‘โรม’ ฟื้นคดี ‘ปวีณ พงศ์สิรินทร์’ นายตร.เจ้าของคดีขบวนการค้ามนุษย์ อ้างบิ๊กเนมเอี่ยวเพียบ

‘โรม’ ฟื้นคดี ‘ปวีณ พงศ์สิรินทร์’ นายตำรวจเจ้าของคดีขบวนการค้ามนุษย์ อ้างบิ๊กเนมเอี่ยวเพียบ เผย คุย ‘ปวีณ’ ยังมีให้สืบต่ออีกเพียบ

เมื่อเวลา 18.10 น. วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) อภิปรายว่า เดือนมิถุนายน 2564 กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เผยแพร่รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ โดยลดระดับประเทศไทยจาก Tier 2  ลงไปอยู่ในกลุ่มTier 2 Watch List ซึ่งเกือบแย่สุดจากทั้งหมด 4 ระดับ เนื่องจากมีการลักลอบขนขนผิดกฎหมายข้ามชายแดนระหว่างไทย-เมียนมา มีการเรียกเก็บเงิน โดยได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ทั้งนี้ เราเคยมีความพยายามปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ครั้งใหญ่เท่าที่ประเทศเคยมีมา เป็นการเอาตัวคนผิดมาลงโทษได้ตั้งแต่นายหน้าค้ามนุษย์ที่เป็นบุคคลทั่วไปจนถึงทหารระดับสูง คดีนี้คือคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา นำทีมสอบสวนโดย  พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ในช่วงปี 2558 ซึ่งการค้ามนุษย์ไม่ได้มีแค่บังคับไปขายบริการ ขอทาน หรือแรงงานบนเรือประมง แต่กรณีชาวโรฮิงญา คือชาติพันธุ์ที่ถูกกดขี่ในประเทศเมียนมาที่ต้องการอพยพไปประเทศมาเลเซียและใช้เส้นทางผ่านทางประเทศไทย จึงเป็นที่มาของขบวนการที่หากินกับชีวิตและเลือดเนื้อของคน การเรียกเก็บเงินหัวละหลายหมื่น จับยัดใส่เรือประมง พอขึ้นฝั่งก็เอามาขังไว้ที่ค่ายลับกลางป่า ผู้หญิงถูกข่มขืน แต่ละคนถูกซ้อมทรมาน

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า สภาพค่ายที่ถูกคุมขังและหลุมศพชาวโรงฮิงญาที่ตรวจพบนั้นมันคือสิ่งที่มนุษย์ทำกันมนุษย์ด้วยกันแบบนี้เรียกว่าค้าทาส เห็นชีวิตคนอื่นเป็นผักปลา เป็นความอมหิตของทุกคนที่กระทำและสนับสนุนอาชญากรรมให้ดำรงอยู่นานนับสิบปี ซึ่งการขังคนแบบนี้ลำพังอาชญากรทั่วไปทำไม่ได้ ถ้าไม่มีอาชญากรในเครื่องแบบร่วมด้วย ซึ่ง พล.ต.ต.ปวีณ พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นแบบนั้นจริงด้วยการสืบไปถึงนักการเมืองท้องถิ่น ตำรวจ ทหาร ชื่อที่ใหญ่ที่สุดคือ พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เตรียมทหารรุ่น 16 แต่ชะตากรรมเจ้าของผลงานตัวจริงต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า จากคำให้การของ พล.ต.ต.ปวีณ ต่อทางการของประเทศออสเตรเลีย เพื่อใช้ขอลี้ภัย เป็นกระบวนการตามกฎหมายให้การสาบานว่าเป็นความจริงและได้รับการยอมรับจากประเทศปลายทางให้ลี้ภัยได้ อยากให้ตำรวจ ข้าราชการ ประชาชน เข้าไปดูคำให้การนี้ได้ที่ทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊กของพรรคก้าวไกล และนึกทบทวนว่า ชีวิตงานราชการที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุด แต่พวกท่านกลับมาเจอเรื่องแบบนี้หรือไม่ โดยเดือนพฤษภาคม 58 พล.ต.ต.ปวีณ จะต้องตามหาพยานคนสำคัญ เมื่อถามตำรวจที่รับผิดชอบ พล.ต.ต. ด. , พ.ต.อ. อ, พ.ต.อ. ฉ ถูกปฏิเสธให้ข้อมูล จนต้องหาพยานขยายผลและออกหมายจับคนที่เกี่ยวข้อง ต่อมามีการค้นบ้านผู้ต้องหาจ.ระนอง ที่มีพ.ต.อ. อ เป็นหัวหน้าชุด พบหลักฐานการโอนเงินของผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ลงชื่อเจ๊ง้อ หนึ่งในขบวนการค้ามนุษญ์รายใหญ่ จ.ระนอง ซึ่งทราบข้อมูลว่าเจ๊ง้อ มีสายสัมพันธ์โยงใยนายทหารอดีตผบ.ทบ. ที่อยู่ในรัฐบาลนี้ด้วย  และลูกสาวเจ๊ง้อเพิ่งถูกจับเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งน่าแปลกมากที่มาจับได้หลังไทยโดนลดระดับ Tier 2 Watch List  จึงสงสัยต้องเร่งทำผลงานเพราะถูกลดระดับ Tier 2 Watch List หรือไม่ ซึ่งอุปสรรคที่ พล.ต.ต.ปวีณ ต้องเจอคือการขัดขวางกระบวนการสืบสวน การปิดบังพยานหลักฐาน โดยตำรวจ เพื่อนร่วมอาชีพ นี่คือส่วนต่อขยายของขบวนการทั้งหมดที่แฝงอยู่ในหน่วยงานตำรวจ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่คุมตำรวจเวลานั้นเคยรู้อะไรหรือไม่

Advertisement

“ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับ พล.ต.ต.ปวีณ เป็นการส่วนตัว เขาบอกว่าคดีนี้ยังมีอะไรให้สอบสวนอีกมาก ลองคิดดูว่าขบวนการค้ามนุษย์ขนาดใหญ่ที่ต้องขนคนจำนวนมากลงเรือเข้าน่านน้ำไทยแต่จับตัวทหารเรือยศแค่นาวาโทได้คนเดียว ทหารบกนอกจากพล.ท.มนัส ก็มียศนายร้อยอีก 2 คน มันเป็นไปได้หรือไม่ที่นาวาโทคนเดียวคุมทั้งทะเลอันดามัน สามารถเปิดทางให้ขบวนการค้ามนุษย์ล่องเรือมาได้ พล.ต.ต.ปวีณ ระบุว่า หากได้สืบคดีต่อไป รับรองว่าอย่างน้อยทัพเรือภาค 3 ได้ละลายทั้งภาค หรือแม้แต่บ้านของพล.ท.มนัส ที่ผ่านมาก็ไม่ได้เข้าไปขยายผลค้นหาหลักฐานเลย น่าคิดว่ายังมีทหารเรือ ทหารบกนายอื่นร่วมสมคบอีกหรือไม่ หรือมีใครที่ใหญ่กว่าสูงกว่าหรือไม่  หรือมีคนในรัฐบาลหรือคนที่รอชี้แจงอยู่ในสภาฯมีส่วนร่วมหรือไม่ การขัดขวางการสอบสวนของทีม พล.ต.ต. ปวีณที่เกิดขึ้นทั้งหมด ก็เพื่อตัดตอนคดีนี้ ไม่ให้สาวไปได้ไกลกว่า พล.ท.มนัส ที่ปัจจุบันก็เสียชีวิตอย่างปริศนาในเรือนจำ ซัดทอดอะไรไม่ได้อีก อย่างนั้นใช่หรือไม่” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า จริงอยู่นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ถึงที่สุดนี่ก็ยังเป็นความอยุติธรรมที่ยังไม่สิ้นสุดอย่างที่ใครบางคนพยายามทำให้เชื่อว่ามันสิ้นสุดแล้ว เป็นความอยุติธรรมที่ทำให้ขบวนการที่ไร้สำนึกความเป็นคนยังหากินกับชีวิตของคนอื่น เป็นความอยุติธรรมที่ทำให้คนชั่วๆ ได้ดี คนดีๆ ต้องลี้ภัย มากไปกว่าปัญหาการค้ามนุษย์ นี่คือปัญหาของรัฐบาลนี้ ที่ยังธำรงไว้ซึ่งระบบที่ทำลายล้างคนซื่อสัตย์ ทำลายล้างคนตรงไปตรงมา ทำลายล้างคนที่กล้าสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้องเพื่อให้ประเทศนี้ดียิ่งขึ้น ระบอบเช่นนี้ถ้าไม่รีบเอาออก ถ้าไม่รีบเอารัฐบาลที่สนับสนุนมันออก มันจะกัดกินทั้งคนทำงาน และประชาชนทุกคนจนไม่เหลือชิ้นดี เพราะฉะนั้น จึงขอฝากประชาชน หากพวกท่านรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ขอให้เลิกสนับสนุนรัฐบาล ขอให้เลิกเลี้ยงดูรัฐบาลนี้ และถ้าหากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล เราจะไม่ปล่อยให้การค้ามนุษย์เฟื่องฟูอยู่อย่างนี้แน่นอน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image