ยังไม่มีความแน่นอนใน”ผล”การเลือกตั้ง “ประธานาธิบดี”สหรัฐอ เมริกา
ว่าจะเป็น ฮิลลารี คลินตัน
หรือว่าจะเป็น โดนัลด์ ทรัมพ์
แม้ “แนวโน้ม”ในขณะนี้ดูเหมือนกับว่า โดนัลด์ ทรัพม์ จะตกเป็น “รอง”
แต่สรุปตามสำนวน พระอาจารย์ชา สุภัทโท ก็ต้อง
“ไม่แน่”
คำว่า “ไม่แน่” ซึ่งออกจากปาก พระอาจารย์ชา สุภัทโท มิใช่ท่านคิดเองเออเอง
แต่นำมาจาก “พุทธวัจนะ”
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า หลักพื้นฐาน 1 แห่งพุทธธรรมอันสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ารับสั่งตั้งแต่ปฐมเทศนา ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน คือ
“อนิจจัง” ไม่เที่ยงแท้ ไม่แน่นอน
เป็น “ความจริง” ที่นับแต่ต้นเดือนตุลาคมเป็นต้นมา “คะแนนเสียง” ของ โดนัลด์ ทรัมพ์ ดำเนินไปอย่างที่ภาษาปากบอกว่า
“รูด” มหาราด
รูปธรรม 1 เห็นได้จากผล”โพล” ไม่ว่าจะในลักษณะทั่วไป หรือที่วัดจาก “ดีเบต”
2 ครั้งที่ผ่านมา ฮิลลารี คลินตัน นำ
2 ครั้งที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมพ์ คลานต้วมเตี้ยม ต้วมเตี้ยม ยิ่งกว่า “เต่า”
ด้านหลัก ก็มาจากกระบวนการ”ดีเบต”
ในฐานะนักการเมือง”อาชีพ” ฮิลลารี คลินตัน กุมอารมณ์และตอบโต้ได้ดีกว่า
ขณะที่ โดนัลด์ ทรัมพ์ “หลุด”บ่อย-บ่อย
แต่สภาพที่ทำให้ “คะแนนเสียง”ของ โดนัลด์ ทรัมพ์ ทรุดเสื่อมและร่อแร่เป็นลำดับมาจาก”ปฏิกิริยา”ภายใน
จาก”ขาใหญ่”ภายใน”พรรค”
กระนั้น ไม่ว่าชะตากรรมของ ฮิลลารี คลินตัน ไม่ว่าชะตากรรมของ โดนัลด์ ทรัมพ์ ก็ดำเนินไปอย่างเดียวกัน
นั่นก็คือ “ไม่แน่”
ที่ว่าไม่แน่เพราะว่า “จุดเด่น” ของ โดนัลด์ ทรัมพ์ คือการเป็น คนหน้าใหม่ มิได้เป็นพวก”หน้าเก่า”
ชาวบ้านเริ่มเบื่อนักการเมืองหน้า”เดิม-เดิม”
ที่ว่าไม่แน่เพราะว่า เมื่อ”ภายใน”พรรครีพับลิกันเริ่ม”ต่อต้าน”โดนัล ทรัมพ์ หมายถึงคะแนนเพื้อนฐานจะเทมาทาง ฮิลลารี คลินตัน มากขึ้น
และที่ว่าไม่แน่เพราะทุกอย่างเป็น “การเลือกตั้ง”
การเลือกตั้งทำให้ “คะแนนเสียง”ของประชาชนมี”บทบาท”และทรง”ความหมาย”
“อำนาจ” อธิปไตยเป็นของ”ประชาชน”