‘ส.ว.บุญธรรม’ ยันไม่เกี่ยวคดีลูกน้องถูกตำรวจจับข้อหายาเสพติด เครือข่ายคิงส์ นนทบุรี ชี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล เผยสติ๊กเกอร์ติดรถเข้าสภาเป็นของเก่า ของใหม่ไม่มีชื่อ ‘วรวัฒน์’
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พล.อ.บุญธรรม โอริส สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายวรวัฒน์ วังศพ่าห์ ผู้ชำนาญการประจำตัว ส.ว. เนื่องจากเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาแก๊งยาเสพติด เครือข่ายคิงส์ นนทบุรี ว่าได้ยินข่าวรู้สึกตกใจ เนื่องจากนายวรวัฒน์เป็นคนเก่งมาก ไม่เคยบกพร่องเรื่องงาน โดยเฉพาะงานด้านกฎหมาย และเป็นคนเรียบร้อย นิ่งเฉย ไม่มีพฤติกรรมใดที่จะบ่งบอกว่าเป็นมาเฟีย หรือผู้มีอิทธิพล และไม่ใช่คนสายเปย์
พล.อ.บุญธรรมกล่าวว่า ตนรู้จักกับนายวรวัฒน์ได้ เพราะมีเพื่อนแนะนำให้รู้จักสมัยที่ได้รับตำแหน่ง ส.ว.ใหม่ๆ จึงให้นำมาทำงานด้วย เนื่องจากมีความชำนาญด้านกฎหมาย และมีทีมกฎหมาย และก่อนที่นายวรวัฒน์จะเข้ามาทำหน้าที่ผู้ชำนาญการประจำตัว ส.ว. ทางเจ้าหน้าที่สภาก็ได้มีการตรวจสอบประวัติก่อน ซึ่งไม่พบว่ามีเรื่องคดีความ ไม่เคยติดคุก และไม่มีความเกี่ยวพันเรื่องยาเสพติด ตนก็ยังรู้สึกงง และสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไร
พล.อ.บุญธรรมกล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา นายวรวัฒน์ได้โทรศัพท์มาหาตนแล้วแจ้งว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม จึงได้สอบถามสาเหตุ ซึ่งนายวรวัฒน์ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตนได้เน้นย้ำทุกครั้งว่าเรื่องยาเสพติดและการค้าของเถื่อนเป็นเรื่องที่ตนเกลียดที่สุด ดังนั้น เรื่องคดีความดังกล่าวตนไม่ขอไปยุ่งเกี่ยวด้วย หากนายวรวัฒน์มั่นใจในความบริสุทธิ์ก็ขอให้ไปต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม แต่เบื้องต้นตนได้สั่งปลดนายวรวัฒน์ออกจากตำแหน่งผู้ชำนาญการประจำตัว ส.ว.แล้ว
พล.อ.บุญธรรมกล่าวต่อว่า ส่วนใหญ่ตนพูดคุยกับนายวรวัฒน์ก็เฉพาะเรื่องงาน แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดมา 2 ปี ก็เป็นการประชุมงานร่วมกันผ่านทางออนไลน์เท่านั้น นายวรวัฒน์ไม่ได้เดินทางเข้ามาที่สภา ส่วนเรื่องสติ๊กเกอร์ติดรถเข้า-ออกอาคารรัฐสภาที่ติดหน้ารถนายวรวัฒน์นั้น คาดว่าน่าจะเป็นของเก่า ไม่ใช่ของใหม่ เพราะ ส.ว. 1 คน จะได้โควต้าทำสติ๊กเกอร์ติดรถ จำนวน 4 คัน ซึ่งปัจจุบันที่ทำให้ไม่มีชื่อของนายวรวัฒน์
“เรื่องนี้เป็นความผิดส่วนบุคคล เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ควรเชื่อมโยงกับสภา เพื่อให้เกิดความเสียหาย และเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผม เพราะผมไม่ได้เป็นผู้ร่วมขบวนการกับนายวรวัฒน์ ซึ่งตำรวจก็บอกแล้ว เพียงแต่เขามาทำงานในคณะทำงานของผม ที่ผ่านมาเขาไม่ได้เข้าสภา จึงไม่ค่อยได้เจอกัน เรามีสัมพันธ์กันเฉพาะเรื่องงานเท่านั้น” พล.อ.บุญธรรมกล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
