‘ธีรัจชัย’ ยัน กมธ.ป.ป.ช. ไร้ธงสอบ ‘เอ้’ แสดงสปิริต ขอถอนตัวงานนี้ สัปดาห์หน้า

“ธีรัจชัย” สาวไส้ “พี่เอ้” ร่ำรวยผิดปกติ เผย กมธ.ป.ป.ช.ลุยสอบปมร้องเรียนต่อ เหตุมีรายละเอียดอื้อ ยันสอบตรงไปตรงมา ไม่มีธง แสดงสปิริตขอถอนตัวสัปดาห์หน้า เหตุก้าวไกลส่งว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. เช่นกัน

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปราบการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) แถลงผลการประชุม กมธ.ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาเรื่องร้องเรียนกรณี นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์  อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า (สจล.) ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มีเหตุอันควรสงสัยว่าทุจริตต่อหน้าที่และร่ำรวยผิดปกติว่า สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธาน กมธ.ป.ป.ช. ได้รับเรื่องจากผู้ร้องเรียนมานานแล้ว ส่วนจะเป็นใครตนไม่ทราบ เพราะ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เป็นคนรับเรื่องไว้

จากนั้นได้มีการพูดคุยร่วมกันก่อนจะนำเข้าสู่วาระการประชุมของ กมธ. เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ในการสอบสวนเบื้องต้นจากการตรวจสอบเอกสารของผู้ร้องเรียน ปรากฏว่ามีข้อมูลการเข้ารับตำแหน่งอธิการบดี สจล.ของนายสุชัชวีร์เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2558 จากนั้นยื่นบัญชีทรัพย์สินเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559 ปรากฏมีทรัพย์สินประมาณ 44 ล้านบาท วันที่ 19 กันยายน 2563 ดำรงตำแหน่งอธิการบดีครบ 3 ปี มีทรัพย์สินประมาณ 74 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 มีทรัพย์สินรวมกับภรรยาประมาณ 342 ล้านบาท ซึ่งใน 1 ปีหลังมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นประมาณ 267 ล้านบาท มีประเด็นที่จะต้องตรวจสอบหลายประเด็นในเรื่องของทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นเป็นของภรรยาหรือไม่ ซึ่งต้องตรวจสอบว่านายสุชัชวีร์แต่งงานเมื่อไหร่ เบื้องต้นทราบว่าน่าจะประมาณปี 2561 หมายความว่าปี 2563 จะมีทรัพย์สินของภรรยาเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งเมื่อวานนี้ ทาง กมธ.ป.ป.ช.ได้เชิญรักษาการอธิการบดี สจล. และรองอธิบดีกรมสรรพากรมาให้ข้อเท็จจริง

นายธีรัจชัยกล่าวต่อว่า ทั้งนี้การประชุม กมธ.ไม่ได้มีคนใดคนหนึ่งสอบข้อเท็จจริง แต่มี ส.ส.ทุกพรรคทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลร่วมกันดำเนินการ เช่น พรรค ปชป.ก็มีนายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะ กมธ.ป.ป.ช.อยู่ร่วมประชุมด้วย เชื่อว่ากระบวนการมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ สำหรับประเด็นหารือมีเรื่องหน้าที่ของอธิการบดี สจล.มีอะไรบ้าง ทำงานเต็มเวลาหรือไม่ รับงานอย่างอื่นได้หรือไม่ มีรายได้เพิ่มขึ้นได้หรือไม่ และอธิการบดีมีรายได้เท่าไหร่ มีค่าตอบแทนอะไรบ้าง ซึ่งได้รับคำตอบว่า ไม่สามารถไปทำงานอื่นได้ นอกจากอธิการบดีในเวลาราชการ และไม่ได้เบี้ยประชุมในการประชุมอธิการบดี แต่หากไปประชุมที่อื่นจะได้รับเบี้ยประชุม

“จากข้อมูลที่ได้รับเรื่องร้องเรียนมาระบุว่าเบี้ยประชุมและโบนัสนั้นได้รับในปี 2563 จำนวน 5.5 ล้านบาท อีกทั้งเงินเดือนประมาณ 1,410,870 บาท มาจากไหนอย่างไร และในส่วนของค่าที่ปรึกษาวิชาชีพวิศวกรรม 3.5 ล้านบาท เมื่อเป็นอธิการบดีแล้วยังได้อยู่หรือไม่ แต่รักษาการอธิการบดีที่เชิญมาตอบไม่ได้ และขอกลับไปนำเอกสารมาชี้แจงภายใน 15 วัน นอกจากนี้ระหว่างปี 2558-2564 ที่นายสุชัชวีร์ดำรงตำแหน่งมีการก่อสร้าง 5-6 โครงการใน สจล. ซึ่งมีข่าวระบุว่ามีบริษัทหนึ่งสงสัยว่าจะมีหุ้นส่วนที่เป็นคนใกล้ชิดของนายสุชัชวีร์ และนายสุชัชวีร์ อาจเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทดังกล่าวด้วยนั้นมารับงานนี้หรือไม่ ซึ่ง กมธ.จะเรียกมาตรวจสอบต่อไปว่าจริงหรือไม่ อีกทั้งในปี 2559-2560 ยังมีโครงการของวชิระพยาบาลได้มีการว่าจ้างให้ สจล.ทำทีโออาร์ควบคุมงานตรวจสอบการก่อสร้างอาคารใหม่ มีการจ้างบริษัทดังกล่าวมารับงานด้วยหรือไม่ รวมถึงในส่วนของการทำงานร่วมกับ กทม.ในการออกแบบสวนสัตว์คลอง 6 ปทุมธานี สจล.ได้เป็นที่ปรึกษามีมูลค่า 160 ล้านบาท ในปี 2563-2564 โครงการออกแบบพัฒนนาทางเดินทางเท้าริมแม่น้ำเจ้าพระยามูลค่า 100 ล้านบาท โครงการจากการะทรวงศึกษาธิการมูลค่า 50 ล้านบาท ช่วงปี 2563 ด้วย

Advertisement

นายธีรัจชัยกล่าวอีกว่า สำหรับอธิบดีกรมสรรพากรเรื่องการเสียภาษีนั้น ทราบว่ามีภาษีหลายตัวที่มีการเสียภาษีมาก บางอย่างก็ได้รับการลดหย่อนหรือยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีจำนวนมาก ซึ่งเราจะต้องตรวจสอบว่าการเสียภาษีชอบหรือไม่ และรายได้ที่ได้รับนั้นใช่หรือไม่ กมธ.ป.ป.ช.ยืนยันว่าเราดำเนินการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมาและไม่มีธงตั้งว่าจะให้มีความผิด ส่วนกรณีที่มีข้อสงสัยว่าในช่วงนี้เป็นช่วงใกล้การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ทำไมจึงนำเรื่องนี้เข้ามาพิจารณานั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์รับเรื่องนี้มา และผู้ที่ร้องเรียนได้มาพูดคุยโดยตรง จากนั้นตนได้รับเรื่องนี้มาตรวจสอบต่ออย่างตรงไปตรงมา ซึ่งมีข้อสังเกตว่าพรรค ก.ก.ก็ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ด้วยเช่นกัน อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนด้วยหรือไม่นั้น ในสัปดาห์หน้าที่มีการประชุม กมธ. ตนจะเสนอขอให้เปลี่ยนตัวผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบโปร่งใสที่สุด ส่วนข้อร้องเรียนที่ระบุว่าบิดามารดาเป็นครูระดับวิทยาลัยเทคนิคอาชีวะ มีฐานะระดับปานกลาง สิ่งที่เราตรวจสอบได้คือมีการยกที่ดิน คอนโดและตึกแถวให้กับนายสุชัชวีร์ประมาณ 60 กว่าล้านบาท ซึ่งก็ต้องตั้งข้อสังเกตต่อไป

เมื่อถามว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ได้เน้นย้ำว่า ให้พิจารณาเรื่องนี้เป็นพิเศษหรือไม่ นายธีรัจชัยกล่าวว่า ไม่ได้มีการเน้นย้ำอะไร แต่ให้ดำเนินการตรวจสอบไปตามปกติ

เมื่อถามว่า มีการเสนอว่าเรื่องนี้ควรให้กรรมการ ป.ป.ช.จะเป็นผู้ตรวจสอบจะเหมาะสมกว่า นายธีรัจชัย กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ควรไปถาม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ดีกว่า เพราะเป็นคนมอบหมายมา ซึ่งต้องตรวจสอบในมาตรฐานเดียวกันกับเรื่องอื่นๆ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image