เวลา 08.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ออกมาระบุว่า การข่าวมีการแจ้งเตือนว่าจะมีการก่อคาร์บอมบ์ช่วง 25-30 ตุลาคมนี้ ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจะมีการแจ้งเตือนให้ทราบอยู่แล้ว แต่ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยยังไม่ได้ดำเนินการแจ้งเตือนอย่างเป็นทางการ เพียงแต่ได้แจ้งผ่านปลัดกระทรวงมหาดไทยให้รับทราบการแจ้งเตือนดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าไม่มีอะไรน่ากังวลและไม่ได้กำชับให้หน่วยงานของกระทรวงมหาดไทยเฝ้าระวังพื้นที่ใดเป็นพิเศษ
ขณะที่เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ครม. กรณีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการก่อเหตุระเบิดว่า เป็นการรายงานข่าวแจ้งเตือน เราก็จะต้องไม่ประมาท ดังนั้น เมื่อมีการแจ้งเตือนเราจึงต้องตื่นตัวกันไว้ ทั้งนี้ สิ่งที่ตนอยากให้ทุกคนช่วยกันก็คือ ช่วยกันรายงานเมื่อพบเห็นสิ่งที่ผิดปกติ หรือพบเห็นยานพาหนะที่อาจจะถูกนำมาใช้ในเรื่องของการวางระเบิด รวมถึงบุคคลที่มีพฤติกรรมผิดปกติ ก็ขอให้ช่วยกันแจ้งกับเจ้าหน้าที่ในทันที เมื่อวานนี้ (10 ตุลาคม) รองนายกฯ ได้กำชับให้ประชาคมข่าวกรองทั้งหมดเร่งติดตาม และแจ้งเตือนสิ่งผิดปกติเพื่อดำเนินการไม่ให้เกิดเหตุ ทั้งนี้ การข่าวยังไม่ระบุสถานที่ที่จะใช้ในการก่อเหตุ
เมื่อถามว่า นอกจากการแจ้งเตือนจากสถานทูตออสเตรเลียแล้วยังมีการแจ้งเตือนจากหน่วยอื่นๆ หรือไม่ พล.อ.ทวีปกล่าวว่า เป็นเรื่องปกติของการประชุมแลกเปลี่ยนข่าวกรอง ซึ่งข่าวที่เราได้รับนี้เป็นข่าวจากหน่วยข่าวของเราที่ได้ติดตาม เพ่งเล็ง และดูความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด
เมื่อถามว่า การก่อเหตุสาเหตุเกิดจากอะไร พล.อ.ทวีปกล่าวว่า เป็นการข่าวปกติที่เราจะต้องมีการดู รายงานเข้ามา เป็นสิ่งที่ประชาคมข่าวกรองทำนั้นคือการติดตามกลุ่มต่างๆ ที่อาจก่อเหตุร้าย เป็นสิ่งที่พวกเราทำมา
เมื่อถามถึงพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ พล.อ.ทวีปกล่าวว่า รองนายกฯได้สั่งการให้ดูภาพรวมทั้งประเทศ แต่การที่เราจะต้องดูแลทุกพื้นที่เท่าๆกันหมดนั้นเป็นไปได้ยากจึงจะต้องมีการเพ่งเล็งเป็นจุดๆ ตามที่ได้รับข่าวมา ทั้งนี้ เป็นเรื่องต่อเนื่องจากผู้ที่มีความเห็นต่าง หรือพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง เขาจึงพยายามแสดงออก ซึ่งเราต้องพยายามไม่ให้เกิดขึ้น
เมื่อถามว่า เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดที่หัวหินหรือไม่ พล.อ.ทวีปกล่าวว่า อันนี้คือสิ่งที่เราติดตามมาตลอด แต่การจะบอกว่าต่อเนื่องนั้นยังไม่ชี้ประเด็น แต่เมื่อเราได้รับข่าวสาร เราก็นำมาวิเคราะห์ และทำให้แน่ชัด ส่วนการเชื่อมโยงต่อเนื่องเป็นอีกประเด็นที่เราจะต้องไปดูรายละเอียดต่อไป
เมื่อถามว่า เหตุใดจึงพุ่งเป้ามาที่ กทม. และปริมณฑล พล.อ.ทวีปกล่าวว่า ถ้าคิดประเมินเอาคือ เขาคงอยากทำให้จุดไหนที่เป็นจุดที่มีผลกระทบมากที่สุดนั่นเอง ขณะนี้เราต้องพยายามหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อมาวิเคราะห์ว่าเป็นการปฏิบัติของกลุ่มไหน อย่างไร ทั้งนี้ เราติดตามทุกกลุ่ม โดยหน่วยงานข่าวของเรานั้นเรามีหลายหน่วยงาน ตามที่เราเรียกว่าประชาคมข่าวกรอง แต่ละหน่วยงานก็จะมีการรายงานเข้ามาในแต่ละเรื่อง ถ้าเป็นรายงานเดียวกันก็จะนำมาวิเคราะห์ร่วมกันว่า ข้อมูลที่ได้มาคนละทางนั้นมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ อย่างไร โดยเราดูทุกกลุ่มที่จะก่อเหตุในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะกลุ่มใดก็ตาม ถ้ามีพฤติกรรม หรือมีการเตรียมการดำเนินการอะไรที่จะเป็นผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ หรือต่อทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนคนไทย ตนถือว่ากลุ่มเหล่านี้เป็นกลุ่มที่เราต้องดำเนินการทั้งสิ้น
“การรายงานข่าวครั้งนี้ เป็นการแจ้งเตือนเพื่อขอให้พี่น้องประชาชนได้ร่วมกัน และช่วยกันในการแจ้งเตือนว่าหากมีอะไรที่เป็นเรื่องที่มีความผิดปกติใกล้ๆ บ้านเรา อย่างน้อยก็ขอให้บอกให้เจ้าหน้าที่ได้รับทราบ เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้ไปสอบสวน ขยายผลต่อได้ ทั้งนี้ เราพยายามไม่ให้เกิด ดังนั้น เราจึงต้องรีบแจ้งเตือนกันก่อน” พล.อ.ทวีปกล่าว
เมื่อถามว่า ขั้นการเฝ้าระวังขณะนี้อยู่ในระดับไหน ธรรมดา กลาง หรือสูงสุด พล.อ.ทวีปกล่าวว่า เราเตรียมการอย่างเต็มที่เพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุตามที่เป็นข่าว ถ้าจะบอกระดับก็ต้องบอกว่า เราเตรียมการอย่างเต็มที่ หรือเต็มขีดความสามารถ
