‘นายกฯ’ ย้ำ ครม.ไทยต้องเป็นกลาง ชี้ ‘อียู’ ไม่รู้ ปวศ.สัมพันธ์ ไทย-รัสเซีย ที่มีมาอย่างยาวนาน ด้าน ‘บิ๊กป้อม’ รีเควสต์เปิดวงถกพรรคร่วม ข้องใจ ‘ไพบูลย์’ อดนั่ง ปธ.กมธ.กม.ลูก ส่วน ‘เสี่ยหนู’ ปัดพัลวัน กดปุ่มสั่งชงชื่อ ‘สาธิต’ เบียด
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใช้เวลาหารือถึงเรื่องความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน นานที่สุด โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า ขณะนี้มีความกดดันจะให้ไทยเข้าข้างสหภาพยุโรป (อียู) แต่หากจะทำอะไรเราต้องคิดถึงประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับรัสเซีย ที่มีมาอย่างยาวนานด้วย โดยประเทศในอียูไม่รู้รายละเอียดความสัมพันธ์ที่เรามี เราจึงต้องคิดอย่างละเอียดและรอบคอบ
ด้านนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า อียู รุกไทยอย่างมาก ว่าให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งมีรัฐมนตรีหลายคนแสดงความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าว ซึ่งทำให้นายกฯ กล่าวสรุปว่า “เราต้องสุขุมและรอบคอบในการตัดสินใจ” และภาพรวมในการหารือ คือต้องการให้ไทยวางตัวเป็นกลาง และเร่งนำคนไทยในพื้นที่ดังกล่าวกลับมาโดยเร็ว
นอกจากนี้ในที่ประชุม ครม. ยังหารือถึงการฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างของไทย-ซาอุดีอาระเบีย ที่จะทำให้มีพัฒนาการด้านเศรษฐกิจระหว่างกัน ทั้งเรื่องการส่งออก การท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้ซาอุฯต้องการซื้อไข่ไก่จากประเทศไทยเป็นจำนวนมาก นายกฯ จึงมอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รีบตรวจสอบตัวเลขไข่ไก่ของประเทศไทยว่าขณะนี้มีปริมาณเท่าไหร่ บริโภคในประเทศเท่าไหร่ ส่งออกเท่าไหร่ และให้ดูด้วยว่าไทยจะสามารถเพิ่มผลผลิตเพื่อขายให้ซาอุฯ ได้หรือไม่ โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็ได้กล่าวขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เปิดทางด้านการค้าขาย ทำให้ความสัมพันธ์พัฒนาเป็นรูปธรรมมากขึ้น
รายงานแจ้งว่า หลังการประชุม ครม. เสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ได้หารือแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลวงเล็กในห้องรับรอง หรือห้องสีเหลือง โดยมีรัฐมนตรีเข้าร่วม ประกอบด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายจุรินทร์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรค พปชร. นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรักษาการเลขาธิการพรรค พปชร. และนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ส.ส.นครราชสีมา พรรค พปชร.
โดยใช้เวลาหารือกันนานประมาณ 15 นาที ซึ่งการหารือครั้งนี้เป็นความต้องการของ พล.อ.ประวิตร ที่ต้องการพูดคุยเกี่ยวกับการเลือกตั้งตำแหน่งต่างๆ ในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ. … และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่…) พ.ศ. … เพื่อสอบถามว่าเกิดข้อผิดพลาดอะไรอย่างไร ทำไมประธาน กมธ.ดังกล่าวจึงโหวตได้ชื่อนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ปชป. ทั้งที่พรรค พปชร. เสนอชื่อ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร.ไป ทำให้ทุกคนต่างช่วยกันหาเหตุผล ซึ่งหนึ่งในวงหารือระบุว่า ผู้เสนอชื่อนายสาธิต เป็นคนของพรรค ภท. ทำให้นายอนุทินชี้แจงขึ้นว่า “ไม่มีใครประสานใดๆ มาเลย ผมไม่รู้เรื่อง”
