ส.ส.พิษณุโลก เย้ย 8 ปีหลังรัฐประหาร นายกฯก็คนเดิม แต่ดัชนีทุจริตอันดับโลกเลวร้ายขึ้นทุกปี

ส.ส.พิษณุโลก เย้ย 8 ปีหลังรัฐประหาร นายกฯก็คนเดิม แต่ดัชนีทุจริตอันดับโลกเลวร้ายขึ้นทุกปี

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล เขียนข้อความแสดงความเห็น กรณีประเทศไทยถูกจัดอันดับโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International) ให้ได้คะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริตเพียง 35 คะแนน จาก 100 คะแนน ในปี 2564 อันดับการรับรู้การทุจริตหล่นลงไปอยู่ที่อันดับ 110 จาก 180 ประเทศ ระบุว่า

รัฐประหารเพื่อปราบโกงไม่มีจริง ดัชนีความโปร่งใสของไทยแย่ลงทุกปี

‘นักการเมืองโกงกิน’ มักเป็นข้ออ้างที่ฝ่ายต่อต้านระบอบประชาธิปไตยมักใช้เรียกร้องให้กองทัพออกมารับลูก ทำรัฐประหารรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และทุกครั้งก็มักจะประกาศกร้าวว่า ผู้นำอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น ‘คนดี’ ที่จะมาปราบคอร์รัปชั่นให้หมดไปจากประเทศไทย

Advertisement

รัฐประหารผ่านมาแล้วเกือบ 8 ปี ‘คนดี’ ก็ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่เหมือนเดิม แต่การคอร์รัปชั่นไม่เคยหายไป ซ้ำร้ายยังหนักข้อขึ้นทุกปี มีการแทรกแซงหน่วยงานรัฐ ศาล องค์กรอิสระ ใครที่จะมาตรวจสอบเรื่องเลห่านี้ก็มักจะถูกฟ้องดำเนินคดีจนวุ่นวาย

ล่าสุด องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International : TI) ได้จัดทำดัชนีวัดระดับการรับรู้การคอร์รัปชั่นในภาครัฐ (Corruption Perception Index) ปีนี้ ไทยร่วงลงมาจากปีก่อน 6 อันดับมาอยู่ที่อันดับ 110 จากทั้งหมด 180 ประเทศทั่วโลก

คะแนนที่ไทยได้รับในปีนี้ ลดลงจากปีก่อน 1 คะแนน อยู่ที่ 35 เต็ม 100 ซึ่งเป็นคะแนนที่ประเมินจากหลายมิติ ทั้งความสามารถในการปราบคอร์รัปชั่น การบังคับใช้กฎหมาย ความโปร่งใสและการรับผิดในการใช้จ่ายเงินภาครัฐ คอร์รัปชั่นในฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ความเกี่ยวข้องกับการของธุรกิจภาคเอกชนกับการคอร์รัปชั่น การติดสินบน รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลกิจกรรมการทำงานของภาครัฐด้วย

Advertisement

เราจะเห็นได้ว่า ช่วง 5-6 ที่ผ่านมา พัฒนาการความโปร่งใสของรัฐบาลมีทิศทางที่เลวร้ายมาตลอด ในปีนี้คะแนนความโปร่งใสยังลดลงอีก นอกจากทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศแย่ลงแล้ว ยังเป็นความสูญเสียด้านความน่าเชื่อถือในสายตานานาชาติ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจด้วย

ยิ่งมาดูอันดับในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกัน อันดับของไทยอยู่ต่ำกว่า 1.สิงคโปร์ 85 คะแนน 2.มาเลเซีย 48 คะแนน 3.ติมอร์-เลสเต 41 คะแนน 4.เวียดนาม 39 คะแนน 5.อินโดนีเซีย 38 คะแนน หลายประเทศขยับแซงไทยขึ้นไปด้วยคะแนนที่ดีกว่าเดิม สะท้อนว่า ประเทศเพื่อนบ้านของเรามีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับประเทศไทยที่มีรัฐบาลซึ่งเอาแต่ยกอ้างความเป็นคนดี มีศีลธรรม แต่ผลงานกลับดิ่งเหวในทุกด้าน รวมถึงด้านการปราบทุจริตคอร์รัปชั่น

นายกรุณพล เทียนสุวรรณ หรือเพชร ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขตจตุจักร-หลักสี่ เบอร์ 6 จากพรรคก้าวไกล กล่าวว่า “ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารัฐบาลนี้สืบทอดอำนาจมาจากคณะรัฐประหาร คสช. ที่อ้างว่ามาปราบโกง มาปราบทุจริตคอร์รัปชั่น แต่ผลงานกลับล้มเหลวโดยสิ้นเชิง จึงไม่แปลกใจที่ เมื่อมีการตรวจวัดกันด้วยมาตรฐานสากลครั้งใด ทั้งอันดับและคะแนนของไทยจะย่ำแย่ลงแทบทุกปี”

“เหตุผลที่เป็นเช่นนี้เพราะรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เป็นรัฐบาลไม่ยินยอมให้เกิดการตรวจสอบในทุกด้าน มีการเข้าไปแทรกแซงศาลและองค์กรอิสระทำให้กระบวนการตรวจสอบล้มเหลวโดยสิ้นเชิง แม้แต่ ส.ส.ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลผ่านสภาก็มักถูกขัดขวาง หรือที่เลวร้ายกว่านั้นก็คือการไล่ฟ้องเพื่อปิดปาก ไม่ให้ทำหน้าที่ได้โดยง่าย การเป็นรัฐบาลที่ไม่ยอมให้มีการตรวจสอบแบบนี้ จึงนำไปสู่ความเฟื่องฟูของการทุจริตคอร์รัปชั่นที่มักย้อนมาเสมอ ในยุคที่มีการปกครองโดยคณะทหารหรือรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image