สมชาย ห้าวเป้ง ชี้โพรง ยื่นปปช.ฟันจริยธรรม ส.ส.ทำสภาล่ม เย้ย งานนี้หลุดเก้าอี้เป็นร้อย

ส.ว.สมชาย ห้าวเป้ง ชี้โพรง ยื่นปปช.ฟันจริยธรรม ส.ส.ทำสภาล่ม เย้ย งานนี้หลุดเก้าอี้เป็นร้อย

เมื่อวันที่ 11 ก.พ. นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เขียนข้อความทางเฟซบุ๊ก แสดงความเห็นกรณีปัญหา ฝ่ายค้านขอตรวจสอบองค์ประชุมของรัฐบาล จนเกิดปัญหาสภาล่มบ่อยครั้ง ระบุว่า

ปัญหาสภาล่ม17ครั้งแก้ไม่ยาก ไม่ต้องยุบสภาแต่ต้องแก้เด็ดขาด ถึงคราวประชาชนต้องจัดหนักจัดเต็ม

“หน้าที่ของสมาชิกสภาคือการเข้าประชุมเพื่อทำหน้าที่การที่สมาชิกเข้าอยู่ในที่ประชุมแล้วไม่แสดงตนเพื่อไม่ให้นับตนเป็นองค์ประชุม เป็นการจงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้สภาเสียหาย ทำไมไม่ผิด157 ทำไมไม่ผิดจรรยาบรรณอย่างร้ายแรง”

Advertisement

ลูกจ้างที่ลาป่วยเป็นนิจ ลากิจเป็นประจำ ขาดงานเป็นอาจิณ นายจ้างยังต้องไล่ออก?เหตุใดนายจ้างตัวจริงประชาชนผู้เสียภาษีไม่คิดไล่ออกผู้แทนที่ชอบล่มสภากันบ้าง? ผมเคยเสนอทางออกเรื่องนี้แบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่นมาแล้ว3ข้อคือ

แก้ไขรัฐธรรมนูญข้อบังคับและพระราชกฤษฎีกาดีๆไปแล้วแต่ดูเหมือนจะเป็นไปได้ยากเพราะ“เสือย่อมไม่กินเนื้อเสือแมลงวันย่อมไม่ตอมแมลงวัน”

ฝากบอกนายกลุงตู่ว่าไม่ต้องคิดยุบสภาตามที่คนเดินเกมให้เสียงบประมาณเลือกตั้งใหม่กันอยู่ยาวเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคปลายปีไปเลยครับ แค่นายจ้างตัวจริง หาคนรวบรวมข้อมูลนำข้อกฎหมายร้องต่อปปช.ให้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนเอาผิดจริยธรรมร้ายแรงและส่งดำเนินคดีต่อศาลฎีกาก็พอครับ โดยมีข้อกฎหมายและแนวทางดำเนินการ 4 ขั้นตอน ดังนี้

Advertisement

1)ยื่นคำร้องต่อสภา เพื่อตรวจสอบรายชื่อและพฤติกรรมว่ามีใครบ้าง ที่ไม่ร่วมประชุมไม่ร่วมแสดงตนเป็นองค์ประชุมหรือลงมติ เป็นประจำ จนถือเป็นการจงใจทำให้สภาผู้แทนราษฎรล่ม17ครั้ง และเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายหรือขัดขวางให้สภาไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ทางนิติบัญญัติได้

2)ตรวจสอบและสรุปการกระทำของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลนั้นว่า เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 234(1) และมาตรา 235 (1) ประกอบ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 28 (1) และมาตรา 87 และมีความผิดร้ายแรงตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระฯ พ.ศ.2561 หมวด 1 ข้อ 7 หมวด 2 ข้อ 12 ข้อ 17 ข้อ21 และข้อ22  และข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎรราษฎรและกรรมาธิการ พศ 2563 ข้อ 4 ข้อ7 ข้อ8 ข้อ14 หรือไม่

3)ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช) ซึ่งมีหน้าที่และอำนาจให้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนว่าเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ หากปปช.มีมติชี้มูลความผิด ปปชต้องยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกา เพื่อวินิจฉัยต่อไป

4)เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งให้รับคำร้องไว้ สส.หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้นจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที !!! และหากศาลฎีกามีคำพิพากษาว่าเป็นการกระทำผิดฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง สส.หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น ต้องพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่  และอาจถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไม่เกิน 10 ปีด้วย

งานนี้อาจมีสส.ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือหลุดเก้าอี้เว้นวรรคการเมือง10ปีเป็นร้อย ปล : ไม่สงวนสิทธิที่ประชาชนผู้เสียภาษีที่เป็นนายจ้างโดยตรงของสสสสวและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะนำข้อกฎหมายและข้อเสนอแนะนี้ไปศึกษาหรือยื่นร้องต่อ คณะกรรมการปปชโดยตรง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image