พท.ดักคอ ครม. 8 ก.พ. ยืดสัมปทานรถไฟฟ้าสีเขียว
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงเรียกร้องให้ติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ ว่า จะมีวาระให้เห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยจะขยายสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไป 40 ปีให้กับบริษัทบีทีเอส รวมมูลค่า 4 แสนล้าน ซึ่งเรื่องนี้มีความผิดปกติมาก เพราะพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคม ถามว่าเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ผูกพันอนาคตคนกรุงเทพฯไปอีก 40 ปีข้างหน้า ทำไมไม่รอให้ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่เข้ามาตัดสินใจ แบบนี้เรียกว่าทิ้งทวนหรือไม่ก่อนหมดวาระ เพราะตรงนี้เป็นผลประโยชน์มหาศาล
นายยุทธพงศ์กล่าวว่า สำหรับความไม่โปร่งใสในการต่อขยายสัญญาสัมปทานออกไปอีก 40 ปีนั้น ในเส้นทางหลักของบีทีเอสจะหมดสัญญาในปี 2572 จะเร่งรีบต่อสัญญาไปทำไม นอกจากนี้ในส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือและสีเขียวใต้ยังไม่เป็นกรรมสิทธิ์ของ กทม. เพราะยังเป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่ง กทม.ยังไม่ได้รับโอน ดังนั้น กทม.จะยกส่วนนี้ไปให้บีทีเอสได้อย่างไร ผิดกฎหมายชัดเจน
“เรื่องนี้มีผลประโยชน์ก้อนใหญ่ โดยกระทรวงมหาดไทยเสนอต่อขยายสัมปทานให้บีทีเอสตั้งแต่ปี 2572 ไปจบที่ปี 2602 กรณีนี้ต้องมีการศึกษาว่าถ้าให้เอกชนดำเนินการ หรือเอากลับมาเป็นของรัฐดำเนินการเอง ตัวเลขกำไรขาดทุนแบบไหนจะดีกว่ากัน แบบไหนประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์มากกว่ากัน มีตัวเลขที่กระทรวงคมนาคมไปศึกษามา พบว่าหาก กทม.ดำเนินการเองหลังหมดสัมปทานปี 2572 โดยไม่ต่อให้บีทีเอส ภาครัฐจะมีกระแสเงินสดสุทธิ 4.67 แสนล้านบาท ถ้าเอกชนดำเนินการจะมีกระแสเงินสดสุทธิแค่ 3.26 หมื่นล้านบาท เท่ากับรัฐดำเนินการเองมีกระแสเงินสดสุทธิมากกว่าถึง 4.35 แสนล้านบาท ” นายยุทธพงศ์ กล่าว
