‘ยุทธพงศ์’ แจงปมเรือดำน้ำไม่มีเครื่องยนต์ ถาม ‘พระรามตู่อยู่ไหน’ จะรับผิดชอบอย่างไร 

‘ยุทธพงศ์’ แจงปมเรือดำน้ำไม่มีเครื่องยนต์ ถาม ‘พระรามตู่อยู่ไหน’ จะรับผิดชอบอย่างไร 

เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงข่าวเรื่องเรือดำน้ำที่กองทัพเรือทำการจัดซื้อจากประเทศจีน ว่าเรือดำน้ำที่ซื้อมาจากประเทศจีนขณะนี้อยู่ระหว่างการต่อเรือดำน้ำลำที่ 1 โดยปัญหาคือไม่มีเครื่องยนต์สำหรับเรือดำน้ำ ทางโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีทั้งหมด 3 ลำ ลำที่ 1 มูลค่า 12,424 ล้านบาท อยู่ระหว่างการต่อเรือ สัญญาเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2560 และจะต้องส่งมอบให้กับกองทัพเรือไทยในเดือนกันยายน 2566 ส่วนลำที่ 2 และ 3 มีการผ่านของบประมาณโดยกองทัพเรือของบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีก 22,500 ล้านบาท

แต่ทางพรรคเพื่อไทยได้มีการคัดค้านเรื่องนี้ เมื่อสองปีที่แล้วที่ตนคัดค้านทางกองทัพก็ออกมาตอบโต้ว่ามีความจำเป็นในการจัดซื้อเรือดำน้ำ และมีประโยชน์ทางทะเล และในสมัย พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับตน แต่ตนก็ไม่ได้หวั่นไหวเพราะเอาความจริงมาฟ้องกับพี่น้องประชาชน ยืนยันว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำมีความไม่โปร่งใส

“เรือดำน้ำที่มีปัญหาเรียกว่ารุ่น S26T YUAN Class ซึ่งรุ่นนี้มีระบบที่เรียกว่า AIP ซึ่งจีนพัฒนาขึ้นมา และต้องเรียนว่าประเทศจีนเองยังไม่เคยผลิตเรือดำน้ำเองได้ เรือที่มีอยู่ก็ซื้อมือสองจากรัสเซียมา และเรือดำน้ำรุ่นนี้เป็นครั้งแรกที่ประเทศจีนผลิตเรือดำน้ำซึ่งไม่ได้ผลิตให้กองทัพเรือจีน แต่ผลิตเพื่อขายให้กับกองทัพเรือไทย วันนี้ผมจะออกมาเปิดเผยว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร” นายยุทธพงศ์กล่าว

นายยุทธพงศ์กล่าวต่อว่า สถานทูตเยอรมันได้แถลงเกี่ยวกับเครื่องยนต์ MTU สำหรับเรือดำน้ำรุ่น S26T ของกองทัพเรือไทย โดยผู้ช่วยทูตทหารของเยอรมันประจำประเทศไทยได้ออกมาแถลงการณ์เกี่ยวกับการที่รัฐบาลเยอรมันไม่ออกใบอนุญาต หรือใบอนุญาตในการส่งออกเครื่องยนต์ MTU ซึ่งจะต้องติดตั้งให้กับเรือดำน้ำรุ่น S26T ซึ่งขณะนี้กำลังต่อเรืออยู่ที่ประเทศจีน โดยบอกว่ารัฐบาลจีนไม่ได้มีการติดต่อกับทางรัฐบาลเยอรมันมาก่อนเลย ก่อนที่จะมีการเซ็นสัญญาซื้อขายเรือดำน้ำลำที่ 1 รัฐบาลเยอรมันไม่เคยได้รับการติดต่อจากประเทศจีนเพื่อซื้อเครื่องยนต์ MTU สำหรับติดตั้งเรือดำน้ำที่ขายให้กับประเทศไทย แบบนี้เรียกว่าไม่รอบคอบหรือไม่ รัฐบาลจีนบอกว่าการซื้อขายครั้งนี้เป็นแบบรัฐต่อรัฐ แล้วการที่ทำแบบนี้หมายถึงอะไร เสียความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือไม่ ปัญหาที่รัฐบาลจีนกำลังประสบอยู่ขณะนี้คือบริษัท China Shipbuilding and Offshore International Company (CSOC) พยายามที่จะต้องซื้อเครื่องยนต์ MTU สำหรับเรือดำน้ำรุ่น S26T ซึ่งกำลังต่ออยู่ที่เมืองอู่ฮั่น อีกด้านหนึ่งเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน รัฐบาลจีนจึงเสนอว่าจะให้เรือดำน้ำมือสอง จำนวน 2 ลำ บริจาคให้ไทย ซึ่งเรือดำน้ำมีอายุ 50 ปีแล้ว เนื่องจากรัฐบาลเยอรมันปฏิเสธที่จะขายเครื่องยนต์ให้

Advertisement

โดยเรือดำน้ำลำที่ 1 เดิมที่มีการเซ็นสัญญาไว้จะต้องส่งมอบให้กับทางกองทัพเรือไทยในเดือนกันยายน 2566 แต่ขณะนี้ได้ถูกเลื่อนการส่งมอบไปจนถึงเดือนเมษายน 2567 และในเว็บไซต์เกี่ยวกับเรื่องการทหารระดับโลกได้บอกว่าเรือดำน้ำทั้งหมดที่ซื้อจากประเทศจีน ซึ่งประเทศไทยไม่ได้มีเรือดำน้ำมายาวนาน ผู้ที่ให้กำเนิดเรือดำน้ำคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรายงานข่าวยังบอกอีกว่า พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ยืนยันว่าได้รับการติดต่อจากประเทศจีนในการบริจาคเรือดำน้ำเก่า จำนวน 2 ลำ มาให้กองทัพเรือไทย เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2558 กองทัพเรือได้เลือกซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีน 3 ลำ โดย พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าเรือดำน้ำจีนดี ซื้อ 2 แถม 1 แต่สุดท้ายทำไมกลายเป็นจ่ายเงินทั้ง 3 ลำ และไม่มีเครื่องยนต์

“พระรามตู่อยู่ไหน รับผิดชอบอย่างไร และคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างของกองทัพเรือก็ได้โหวตเป็นเอกฉันท์ ผู้ที่เป็นประธานในการจัดหาเรือดำน้ำในขณะนั้นคือ พล.ร.อ.ลือชัย ทำไมจึงไปเลือกเรือดำน้ำที่ไม่มีเครื่องยนต์ แล้วคุณจะรับผิดชอบอย่างไร และขณะเดียวกันเขายังบอกว่า วันที่ 1 กรกฎาคม 2559 กองทัพเรือได้ทำเรื่องของบประมาณผ่าน ครม.จำนวน 36,000 ล้านบาท ในการซื้อเรือดำน้ำ 3 ลำ แต่แบ่งจ่ายทั้งหมด 11 ปี เนื่องจากเป็นจำนวนเงินที่มาก แสดงให้เห็นถึงความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อ”

นายยุทธพงศ์กล่าวว่า เรือดำน้ำรุ่นที่ไทยซื้อคือรุ่น 039A เป็นเรือดำน้ำที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลและจีนผลิตเป็นครั้งแรกแบบที่มีระบบ AIP คือมีไว้สำหรับให้เรือดำน้ำดำอยู่ใต้ทะเลได้นานหลายวัน ขณะเดียวกันก็บอกด้วยว่าระบบ AIP พัฒนาโดยสถาบัน 711 ของ CSOC และในขณะเดียวกันตนยืนยันว่าคนที่จะต้องรับผิดชอบเรื่องนี้คือ พล.อ.ประวิตร บิดาแห่งเรือดำน้ำไทย

Advertisement

“เรื่องที่สองเรื่องการแพร่ระบาดของโควิดในวันนี้มีผู้เสียชีวิตนิวไฮ 59 คน ผู้เสียชีวิตนิวไฮทุกวัน แล้วที่บอกว่าโควิดกระจอกมันกระจอกตรงไหน วันนี้มียอดผู้ป่วยที่ตรวจผ่าน RT-PCR 21,881 ราย ตรวจผ่าน ATK 31,407 ราย และรัฐบาลจะประกาศว่าโควิดเป็นโรคประจำถิ่นเดือนกรกฎาคม ปี 2565 จะเป็นไปได้อย่างไร วันนี้มีผู้ป่วยและหายแล้วในประเทศไทย 3 ล้านคน ตั้งแต่ประเทศไทยเกิดการแพร่ระบาดของโควิดเดือนมีนาคม 2563 มีผู้เสียชีวิต 23,176 คน” นายยุทธพงศ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image