‘วิษณุ’ เผย รบ.ไม่จำเป็นต้องฝากประเด็น กับ ‘สาธิต’ โยนถาม ‘บิ๊กป้อม’ รบ.อยู่ครบเทอมหรือไม่

“วิษณุ” เผย รบ.ไม่จำเป็นต้องฝากประเด็น กับ “สาธิต” โยนถาม “บิ๊กป้อม” รบ.อยู่ครบเทอมหรือไม่ ย้ำ ปัญหาทางการเมืองถ้าไม่มีทางออกก็ออกทางเข้า ยังใช้ได้อยู่

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการสาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ กฎหมายลูก 2 ฉบับ ซึ่งเป็นตัวแทนของคณะรัฐมนตรี รัฐบาลจะฝากประเด็นอะไรไปพิจารณาหรือไม่ว่า ไม่มีและคณะรัฐมนตรีก็ไม่เคยให้นโยบายอะไรไปเพราะคณะกรรมาธิการแบ่งสัดส่วนเป็นโควต้าอยู่แล้ว

ซึ่งถ้ามีอะไรก็พูดคุยกับกรรมาธิการในสัดส่วนของรัฐบาลจำนวน 8 คนได้ และกฎหมายลูกทั้งสอง ไม่ใช่ของรัฐบาลโดยแท้ รัฐบาลทำหน้าที่เสนอแทนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด เมื่อดำเนินการเสร็จแล้วต้องมาถาม กกต. ถ้า กกต.ไม่เห็นชอบก็จะแนะนำรัฐสภาเป็นผู้แก้ไข ฉะนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องของ กกต. ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล และกฎหมายนี้ต้องทำงานแข่งกับเวลาให้เสร็จภายใน 180 วัน ถ้าไม่เสร็จก็ต้องเห็นชอบตามร่างที่เสนอ ต่างจากกฎหมายอื่นที่จะทำ 2 ปีก็ไม่มีใครว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว นายวิษณุนิ่งไปช่วงหนึ่ง ก่อนกล่าวว่า “ที่นิ่งไม่ได้คิดหนัก หรือเป็นคำถามที่ตอบยากอะไร มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะถาม คือได้ ถ้าคุณจะไปแก้รัฐธรรมนูญแต่แก้ได้หรือไม่นั้นตนไม่รู้ แล้วจะไปแก้ทำไม เพิ่งแก้มาหมาดๆ ถ้าจะแก้ แก้เรื่องอื่นที่มีความสำคัญกว่า”

เมื่อถามว่าการที่พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แต่มีคนเสนอชื่อนายสาธิตไปแข่ง ถือว่าเป็นความขัดแย้งหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ถึงขนาดนั้น แต่ไม่ปฏิเสธทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ ที่จริงน่าจะมีการพูดกันมาก่อนแต่ทราบว่าเรื่องนี้ไม่มีการพูดกันมาก่อน พรรคร่วมรัฐบาลไม่มีใครรู้ว่าจะให้ใครเป็นประธานกรรมาธิการ เรื่องนี้ผิดปกติมาตั้งแต่ต้น เดิมทีนายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นเจ้าของร่างเป็นผู้พูดสรุปในรัฐสภา แต่ไม่มีชื่อนายวิเชียรเป็นกรรมาธิการ แปลว่ายังไม่พูดจาอะไรกันที่ชัดเจน

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าเอกภาพของรัฐบาลในสภามีปัญหาใช่หรือไม่ เพราะเรื่องใหญ่ขนาดนี้ไม่ตกลงกันให้ชัดเจน นายวิษณุกล่าวว่า ก็แล้วแต่จะคิด ตนประเมินเรื่องนี้แต่ไม่ขอออกความเห็นทางสาธารณะ เมื่อถามว่าเช่นนี้แล้วงานสภาต้องปรับปรุงหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า​ “ต้อง” เมื่อถามย้ำว่า คำว่า “ต้อง” ที่ว่าหมายถึงอะไร นายวิษณุกล่าวว่า แค่นี้พอแล้ว เพราะสื่อก็พาดหัวไป 7 วันแล้ว เมื่อถามว่าแสดงความคิดเห็นออกไปแล้วคิดว่าเขาจะทำตามหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ได้บอกกับเขาว่าให้ทำอะไร เมื่อสื่อถามมาว่าต้องปรับปรุงหรือไม่ ก็ตอบสื่อว่าต้อง ส่วนเขาจะทำตามหรือไม่ คิดว่าเขาคงไม่ได้ยินตนพูด ก็ให้รออ่านจากสื่อที่นำเสนอ

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกมาพูดเรื่องความไม่ชัดเจนในการตั้งประธานกรรมาธิการจะกระทบต่อเสถียรของรัฐบาลและนายกฯด้วยหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ก็ห่วงใยในฐานะส่วนหนึ่งของรัฐบาล แต่ก็มีคนอื่นที่ห่วงใยเขาก็คงทำงานของเขาไป และเรื่องนี้ตนไม่ได้หยิบยกไปคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ นายกฯเคยหารือเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาลด้วยหรือไม่ หากเกิดอุบัติเหตุกฎหมายลูกไม่ผ่านจะดำเนินการอย่างไร นายวิษณุกล่าวว่า รัฐบาลไม่เคยคุยเรื่องนี้อย่างจริงจังแค่คุยธรรมดาเป็นการปรารภ ไม่ใช่คำปรึกษาไม่มีข้อยุติอะไร และยืนยันไม่กังวลเรื่องอุบัติเหตุและพรรคร่วมรัฐบาลเข้าใจการพิจารณากฎหมายเป็นอย่างดี และถ้าเกิดอุบัติเหตุมันก็จะมีทางออก

Advertisement

เมื่อถามว่าเชื่อว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอมหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ขอตอบให้ไปถามอยู่ในแวดวงเรื่องนี้เช่น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะดีกว่า ท่านคงจะอ่านอะไรได้ขาดกว่าตน

“และผมย้ำคำพูดเดิมว่าปัญหาทางการเมืองถ้าไม่มีทางออกก็ออกทางเข้า ก็ยังใช้ได้อยู่คือถอยกลับไป ประตูเดียวกันคุณคิดว่าเป็นทางออก แต่บางทีก็เป็นทางเข้า” นายวิษณุกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image