เดินหน้าชน : ‘เจ้าแคว้น’ ใช้คนประเภทใด

คอลัมน์เดินหน้าชน : ‘เจ้าแคว้น’ใช้คนประเภทใด

เดินหน้าชน : ‘เจ้าแคว้น’ ใช้คนประเภทใด

ผมได้อ่านเจอประโยคที่อ้างมาจากคัมภีร์ “จิงซู” ถูกยกขึ้นมาเปรียบเทียบในช่วงนี้ว่า “หากต้องการทราบความรุ่งเรืองเสื่อมโทรมของแว่นแคว้นหนึ่ง เพียงดูว่าเจ้าแคว้นใช้คนประเภทใด ก็จะกระจ่างในบัดดล”
พลันที่ผมนึกถึงรัฐนาวาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

นายกฯ ที่กำลังเจอพายุโหมกระหน่ำโคลงเคลงไปมา ในขณะที่เรือลำนี้ก็มีสนิมขึ้นเกรอะกรัง เกิดรอยรั่วน้ำเข้าเรือจนรอวันอับปาง

เมื่อหวนคำนึงถึง 7 ปีของเจ้าปกครองแว่นแคว้นนี้ “สัตบุรุษ” ย่อมรู้ได้ว่ามันมีความรุ่งเรืองหรือเสื่อมโทรมลงเพียงใด

เจ้าปกครองที่ยึดอำนาจเข้ามา อ้างว่าเพื่อให้แคว้นนี้กลับเข้าสู่ความสงบสุขโดยเร็ว ประชาชนเกิดความรักความสามัคคี ต้องการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม แต่ห้วงเวลาที่ผ่านล่วงไปประเทศชาติกลับถอยหลังลงคลอง ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรที่ดีขึ้น ไร้การปฏิรูปใดๆ ตามพันธสัญญา

ADVERTISMENT

เจ้าปกครองที่สร้างระบอบให้ตนเองเป็นศูนย์กลางของอำนาจทั้งหมด กลายเป็นรัฐบาลสืบทอดอำนาจจนถึงปัจจุบัน สร้างกลไก ส.ว. สถาปนาระบอบอำนาจนิยมแบบเบ็ดเสร็จ ควบคุมองค์กรอิสระในการตรวจสอบถ่วงดุล จนกลายเป็นแว่นแคว้นที่ระบบนิติรัฐ-นิติธรรมพังทลาย

ป่าวประกาศว่าตนเองคือคนดี ไม่โกงไม่กิน ยกการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่นคือวาระแห่งชาติ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับต้านโกง แต่ทุกวันนี้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นกลับหมักหมมต่อเนื่องกันมาหลายปี อันดับการคอร์รัปชั่นเสื่อมถอยลงทุกปี การต้านโกงเป็นเพียงการสร้างภาพและเป็นเครื่องมือของใช้จัดการฝ่ายตรงข้าม

ADVERTISMENT

ออกป่าวประกาศว่าเข้ามาเพื่อแก้ไขความขัดแย้งและความวุ่นวายของบ้านเมือง แต่ทุกวันนี้ได้กลายเป็นคู่ความขัดแย้งเสียเอง สร้างความแตกแยกเพื่อแบ่งแยกแล้วปกครอง ปราศจากแนวทางการปรองดองและสร้างความสามัคคีให้คนในชาติ ผู้เห็นต่างต้องคดีรับโทษ บาดเจ็บล้มตาย ใช้กฎหมายพิเศษเข้าคุกคามอย่างกว้างขวางเกินขอบเขต

สร้างโครงสร้างเศรษฐกิจของรัฐแบบระบอบเศรษฐกิจทุนนิยมผูกขาด จนความเหลื่อมล้ำของประเทศกลายเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยเฉพาะการเอื้อประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้บรรดามหาเศรษฐี เจ้าสัว และนักธุรกิจการเมืองที่สนับสนุน โดยเฉพาะนโยบายที่เป็นผลประโยชน์ทับซ้อน สัญญาสัมปทาน โครงการร่วมทุน สัญญาจัดซื้อจัดจ้างจนเกิดระบอบเศรษฐกิจทุนนิยมผูกขาดประชารัฐ ปล่อยให้มีการผูกขาดตลาดค้าปลีกและตลาดภาคการเกษตรทั้งระบบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำส่งเสริมเศรษฐกิจผูกขาดอย่างเป็นระบบ

ช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด กลับใช้ความทุกข์ยากของประชาชนเป็นเครื่องมือกระชับอำนาจ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด แต่ไม่ได้ช่วยให้เกิดการยับยั้งโรค ตัวเลขผู้ติดเชื้อกลับมากขึ้น ใช้มาตรการควบคุมปิดร้านค้า ร้านอาหารและสถานประกอบการจนคนเหล่านี้กลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว

ละเลยการสร้างอนาคตให้คนในชาติ เห็นได้จากการปฏิรูปการศึกษาไทยที่ล้าหลังและด้อยคุณภาพจนได้รับการจัดอันดับที่ 8 แห่งอาเซียน แต่กลับสนับสนุนให้โรงเรียนต่างๆ ใช้ระบบอำนาจนิยมจนกระทั่งบังคับข่มขู่คุกคามนักเรียนที่เห็นต่างในสถานศึกษา ละเลยการพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่มีนักเรียนเป็นศูนย์กลาง จนองค์ความรู้ของระบบการศึกษาไทยไม่มีคุณภาพและตามหลังสังคมโลกมาอย่างต่อเนื่อง

เจ้าปกครองคนนี้ หาเงินไม่เป็นแต่กลับใช้เงินมือเติบยิ่งนัก นั่งบริหารมา 7 ปี บริหารเงินแผ่นดินไปมากกว่า 20 ล้านล้านบาท ใช้งบกลางและงบลับจำนวนมหาศาล แต่เศรษฐกิจไทยหาดีขึ้นไม่ ทั้งยังได้กู้หนี้ชดเชยงบประมาณขาดดุลทุกปี มียอดหนี้รวม 8.4 ล้านล้านบาท ทำให้พอกพูนหนี้สาธารณะสูงถึง 54% ของจีดีพี หากรวมเงินกู้ก้อนหลังๆ คาดว่าหนี้สาธารณะท่วมสูงทะลุเพดานกว่า 60% สร้างความวิบัติทางเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยมีเจ้าปกครองคนไหนเคยทำมาก่อน

แต่ในขณะเสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาลเกิดความสั่นคลอน เกิดความแตกแยกในพรรคตัวเอง ขณะเดียวกันในคณะรัฐมนตรีก็เกิดความขัดแย้งต่อรองกันด้วยผลประโยชน์

บ้านเมืองกำลังเกิดความสั่นไหว ผู้ปกครองผู้นี้ก็เดินเกมส่ง เสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ “แรมโบ้อีสาน” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เดินเกมตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคอะไหล่ เดินหน้าปกป้องไม่ให้เจ้าปกครองต้องโดดเดี่ยวเดียวดาย

หากต้องการหาบทสรุปของแว่นแคว้นนี้ว่ารุ่งเรืองหรือเสื่อมโทรม เราเพียงดูว่าเจ้าแคว้นใช้คนประเภทใด ก็จะกระจ่างในบัดดลจริงๆ

โกนจา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image