ส่องเสถียรภาพรัฐบาล ผ่านเสียงส.ส.ในสภา

ส่องเสถียรภาพรัฐบาล ผ่านเสียงส.ส.ในสภา

ณ เวลานี้ เสียงของ ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร ต้องถือว่าทุกเสียงไม่ว่าจะพรรคเล็ก พรรคใหญ่ ในฝั่งของพรรคร่วมรัฐบาลมีค่ามากจริงๆ

ภายหลังเกิดเหตุการณ์ พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอย่างพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีมติขับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และอดีตเลขาธิการพรรค พปชร. พร้อม ส.ส.รวม 21 คน ออกจากพรรค

โดย ร.อ.ธรรมนัสนำคณะเข้าสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ไปไม่ครบทั้งหมดได้เพียง 18 คน มี 3 ส.ส.คือ นายเอกราช ช่างเหล่า ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายวัฒนา ช่างเหล่า ส.ส.ขอนแก่น และนายสมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส.นครราชสีมา แยกทางไปร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ช่วยเติมเสียงหนุนฝ่ายรัฐบาลที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

ในทางการเมือง 3 ส.ส.ของอดีตพรรค พปชร. ที่ย้ายไปสังกัดพรรค ภท. เพื่อช่วยเติมเสียงให้กับฝั่งของรัฐบาลถือว่าเท่าทุน เพราะเป็นเสียงของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง

Advertisement

ขณะที่ยังต้องจับตาจุดยืนและทิศทางทางการเมืองของ พรรค ศท.ที่มี ร.อ.ธรรมนัสพร้อมพวกทั้ง 18 คน แต่มีเสียง ส.ส.ที่โหวตและลงมติในสภาได้ 16 คน เนื่องจาก นายวัฒนา สิทธิวัง ส.ส.ลำปาง และนางทัศนาพร เกษเมธีการุณ ส.ส.นครราชสีมา ถูกศาลฎีกามีคำสั่งให้ยุติปฏิบัติหน้าที่

ซึ่งเสียงของ ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ในขณะนี้ คือ 475 คน แบ่งเป็น ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล 267 เสียง (ถ้ารวมเสียงของพรรคเศรษฐกิจไทย) ส.ส. พรรคร่วมฝ่ายค้าน 208 เสียง ซึ่งกึ่งหนึ่งขององค์ประชุมสภาคือ 238 เสียง แต่ในสภาพความเป็นจริง ที่พรรคเศรษฐกิจไทยทั้ง 18 คน และทำหน้าที่ได้เพียง 16 คน ยังไม่ชัดเจนในจุดยืนทางการเมืองว่าจะสนับสนุนรัฐบาลหรือไม่ ทำให้เสียง ส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาลเหลือเพียง 251 เสียง

และหากกลุ่ม 16 ส.ส. ที่นำโดย นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. ในฐานะหัวหน้าทีมกลุ่ม 16 ซึ่งมีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะผู้ประสานงาน กลุ่ม 16 ที่ออกมาระบุว่ามี 14 ส.ส. โดยเป็นเสียงของ ส.ส.ฝั่งรัฐบาล 13 เสียง ส.ส.ฝ่ายค้าน 1 เสียง ที่เข้าร่วมประกาศจุดยืนทางการเมืองกับกลุ่ม 16 ที่จะตรวจสอบรัฐบาลในเรื่องที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน และโหวตสนับสนุนเป็นเรื่องๆ ไปนั้น

Advertisement

เท่ากับว่าเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลจะเหลือเพียง 238 เสียง

เท่ากับกึ่งหนึ่งขององค์ประชุมสภา และมากกว่าเสียงของพรรคร่วมฝ่ายค้านเพียง 30 เสียง สุ่มเสี่ยงที่รัฐบาลจะเกิดอุบัติเหตุในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ทุกเมื่อ
แม้ล่าสุด “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จะออกมาให้ความมั่นใจกับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าทางเลือกของนายกฯ มีอยู่ทางเดียว คือ อยู่ให้ครบเทอม พร้อมกับระบุว่าจะรวบรวมเสียงมาสนับสนุนนายกฯและรัฐบาลให้ได้ 260 เสียง

ซึ่งในความเป็นจริงหากนับเสียงของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล หากหักเสียงของกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัสออก เสียงของพรรคร่วมรัฐบาลจะเหลือ 251 เสียง เท่ากับว่าฝ่ายรัฐบาลจะต้องหาเสียงจากฝ่ายค้านมาเติมอีก 9 เสียง เพื่อให้ได้ครบ 260 เสียง ตามที่ “อนุทิน” ได้สัญญากับนายกฯไว้

แต่หากหักเสียงของกลุ่ม 16 ที่อ้างว่าจะโหวตสนับสนุนรัฐบาลเป็นเรื่องๆ ที่เป็นประโยชน์กับประชาชน เสียงของพรรคร่วมรัฐบาลจะเหลือเพียง 238 เสียง นั่นเท่ากับว่าฝ่ายรัฐบาลจะต้องหาเสียงเพิ่มจากฝั่งของฝ่ายค้านมาอีก 22 เสียง ถึงจะครบ 260 เสียง ถือเป็นเรื่องท้าทาย ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน หากยอมประกาศตัวเป็น “งูเห่า” เปลี่ยนจุดยืนมา
สนับสนุนฝ่ายรัฐบาล

ท้าทายการถูกประชาชนสั่งสอนในการเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นอย่างมาก ต่อจุดยืนในทางการเมืองของตัวเอง

เพราะการลงมติในแต่ละครั้งของ ส.ส. จะถูกบันทึกในการลงมติตามรายงานการประชุมของสำนักงานสภา ซึ่งสามารถตรวจสอบและเปิดเผยต่อสาธารณชนได้ว่า ส.ส.ของพรรคไหนมีจุดยืนทางการเมืองอย่างไร ใครที่กลายเป็น “งูเห่า” บ้าง

โดยสถานการณ์และจำนวนเสียงของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลในขณะนี้ “มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะผู้ประสานงานกลุ่ม 16 เปิดเผยว่า ขณะนี้จำนวน ส.ส.ของฝ่ายรัฐบาลที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่น่าจะมีถึง 260 เสียงตามที่มีการกล่าวอ้างของแกนนำรัฐบาล ถ้าหักเสียง ส.ส.ของกลุ่ม 16 และเสียง ส.ส.กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ออกแล้วจะมีไม่ถึง 260 เสียงแน่นอน แต่ทราบว่ามีความพยายามที่จะประสานเสียง ส.ส.ของฝ่ายค้านให้ไปสนับสนุนฝ่ายรัฐบาล

ซึ่งเป็นเรื่องที่สุ่มเสี่ยงอย่างมากหาก ส.ส.ฝ่ายค้านคนใดไปสนับสนุนฝ่ายรัฐบาล เชื่อว่าพรรคที่เป็นต้นสังกัดของ ส.ส.คนนั้น คงไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้งในสมัยหน้าอย่างแน่นอน หาก ส.ส.คนใดคิดรับ “กล้วย” น่าจะเป็นการรับกล้วยครั้งสุดท้ายในชีวิตผู้แทนราษฎร

ส่วนรัฐนาวา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะอยู่ครบเทอม ตามคำมั่นสัญญาที่แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลให้คำมั่นไว้ได้หรือไม่?

คงจะต้องพิสูจน์กันในช่วงที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเปิดศึกใหญ่ เขย่าเก้าอี้นายกฯ กับการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และคณะรัฐมนตรี ในห้วงการประชุมสภา สมัยประจำปีครั้งที่สอง ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กันยายน

ว่าสุดท้ายแล้ว “พล.อ.ประยุทธ์” จะรอดพ้นช่วงเวลาอันตรายทางการเมืองตามที่พรรคร่วมฝ่ายค้านประกาศจะเช็กบิลได้หรือไม่!?!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image