‘กมธ.ป.ป.ช.’ แถลงยัน พบพิรุธ ‘พี่เอ้’ มีทรัพย์สินร่วมภรรยา ปีเดียวเพิ่มขึ้นร้อยกว่าล้าน

“พี่เอ้” งานเข้า! “กมธ.ปราบโกง” เผยพิรุธทรัพย์สินร่วมกับภรรยา ปีเดียวเพิ่มขึ้นร้อยกว่าล้าน เรียก “อธิบดี สจล.-กรมสรรพากร” ให้ข้อมูล ยันไม่มีธงในการสอบ

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.)​ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม กมธ.ป.ป.ช. ที่มีวาระพิจารณากรณีนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ อดีตอธิการบดีสถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) พรรคประชาธิปัตย์ มีเหตุอันควรสงสัยว่าทุจริตต่อหน้าที่และร่ำรวยผิดปกติว่า มีผู้ร้องเรียนไม่ประสงค์ออกนาม ได้ยื่นคำร้องต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) ในฐานะประธาน กมธ.ป.ป.ช. เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา และมีการบรรจุระเบียบวาระวันนี้ โดยต้องการให้ตรวจสอบทรัพย์สินว่าร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ เนื่องจากวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559 ปรากฏมีทรัพย์สินประมาณ 44 ล้านบาท วันที่ 19 กันยายน 2563 ดำรงตำแหน่งอธิการบดีครบ 3 ปี มีทรัพย์สินประมาณ 74 ล้านบาท และล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 มีทรัพย์สินรวมกับภรรยาประมาณ 342 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราการเพิ่มของทรัพย์สินอย่างผิดปกติ

นายธีรัจชัยกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นของ กมธ. มีหลายเรื่องที่น่าสนใจ และมีข้อมูลที่ทางฝ่ายผู้ร้องได้ให้มา เช่น โครงการที่มีการจัดซื้อจัดจ้างของ สจล. และโครงการเกี่ยวกับหน่วยงานใน กทม.หลายส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบริษัทบางส่วนที่ต้องตรวจสอบว่ามีการรับหรือไม่ เนื่องจากมีหุ้นส่วนที่อาจจะเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับนายสุชัชวีร์ ซึ่ง กมธ.ได้มีการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน เบื้องต้นพบว่า มีการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเดือน อัตราเบี้ยประชุมหลายล้านบาท การโอนที่ดินของมารดานายสุชัชวีร์ให้กับนายสุชัชวีร์กับภรรยาที่มีมูลค่าสูง โดยในวันนี้ได้เชิญอธิการบดีของ สจล.มาเพื่อสอบถามว่า ในทางปกติของการรับเงินเดือนตำแหน่งอธิการบดีรับอย่างไร มีค่าใช้จ่ายอย่างไรบ้าง การจัดซื้อจัดจ้างมีผลประโยชน์อะไรเพิ่มมาบ้าง รวมถึงเบี้ยประชุมต่างๆ จะได้เป็นล้านบาทจริงหรือไม่

นายธีรัจชัยกล่าวด้วยว่า ส่วนอธิบดีกรมสรรพากรต้องตรวจสอบว่า ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นมีการยื่นเสียภาษีหรือไม่ รวมถึงคนรอบข้างของนายสุชัชวีร์ด้วย สำหรับคนที่เกี่ยวข้องที่มีชื่อปรากฏหลังจากนี้ก็จะเชิญมาเพื่อมาหาข้อเท็จจริงว่าเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่มีการกล่าวหา ร้องเรียน อย่างไรบ้าง สำหรับกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าที่มีการสอบสวนนายสุชัชวีร์ในช่วงนี้ที่มีการลงสนามผู้ว่าฯกทม. อาจส่งผลทางการเมืองหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบเพราะเมื่อมีเรื่องร้องเรียนเข้ามา กมธ.ก็มีหน้าที่ตรวจสอบตามกระบวนการ และเรื่องนี้ก็เข้ามาก่อนหน้านี้แล้ว ยืนยัน กมธ.ไม่มีการตั้งธงในการสอบสวนทั้งสิ้น

ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image