เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ห้องประชุมคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (ประสานมิตร) คณะจัดงาน 30 ปีพฤษภาประชาธรรม จัดเวทีสาธารณะ 30 ปีพฤษภาประชาธรรม ในหัวข้อ “ประสานมิตร : ถอดบทเรียนการรัฐประหาร 23 กุมภาพันธ์ จาก รสช. ถึงเหตุการณ์ 17 พฤษภาคม 35 บทบาททหารกับการเมืองไทย”
นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 กล่าวเปิดงาน ใจความว่า ตนฝัน หวัง และ ตั้งใจ ต้องการเห็นประเทศไทยได้พัฒนา ก้าวหน้าทางประชาธิปไตย มีความ สุข สงบ แม้วันนี้ยังไม่เห็นเช่นนั้น แต่ยังมีความหวัง กับคนรุ่นใหม่ ที่มีความพยายามไล่เผด็จการ ผู้สืบทอดอำนาจด้วยสันติวิธี ทั้งนี้ ได้พยายามเตือนทุกฝ่าย แม้กระทั่งตนเองให้พึงสังวรณ์ว่า กาลเวลาเท่านั้นเป็นผู้ชนะ คนรุ่นใหม่เท่านั้นที่จะผู้ชนะ เราๆท่านๆมีแต่จะร่วงโรยไป ขอเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจยอมรับความจริง คนเป็นเจ้าของอำนาจตัวจริงคือคนรุ่นใหม่ เรามีแต่จะตกยุคเท่านั้น
ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล กรรมการมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม อดีตเลขาธิการ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) 2535 ได้ร่วมอภิปรายใจความว่า ในปี 2535 ขณะที่ตนเป็นนักศึกษา ตนไม่เชื่อว่าจะมีการยึดอำนาจอีกแล้ว แต่ก็ยังเกิดขึ้น ปีนี้ใกล้ครบ 90 ปี การเปลี่ยนแปลงการปกครองแต่ประเทศไทยไม่เคยได้ประชาธิปไตยอย่างแท้จริงเลย ตลอดเวลาที่ผ่านมา การเข้าสู่อำนาจมีเพียง 2 วิธี คือ การเลือกตั้ง และ การรัฐประหาร อย่างไรก็ตาม ขอชวนให้ดูเหตุการณ์พฤษภา 2535 ไปพร้อมกับเหตุการณ์ต่อๆมา เหตุใดไม่มีใครกล้าพูดว่าการปฏิวัติจะไม่เกิดขึ้นอีก
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันครองอำนาจมากว่า 8 ปี การจะทำให้ประเทศไทยกลับเข้าสู่ประชาธิปไตยไม่ง่ายเลย อย่างน้อยสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.แต่งตั้งชุดนี้ที่จะหมดวาระ อีก 2ปี 3เดือนก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่จะคงอยู่อีกหลายปี อีกทั้งรัฐธรรมนูญ 2560 นี้แย่กว่าทุกฉบับที่ผ่านมา ก่อนอื่นคนไทยต้องยอมรับก่อนว่า การรัฐประหารไม่ใช่การแก้ปัญหา ไม่เคยมีการปฏิวัติครั้งใดนำมาซึ่งประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญที่ดียิ่งขึ้นเลย
“อยากชวนพลเอกประยุทธ์ ช่วยบอกน้องๆ หรือ กองทัพให้สัญญากับประชาชนว่าจะไม่รัฐประหารอีก เราต้องช่วยกันหยุดการรัฐประหาร ใกล้ 8 ปีของพลเอกประยุทธ์ หลังจากรัฐประหารมา มีแต่ความเหลื่อมล้ำมากขึ้น ยิ่งปฏิวัติ เจ้าสัวรวยขึ้น ยิ่งปฏิวัติยิ่งแตกแยก” ผศ.ดร.ปริญญากล่าว
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. อดีตแกนนำนักศึกษา ม.รามคำแหง กล่าวว่า การยึดอำนาจสืบทอดอำนาจเป็นของคู่กัน ไม่ว่าสมัยใด พรรคที่สืบทอดอำนาจจะเอานักการเมืองน้ำดีมาไม่ได้ ได้แต่คนเทาๆ ปี 2535จึงได้พรรคสามัคคีธรรมมา ทั้งนี้ตนเห็นว่า คนไทยประหลาด พลเอกประยุทธ์สัปปรับไม่รู้กี่ครั้งไม่มีใครว่า แต่พลเอกสุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรี ปี 2535 โกหกครั้งเดียวประชาชนไม่ยอม ตนเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2535 ไม่ควรเกิด แต่นักเลือกตั้งต้องการอำนาจต่อ จึงก่อให้เกิดความตายในเหตุการณ์พฤษภา 2535 หลังเหตุการณ์พฤษภา 2535 ทหารเข็ดหลาบยาวนานมากกว่าจะเกิด รัฐประหารปี 2549 ซึ่งหากนักการเมืองไม่เปลี่ยนแปลง ประชาชนไม่เปลี่ยนแปลง การรัฐประหารก็จะเกิดอีก หากได้มีการเลือกตั้งครั้งหน้า จะเกิดการใช้เงินมโหฬารมากที่สุด ซึ่งก็จะเกิดการถอนทุนมโฬารมากที่สุด 30กว่าปีที่ผ่านมา ประเทศนี้ไม่มีอะไรเปลี่ยน เราไม่เคยเป็นประชาธิปไตยจริงๆแม้แต่วันเดียว
นายจตุพร กล่าวอีกว่า บทเรียน 30 ปีที่แล้วไม่มีใครจำ การที่ผศ.ดร.ปริญญาเสนอให้ทหารสัญญาว่าจะไม่รัฐประหาร ตนคิดว่า เจรจาให้เสือกินมังสวิรัติให้ได้ก่อน บอกให้ทหารไม่ปฏิวัติ รัฐธรรมนูญ 2560 เลวร้ายที่สุดยิ่งกว่าฉบับใดที่นายมีชัย ฤชุพันธ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญหลายฉบับเคยร่าง รัฐธรรมนูญนี้ ออกแบบไว้ฉีกเท่านั้น ออกแบบเพื่อ 3 ป.เท่านั้น คนอื่นไม่สามารถบริหารได้ หากคนไทยยังเป็นเช่นนี้ ไม่เรียนรู้ที่จะต่อสู้ ต่อต้านการรัฐประหาร ปัญหาของ ประเทศจะยิ่งใหญ่กว่าเดิม
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้ก่อตั้งกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า กล่าวถึงข้อเสนอ 4 ท. ที่จะช่วยปฏิรูปกองทัพ ไม่ให้เกิดการรัฐประหารอีก ว่า 1. ประชาชนต้องเท่าทันกองทัพ ทหารต้องอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือน 2. กองทัพต้องเท่าทันโลก มีความมืออาชีพมากขึ้น 3. อาชีพทหาร ต้องเท่าเทียมกับอาชีพอื่น 4. ทำให้ทหารมีสิทธิเสรีภาพเท่ากัน
