมปทานในพื้นที่เดิมจะส่งผลต่อการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ก็ต้องรอดู แต่ยังไม่แน่ว่าในวันที่ 31 มกราคมจะมีการตัดสินของอนุญาโตตุลาการหรือไม่ เพราะอาจมีการเลื่อนออกไปอีกก็ได้ เพราะครั้งล่าสุดมีกำหนดว่าจะมีการประชุมกันที่สิงคโปร์แล้วก็เลื่อนออกไปเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 สุดท้ายในครั้งนี้จะมีการประชุมในวันที่ 31 มกราคมหรือไม่ต้องรอดูอีกครั้ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image