‘ญาติแม่-ลูก’ ดับหลังทำคลอด เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ สธ. ถามความรับผิดชอบของหมออยู่ที่ไหน
เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วยนายบัณฑิต ปานนาศรี สามีของ น.ส.กรรณิกา รัตกูล ผู้เสียชีวิตจากการรอคลอดบุตร และนางสายใจ ปานนาศรี มารดาของนายบัณฑิต ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยมีนางนวรัตน์ มาลินีรัตน์ หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับหนังสือแทน เนื่องจากทางครอบครัวติดใจสาเหตุการเสียชีวิตกรณี น.ส.กรรณิกาที่ไปผ่าคลอดตามกำหนด แต่เมื่อตรวจสุขภาพพบว่าเด็กในครรภ์หัวใจหยุดเต้นแล้ว แพทย์จึงแจ้งว่าเด็กเสียชีวิตในครรภ์ และให้รอคลอดลูกที่เสียชีวิตในครรภ์ จนเป็นเหตุให้แม่เด็กเสียชีวิตไปด้วย
นายบัณฑิตกล่าวว่า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชดใช้การสูญเสีย และขอความเป็นธรรมให้กับลูกและภรรยาของตน โดยมีข้อเรียกร้องต่อกระทรวงสาธารณสุข ดังนี้ 1.ขอให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าสาเหตุการเสียชีวิตของ น.ส.กรรณิกา มีผู้ใดจงใจ หรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือไม่ อย่างไร 2.ขอให้พิจารณาเงินช่วยเหลือผู้เสียหายจากบริการสาธารณสุข ตามระเบียบของกระทรวงสาธารณสุข 3.ขอให้ประสานขอเวชระเบียนจากโรงพยาบาลสระบุรี เพื่อใช้เป็นหลักฐานทางคดี 4.ขอให้ติดตามผลชันสูตรพลิกศพของ น.ส.กรรณิกา ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และ 5.ขอให้จัดหาพยานผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินารีแพทย์ เพื่อให้การเบิกความเป็นพยานผู้เชี่ยวชาญในคดี
ด้านนางสายใจกล่าวว่า อยากให้ดำเนินการแจ้งสาเหตุการเสียชีวิตทั้งแม่และลูกอย่างเร่งด่วน เนื่องจากทางครอบครัวยังไม่สามารถตั้งสวดพระอภิธรรมและฌาปนกิจได้ เพราะผลชันสูตรจากโรงพยาบาลยังไม่ออก
“ความรับผิดชอบของหมออยู่ที่ไหน แม้แต่จะให้ข้อมูลคุณยังไม่กล้าให้ เราต้องเอาศพมาผ่าตัดที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เอง มันใช่ไหม แค่เราสูญเสียลูกกับหลานเราก็หดหู่พอแล้ว หน่วยงานไหนที่จะมารับผิดชอบพวกเรา ที่จะมาชดใช้” นางสายใจกล่าวด้วยเสียงสะอื้นพร้อมร่ำไห้
ทนายรณรงค์กล่าวว่า ในตอนแรกที่แพทย์ตรวจก่อนจะทำการอัลตราซาวด์ แพทย์บอกว่าหัวใจของเด็กในครรภ์ไม่เต้น จึงบอกให้ไปทานข้าวก่อนหัวใจจะได้กลับมาเต้น อาจจะเป็นการล้อเล่นกับคนไข้หรือไม่ก็ไม่ทราบ เมื่อคนไข้กลับมาทำการอัลตราซาวด์ก็เสียชีวิตแล้ว และไม่ทราบว่าทางโรงพยาบาลให้นักศึกษาแพทย์ทำการรักษาหรือไม่ จึงใช้เวลาในการรอนาน ต้องให้ทางกระทรวงสาธารณสุขชี้แจงมา
“ตอนนี้อยากได้เวชระเบียน เพราะอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อยากให้สักคนออกมาอธิบาย ออกมาบอกว่าเกิดอะไรขึ้น พลาดหรือไม่พลาด ไม่ได้ว่าอะไร เพราะตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ ก็ให้ฟ้องกระทรวงสาธารณสุข ไม่ได้ฟ้องหมออยู่แล้ว ตอนนี้ทางโรงพยาบาลไม่ได้ตอบอะไรเลยจึงไม่ทราบว่าเสียชีวิตเพราะอะไรกันแน่
“เมื่อนำศพไปชันสูตร แพทย์นิติเวชบอกว่าใช้เวลา 2 เดือน ตอนนี้จึงยังไม่ทราบสาเหตุการตาย และยังไม่ทราบว่าใครคือแพทย์เจ้าของไข้ เพราะโยนกันไปมา ไม่มีใครรับผิดชอบ หากกระทรวงสาธารณสุขเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน ควรจะไปนำเวชระเบียนมาให้ทางญาติคนไข้ ไม่เช่นนั้นในวันจันทร์อาจจะนำโลงศพไปตั้งไว้ที่หน้าศาลากลาง จ.สระบุรี ก็ได้ เพราะการกระทำแบบนี้ไม่ยุติธรรมกับญาติผู้เสียชีวิต” ทนายรณรงค์กล่าว
