‘เอกราช’ ขอบคุณ ‘บิ๊กป้อม’ ขอกลับ ภท.บ้านหลังเก่า ยังรัก ‘ธรรมนัส’ ไม่แปรเปลี่ยน

‘เอกราช’ ขอกลับภูมิใจไทย บ้านหลังเก่า ขอบคุณ ‘บิ๊กป้อม’ ให้โอกาส ชี้สถานการณ์บีบบังคับ ยังรัก ‘ธรรมนัส’ ไม่แปรเปลี่ยน – ยัน ส.ส.ของกลุ่ม ไม่ใช่สัมพเวสีทางการเมือง

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ศูนย์ประสานงานเพื่อนเอกราช ริมถนนเลี่ยงเมืองสายขอนแก่น-อุดรธานี ตำบลศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า การตัดสินใจในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตนได้ทำตามความตั้งใจ ตามที่หารือกับนายวัฒนา ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น เขต 2 และกลุ่มเพื่อนเอกราช ซึ่งคำว่าเพื่อน เพื่อนไปไหนก็ต้องไปด้วยกันเป็นเรื่องธรรมดา การเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย ถือว่าเป็นการกลับบ้านหลังเก่าที่เราเคยอยู่มา เป็นสัญญาใจกันตั้งแต่แรกแล้วว่าถ้าไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ แล้วถ้าออกจากพลังประชารัฐ ก็ขอกลับมาอยู่บ้านหลังเก่าคือพรรคภูมิใจไทย ตรงนี้ทางผู้ใหญ่ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะตอนไปถือว่าไปทำงานกับท่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

“ต้องขอบคุณท่าน พล.อ.ประวิตร ชีวิตผมที่ได้เป็น ส.ส.หรือลูกชายที่ได้เป็น ส.ส.ก็ได้จากความเมตตาจากท่าน ซึ่งครอบครัวให้ความเคารพท่านตลอด แต่การออกจากพรรคพลังประชารัฐแล้วจะไปที่ไหน ผมตัดสินใจในนาทีสุดท้ายด้วยสถานการณ์บีบบังคับ ผมก็เลยตัดสินใจกลับบ้านหลังเก่าที่เคยอยู่ คือพรรคภูมิใจไทย

หลังจากวันแรกที่ถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐ ยังมั่นใจว่าจะไปอยู่กับ ร.อ.ธรรมนัส (พรหมเผ่า) เพราะท่านถือว่าเป็นคนที่ผมรู้ใจมากที่สุด และผมก็ให้สัมภาษณ์แบบนั้นมาตลอดเหมือนกัน แต่หลังจากถูกขับออกมา 2 อาทิตย์กว่า สถานการณ์มันเปลี่ยน เปลี่ยนตรงสภาล่มบ่อยอาทิตย์ 1 ล่ม 2 ครั้งก็มี จึงเริ่มหวั่นไหว จึงได้ถามผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองว่า เป็นอย่างนี้จะอยู่ไปจนหมดวาระหรือไม่ หรือจะอยู่ถึงสิ้นปีหรือไม่ หลายคนมั่นใจว่า ไม่น่าจะเกินเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และคิดว่าอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นแน่นอน และถ้าอยู่พรรคเศรษฐกิจไทยแค่ 2-3 เดือน แล้วยุบสภาฯ ผมก็ต้องออกมาอีก ตรงนี้ผมได้รับปากผู้ใหญ่ไว้แล้ว ทางท่านธรรมนัสก็ทราบว่าถ้าผมไปอยู่พรรคเศรษฐกิจไทย ผมจะอยู่แบบชั่วคราว ถ้าอภิปรายไม่ไว้วางใจเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้น ถ้านายกรัฐมนตรีลาออกหรือยุบสภาฯ ตอนนี้ถ้าผมไปอยู่พรรคเศรษฐกิจไทยและไปอยู่พรรคภูมิใจไทย จะดูผมไม่มีจุดยืนเป็นของตัวเองเหมือนกับสัมพเวสีทางการเมือง เฉพาะฉะนั้น จึงได้คุยกับลูกชายว่าเราไปในจุดยืนที่เราจะยืนอย่างมั่นคงได้ คือกลับไปพรรคภูมิใจไทยตามเจตนารมณ์เดิมที่เคยตั้งใจ และหลังจากย้ายพรรคยังไม่มีการพูดคุยกับท่านธรรมนัส ยังไม่เจอกันเลยแม้แต่ในสภาหรือนอกสภา” นายเอกราชระบุ


Advertisement

นายเอกราชกล่าวอีกว่า วันนี้เป็นการเซ็ตชุดใหม่หัวคะแนนเดิม หรือพรรคพวกเพื่อนฝูงเดิม ใครจะอยู่ที่ไหน อย่างไร ก็เป็นอิสระในการตัดสินใจ ไม่มีบอกว่าทุกคนต้องมาด้วยกัน ไปด้วยกัน ซึ่งหลายคนก็บอกว่าเอกราชอยู่ไหนก็ไปด้วยกัน มันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว

สมัยอยู่พรรคภูมิใจไทยก็เหมือนกัน เพราะเป็นความผูกพันของคำว่าเพื่อน มันยิ่งใหญ่กว่าคำว่าพรรค ดังนั้นเป้าหมายที่วางไว้คือเราทำกิจกรรมการเมืองมาตลอด พบปะพี่น้องประชาชนมาตลอด ความเก่าของเราที่มีอยู่คือเราไม่ได้ทิ้งพี่น้องประชาชน เราอยู่กับพื้นที่ อยู่กับพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด และทุกคนก็ลงพื้นที่ตลอด เราไม่ใช่นักการเมืองที่วิ่งหาพรรคเวลาสมัคร ยุบสภาฯ หรือหมดวาระ เราเตรียมพร้อมตลอดไม่ว่าเราจะอยู่พรรคไหนก็ตาม เราเตรียมที่จะเป็นผู้รับใช้ประชาชน อยู่พรรคไหนก็พร้อมพรรคนั้น แต่สำคัญที่สุดก็คือเราเน้นที่ตัวบุคคล ทุกคนต้องเป็นดาวฤกษ์ที่จะเปล่งแสงในตัวเองได้ ไม่ต้องไปอาศัยบารมีของพรรค และถ้าหากว่าพรรคไม่มีกระแสเราต้องพร้อมที่จะแบกพรรคไว้ด้วย พร้อมที่จะสร้างกระแสตรงนี้ไว้ด้วย

Advertisement

“การทำงานการเมืองภาคอีสาน ทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าเป็นอย่างไร ยิ่งภาคอีสานตอนบน ยิ่งเป็นเมืองหลวงของอีกพรรค เราก็รู้ว่าต้องดำเนินการอย่างไร วันนี้กลุ่มเพื่อนเอกราช เราพร้อมจะส่งผู้สมัครลงในนามพรรคภูมิใจไทย เราพร้อมที่จะขับเคลื่อนพรรคภูมิใจไทยในอีสานตอนบนแบบ 100 % ส่วนจะประสบความสำเร็จเท่าไรต้องดูสถานการณ์ในช่วงเวลา

ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชน ตอนนี้ยังไม่มีการเข้าประชุมพรรค เลยไม่อยากจะคาดเดาว่าทางพรรคจะมอบอะไรหรือไม่มอบอะไร แต่เรามีความรับผิดชอบที่จะสนับสนุนและส่งเสริมพรรคให้มากที่สุด ช่วยประชาสัมพันธ์ผลงานของพรรค พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคที่พูดแล้วทำ และทำได้ด้วย เราคิดว่าเราตัดสินใจถูกต้องที่สุดแล้ว เป็นพรรคการเมืองที่ประกาศนโยบายมาแล้วสามารถปฏิบัติได้อย่างนโยบาย กัญชา กัญชง เป็นนโยบายที่ชัดเจน เราจึงตัดสินใจย้ายกลับมาบ้านเก่าของเรา และอีกอย่างที่มั่นใจ พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคกลางๆ ไปหาใหญ่ ไม่ว่าฝ่ายไหนชนะ พรรคภูมิใจไทยก็ได้เป็นรัฐบาล” นายเอกราชกล่าว

 

นายเอกราชยังกล่าวถึงการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ด้วยว่า กลุ่มเพื่อนเอกราช จะส่งผู้สมัคร 7-8 คน ในเขต จ.ขอนแก่น, ชัยภูมิ และ หนองบัวลำภู ในนามพรรคภูมิใจไทย

“เพราะเราคืองานการเมืองขนาดเล็กที่รักกันเหนียวแน่น และต้องการที่จะเป็นรัฐบาลเพราะ ส.ส.ทุกคนเมื่อได้เป็นแล้ว ประชาชนเดือดร้อนก็สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ ประสานเอางบเข้ามาพัฒนาพื้นที่ได้ ต้องเป็นพรรครัฐบาลเท่านั้น อย่างไรก็ดี ก็ต้องระมัดระวังตัวให้มากขึ้น เพราะเราอาจจะเป็นเป้าที่สปอตไลต์ส่องเข้ามา ทำอะไรก็ตาม ถ้าไม่ดีจะเป็นภาพที่ติดลบสู่กลุ่มสู่เป้าหมาย

ส่วนเรื่องการสนับสนุนนายกรัฐมนตรีตรงนี้ไม่มีอำนาจที่จะไปตัดสินใจได้ เสนอได้ แต่ตัดสินใจไม่ได้ เราต้องเคารพการตัดสินใจของมติพรรค พรรคว่าอย่างไร ครอบครัวช่างเหลา และทีม ส.ส.ก็ยินดีปฏิบัติตามผู้ใหญ่ของพรรคระบุ” นายเอกราชกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image