กมธ.พัฒนาการเมือง แจงหลายหน่วยงานกังวลร่าง กม.คุมเอ็นจีโอ หลายมาตราลิดรอนสิทธิ ปชช.

‘กมธ.พัฒนาการเมือง’ แถลงผลประชุม หลังเชิญหน่วยงานเกี่ยวข้อง ถกร่าง พ.ร.บ.ดำเนินกิจกรรมองค์กรไม่แสวงหารายได้ ห่วงหลายมาตราลิดรอนสิทธิเสรีภาพ ปชช.

เมื่อเวลา 11.10 น. วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร และ น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม พรรค ก.ก. ในฐานะโฆษก กมธ. แถลงผลการประชุม กมธ.

น.ส.สุทธวรรณกล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กมธ.มีการพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ. … ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา โดย กมธ.มีข้อห่วงใยเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน หลักการและสาระสำคัญในร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว จึงได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุม ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาสังคม โดยกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะนำความเห็นข้อห่วงใยของทุกภาคส่วนมาวิเคราะห์ และนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อปรับร่างกฎหมายให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น

น.ส.สุทธวรรณกล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า 1.ผู้แทนกระทรวง พม.ให้ความเห็นว่าร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวมีหลักการสำคัญในการส่งเสริมภาคประชาสังคมในองค์กรต่างๆ ให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น 2.ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศให้ความเห็นว่าร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว ผู้แทนจากประเทศต่างๆ ได้เสนอข้อห่วงใยและข้อกังวลประกอบการพิจารณา 3.ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นว่าควรเพิ่มกระบวนการตรวจสอบการดำเนินงานของภาคประชาสังคม และ 4.ผู้แทนองค์กรภาคประชาสังคมกำลังรวบรวมความคิดเห็นและประเด็นต่างๆ ที่สำคัญ เพื่อเสนอต่อกระทรวง พม. โดยในภาพรวมมีความกังวลว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องออกกฎหมายมากำกับดูแลควบคุมองค์กรภาคประชาสังคม เนื่องจากมีกฎหมายอื่นควบคุมดูแลอยู่แล้ว

น.ส.สุทธวรรณกล่าวต่อว่า กมธ.มีความเห็นว่าการจัดทำร่าง พ.ร.บดังกล่าว ควรจะมีการรับฟังข้อมูลของทุกส่วนอย่างรอบด้าน เพื่อประกอบการจัดทำกฎหมาย และสร้างความสมดุลของภาคส่วนต่างๆ ทั้งด้านความมั่นคง ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และด้านสิทธิเสรีภาพ โดย กมธ.จะมอบหมายให้คณะทำงานศึกษาแนวนโยบายกฎหมายภาครัฐ เก็บรวบรวมข้อมูลและนำเสนอต่อ กมธ.ต่อไป เมื่อรัฐบาลเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่สภา ในชั้นรับหลักการก็จะสามารถใช้เป็นข้อมูลประกอบการอภิปรายคัดค้าน หรือเสนอแนะร่างนี้ได้

Advertisement

ด้านนายณัฐชากล่าวว่า มีหน่วยงานเอ็นจีโอยื่นเรื่องเข้ามาที่ กมธ.ในการคัดค้าน พ.ร.บ.ฉบับนี้ ซึ่ง กมธ.ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาถามถึงสาเหตุดังกล่าว การประชุม กมธ.เมื่อวานนี้พบว่ามีการร่างกฎหมายขึ้นมาเพื่อส่งเสริม แต่เมื่อส่งให้สำนักกฤษฎีกาและสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้รับข้อท้วงติงมา 7 ประเด็น ทำให้ร่างจากตอนแรกที่จะส่งเสริมการรวมกลุ่มของภาคประชาชน กลับเป็นร่างที่ขัดขวางการรวมกลุ่มของประชาชน

“เรื่องนี้จึงเป็นที่วิตกของหน่วยงานเอ็นจีโอในไทย จึงเชิญตัวแทนกรมสนธิสัญญาและกฎหมายเข้ามาหารือ และได้ข้อมูลว่าเรื่องนี้เป็นที่น่ากังวลต่อประเทศอื่นๆ หากรัฐบาลไทยประกาศใช้กฎหมายฉบับนี้ ต่างประเทศก็ต้องทบทวนบทบาทที่จะเข้ามาในประเทศ เนื่องจากหลายมาตราเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่จะรวมกลุ่มกัน” นายณัฐชากล่าว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image