เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผ่านช่องยูทูบ ‘สภาที่ 3’ ถึงความเคลื่อนไหวของคนรุ่นใหม่ที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยในตอนหนึ่งว่า รัฐบาลต้องมองถึงอนาคต คนแก่ต้องรู้ว่าเวลาของเรามันหมดไปแล้ว อย่างรุ่นของตนต้องอยู่ข้างนอกเวที คนที่จะบริหารประเทศต้องเป็นคนรุ่นใหม่ซึ่งจะมีอายุเท่าไหร่ก็ตาม แต่จะต้องเป็นคนที่มีความคิดใหม่ๆ จะนำความคิดเก่าๆ มาใช้ไม่ได้แล้ว
“อย่างผมมีทั้งลูกมีทั้งหลานและมีทั้งเหลน ลูกของเราก็สอนอย่างหนึ่ง คือมีความเห็นอย่างหนึ่ง หลานอีกอย่างหนึ่ง ส่วนเหลนผม 3 ขวบสามารถพูดโต้กับคุณทวดได้แล้ว เขามีวิธีคิดของเขาโอเคมากเนื่องจาก เขาเป็นเหลนเราจะทำอะไร อาจจะเป็นสิ่งที่น่ารักน่าดูตลอดไป แต่ถ้าเราบอกว่าเด็กคนนี้ทำอะไรขวาง ไปขวางเขาก็ไม่ได้” นายอานันท์กล่าว
ต่อคำถามเรื่องการผลักดันแก้ไขมาตรา 112 นายอานันท์กล่าวว่า ต้องหาทางประนีประนอมกัน คือต้องคุยกัน ส่วนตัวไม่มีปัญหาที่จะมีมาตรา 112 แต่อาจต้องมีการปรับปรุงบางอย่าง ต้องมีการระบุให้ชัดว่าใครเป็นคนที่จะสั่งให้สอบสวนสั่งให้ดำเนินคดีขึ้นสู่ศาลได้ อาจจะเป็นนายกรัฐมนตรี หรือเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
“ผมไม่คิดว่าโดยทั่วไปต่างประเทศหรือหลายประเทศที่เขายังมีกฎหมายข้อนี้ใช้อยู่ เขาไม่ถือว่ามันเป็นอาชญากรรม แต่ส่วนมากเขาจะฟ้องในเรื่องทางแพ่ง หรือบางประเทศมีแล้วเขาไม่นำมาใช้เลย แต่ประเทศที่ยังนำมาใช้อยู่ ก็พยายามทำให้โทษเบาลงไป” นายอานันท์กล่าว
เมื่อมีการถามถึงกรณีเสียงเรียกร้องให้นายกฯลาออก แต่ พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังอยู่มาได้ สะท้อนอะไร ?
นายอานันท์กล่าวพร้อมหัวเราะว่า เรื่องนี้ต้องไปถามนายกฯประยุทธ์เอง
“ในต่างประเทศ เขาลาออกกันง่ายๆ มีเรื่องอะไรที่บางครั้งไม่ใช่เรื่องที่พิสูจน์ได้ด้วยซ้ำ ในฐานะนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีถ้ามีการกล่าวหาหรือเรียกร้องว่า มีการเกิดความสงสัยอย่างมาก เรื่องของบุคลิกของตัวเองหรือนโยบาย มันก็อยู่ที่ผู้นั้นจะใช้วิจารณญาณ ในต่างประเทศส่วนใหญ่ก็จะมีการลาออก” นายอานันท์กล่าว
