‘พีระพันธุ์’ โพสต์ยินดี ‘นิติกรยิ้ม’ ผู้ปิดทองหลังพระ ‘คดีโฮปเวลล์’ ได้รับการเลื่อนระดับ

“พีระพันธุ์” โพสต์ยินดี “นิติกรยิ้ม” ผู้ปิดทองหลังพระ คดีโฮปเวลล์” และเพื่อนได้รับการเลื่อนระดับ เผย มีเบื้องหลังอีกมากช่วยให้การต่อสู้ทางกฎหมายสำเร็จ ชี้ คนดีนี้ยังมีในประเทศไทยและในโลกใบนี้จริงๆ

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานศึกษาปัญหาสัญญาโฮปเวลล์ในคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้เขียนเรื่อง ปิดทองหลังพระ แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เรื่อง คนดีที่ยังมีในประเทศไทยและในโลก  ระบุว่า

วันก่อนผมเขียนชื่นชม “ยิ้ม” (นายสุทธิรักษ์ ยิ้มยัง) พนักงานนิติกร การรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้ “ปิดทองหลังพระ” ในคดีค่าโง่โฮปเวลล์ ที่เป็นผู้ช่วยคนสำคัญให้ผมทำงานแก้ไขปัญหาคดีค่าโง่โฮปเวลล์ให้พี่น้องชาวไทยจนสำเร็จ จนมีผู้คนชื่นชมและชมเชยยิ้มกันอย่างมากมายแบบที่ผมไม่คาดคิดมาก่อน

เมื่อวานผมได้ข่าวว่ายิ้มได้รับการเลื่อนระดับ ผมจึงโทรศัพท์ไปแสดงความยินดี ทำให้ได้พูดคุยเรื่องส่วนตัวกันเป็นครั้งแรกในรอบกว่าสองปี

Advertisement

ผมจึงได้ทราบจากยิ้มว่ายังมีทีมงานที่การรถไฟที่ผมไม่เคยพบมาก่อน “เสียสละและทุ่มเท” กันอย่างเงียบๆ มาเป็นปีแล้วโดยไม่เคยบ่นไม่เคยเรียกร้องใดๆ

ไล่เรียงมาตั้งแต่เพื่อนที่มาช่วยขับรถรับส่งยิ้มที่ผมได้เล่าไปแล้ว ซึ่งต่อมากลายสภาพเป็นคนวิ่งเตรียมเอกสารและส่งเอกสารคำร้องต่างๆ ต่อศาลและทุกหน่วยราชการให้ทันเวลาด้วย ชื่อ สุขี ผ่องอำไพ ซึ่งได้รับการเลื่อนระดับพร้อมกับยิ้มด้วย และยังมีน้องๆ ที่มาช่วยยิ้มอีกหลายคน ไม่ว่าจะเป็น “พู่” “พลอย” “บาส” และลูกจ้างเฉพาะงานอีกหลายคน

คนเหล่านี้ทุ่มเทและเสียสละเวลาส่วนตัว และประโยชน์ที่พึงได้รับจากการทำงานนอกเวลาและทำงานในวันหยุดเสาร์อาทิตย์มาเป็นปี เพียงเพราะกลัวว่าจะค้นเอกสารและเตรียมข้อมูลให้ผมไม่ทันเนื่องจากทุกอย่างมีกำหนดเวลาตามกฎหมาย แต่ยิ้มและคนเหล่านี้ไม่เคยบ่น ไม่เคยปริปากแพร่งพรายเรื่องนี้ให้ผมทราบมาก่อน

Advertisement

ผมถามยิ้มว่าการรถไฟจ่ายค่าล่วงเวลาอย่างไร ยิ้มบอกว่าไม่ทราบ

อ้าว! ทำไมไม่ทราบ

คำตอบที่คาดไม่ถึง คือ เพราะยิ้มไม่เคยใช้สิทธิเบิกเงินค่าทำงานล่วงเวลาและค่าทำงานในวันหยุดในคดีนี้เลย

และเมื่อยิ้มซึ่งเป็นหัวหน้าไม่ใช้สิทธิเบิกแล้ว น้องๆ ที่มาช่วยทำงานก็ไม่มีใครกล้าใช้สิทธิเบิกตามไปด้วย เลยไม่รู้ว่าจะได้ค่าตอบแทนนี้เท่าไหร่

คนเหล่านี้มีเพียงเงินเดือนกันคนละเล็กคนละน้อย ยังต้องนั่งรถเมล์ ยังต้องดูแลพ่อแม่และครอบครัว แต่พวกเขา “เสียสละและทุ่มเท” กับการเตรียมข้อมูลเตรียมเอกสารต่อสู้กับผู้ที่จ้องจะตะครุบเงินแผ่นดินเป็นหมื่นๆ ล้าน โดยไม่คิดถึงผลตอบแทนของตัวเองเลยแม้แต่น้อยนิด ซึ่งตามปกติน่าจะมีอยู่เพียงในนิทาน หรือในภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นมาเท่านั้น

ผมขอคารวะจิตใจที่ยิ่งใหญ่ของพนักงานและลูกจ้างการรถไฟตัวเล็กๆ ชุดนี้ด้วยใจจริง และผมเชื่อว่ายังมีคนแบบยิ้มและน้องๆ เหล่านี้ในการรถไฟและในหน่วยงานอื่นอีกมาก ผมขอให้กำลังใจและอย่าท้อถอยกับการทำความดีให้ชาติบ้านเมือง

เล่าต่ออีกนิด ขณะที่ผมคุยกับยิ้มเป็นวันอาทิตย์ เมื่อเปิดงานมาต้องรีบทำคำของดการบังคับคดียื่นต่อศาลปกครองและต้องทำรายงานเสนอคณะรัฐมนตรีให้ทราบเรื่องตามระเบียบซึ่งจะต้องนำไปให้ท่านรัฐมนตรีศักดิ์สยามลงนามทั้งสองเรื่องโดยเร็ว ก่อนวางโทรศัพท์ผมจึงเตือนยิ้มให้รีบทำหนังสือทั้งสองเรื่องนี้ให้ท่านรัฐมนตรีลงนาม ยิ้มตอบว่าทำเสร็จเรียบร้อยแล้วและได้ส่งมาให้ผมตรวจทานทางอีเมล์แล้วด้วย

เห็นไหมครับว่าทำไมผมถึงสามารถทำทุกอย่างในคดีนี้ได้ทันตามกำหนดเวลา

ในคดีค่าโง่โฮปเวลล์นี้ นอกจากยิ้มและน้องๆ ที่การรถไฟแล้ว ผู้ที่เกี่ยวข้องจากหลายหน่วยงาน ทุกลำดับชั้น ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ผู้ว่าการฯการรถไฟ คณะทำงานของกระทรวงคมนาคม อัยการ คณะทำงานศึกษาคดีโฮปเวลล์ของสภาผู้แทนราษฎร คณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ผู้ตรวจการแผ่นดิน ทนายนกเขา นิติธร ล้ำเหลือ คุณหมอระวี มาศฉมาดล ต่างผนึกกำลังเพื่อสร้างบรรทัดฐานรักษาความถูกต้องเป็นธรรมให้แก่บ้านเมืองของเรา มากมายจนไม่สามารถกล่าวขอบคุณได้หมด

ยังมีผู้ “ปิดทองใต้ฐานพระ” อีกหลายท่านที่ทุ่มเทไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันแต่ไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัว ขอเพียงสุขใจที่ได้ทำเพื่อบ้านเมืองเท่านั้น ผมต้องขอกราบขอบพระคุณทุกๆ ท่านมา ณ ที่นี้

คนดีนี้ยังมีในประเทศไทยและในโลกใบนี้จริงๆ

มารวบรวมคนดี คนที่รักชาติ รักแผ่นดิน มาร่วมทำงานให้ชาติบ้านเมืองกันเถอะครับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image