“ชัยวัฒน์” ร้อง กมธ.ปปช. จี้ ก.พ.ค.เร่งพิจารณาคำอุทธรณ์ หลังเลยมา 299 วัน ปมถูกปลดไม่เป็นธรรม

“ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” ร้อง กมธ.ปปช. จี้ ก.พ.ค.เร่งพิจารณาคำอุทธรณ์ หลังเลยเวลามา 299 วัน ปมถูกปลดออกจากราชการไม่เป็นธรรม เจ้าตัว เตรียมยื่นศาลปกครองต่อไป ด้าน “เสรีพิศุทธ์” เผยจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 2 มีนาคม ที่รัฐสภา นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ยื่นหนังสือต่อพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) เพื่อติดตามการอุทธรณ์คำสั่งการทุเลาบังคับคดี กรณีที่นายชัยวัฒน์ถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ชี้มูลความผิดและคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) สั่งให้ปลดออกจากราชการโดยมิชอบ

โดยนายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ตั้งแต่ที่ตนยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการระบบพิทักษ์คุณธรรม (ก.พ.ค.) เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 และ ก.พ.ค. มีหนังสือ ที่ นร 0101.3.1.4/ล192 ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2564 แต่งตั้งคณะกรรมการวินิจฉัยพิจารณาอุทธรณ์ และตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ได้กำหนดให้ ก.พ.ค.พิจารณาคำอุทธรณ์ของผู้อุทธรณ์ให้แล้วเสร็จไม่เกิน 240 วัน แต่ขณะนี้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม 2564 จนถึง 2 มีนาคม 2565 เวลาล่วงเลยมาแล้วถึง 299 วัน ในขณะนี้ตนไม่ทราบและไม่เคยได้รับหนังสือตอบรับ จาก ก.พ.ค. เลย จึงมายื่น กมธ.ป.ป.ช. ช่วยติดตาม ซึ่งถ้าหาก ก.พ.ค. ไม่เห็นด้วยกับการอุทธรณ์ของตน ซึ่งตนจะได้นำหนังสือคำวินิจฉัยของ ก.พ.ค. ไปยื่นต่อ ศาลปกครองสูงสุดต่อไป

ด้านพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า สำหรับกรณีดังกล่าวตนได้ทำการสอบถามข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งขณะนี้กรอบการพิจารณาของ ก.พ.ค.เลยเวลาแล้ว ฉะนั้น จึงเป็นเรื่องที่จะต้องให้ความสำคัญ เพราะกรณีเช่นนี้หากมีกรอบระยะเวลาที่แน่นอนจะต้องทำให้เสร็จ หากไม่เสร็จการกระทำนี้จะมีความผิด และรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ โดยหลังจากนี้ตนจะรีบนำข้อเท็จจริงไปตรวจสอบและสนับสนุนการสอบสวนทุกวิถีทาง เพื่อให้เกิดความยุติธรรมที่สุด ทั้งนี้ สำหรับมีความคิดเห็นในทางกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ตนมองว่าก็จะต้องเป็นไปตามที่ศาลปกครองตัดสิน

เมื่อถามว่า กรณีนี้เกิดขึ้นพร้อมกับม.44 จะส่งผลกระทบกับการทำงาน กมธ.หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า คงไม่กระทบ และเราจะพยายามหาพยานหลักฐาน แต่ทั้งนี้เราเป็นฝ่ายนิติบัญญัติที่มีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหาร แต่ไม่มีอำนาจเหมือนฝ่ายบริหาร ซึ่งก็จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image