‘สมชาย’ ไม่รู้เหตุ ‘ไพบูลย์’ ลาประชุม กมธ.แก้ กม.ลูก เผย เจ้าตัวโชว์สปิริตถอนตัวไม่เป็นรอง ปธ.คนที่ 1 เอง

“สมชาย” ไม่รู้เหตุ “ไพบูลย์” ลาประชุม กมธ.แก้ กม.ลูก เผย เจ้าตัวโชว์สปิริตถอนตัวไม่เป็นรอง ปธ.คนที่ 1 เอง เชื่อ บรรยากาศถกแก้ พ.ร.บ. 2 ฉบับไร้ปัญหา ชี้ แปรญัตติครอบงำพรรค-ยุบพรรคไม่ได้ เหตุขัดหลักการ

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ที่รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุม กมธ.นัดแรก ว่า มีการพูดคุยกันเรื่องไทม์ไลน์และวันประชุม มีการคุยกันว่าถ้าพิจารณาเสร็จได้ก่อนเปิดสมัยประชุมหน้า เบื้องต้นมีสมาชิก กมธ.เสนอให้เสร็จสิ้นภายในเดือนเมษายน ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนเวลาประชุมจาก 10.30 น. เป็น 09.30 น.ทุกวันพุธ ส่วนวันพฤหัสบดีจะมีการประชุม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งมีความง่ายกว่า คาดว่าน่าจะเสร็จเร็ว ก็จะนำเวลาที่เหลือมาทดให้กับการประชุม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งคาดว่าภายในเดือนมีนาคมก็น่าจะเห็นสถานการณ์ชัดเจนแล้วว่าช้าหรือเร็ว อย่างไรก็ตาม กมธ.มีระยะเวลา 180 วัน แต่ ส.ส.ทุกคนก็อยากให้เสร็จก่อนเปิดสมัยประชุมหน้า

นายสมชายกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยกันเรื่องกรอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งมีทั้งหมด 4 ร่าง ต้องใช่ร่างรัฐบาลเป็นหลัก ส่วนร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองจะใช้ร่างของนายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นหลัก และยังมีการคุยกันว่าร่างที่ถูกตีตกไปแล้ว ต้องถือว่าสภาไม่รับ จะมาแปรญัตติเข้าไปไม่ได้ เว้นแต่ว่ามีเนื้อหาสาระที่เกี่ยวเนื่องบางประการก็อาจจะได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องหลักการสำคัญ เช่น มาตรา 28-29 เรื่องการครอบงำพรรคการเมืองน่าจะไม่ได้ หรือแม้แต่เรื่องการยุบพรรค ถ้าเสนอมาก็อาจจะขัดหลักการ ซึ่งที่ประชุมให้ช่วยกันพิจารณา จะเห็นด้วยหรือเห็นต่างก็ไม่เป็นไร เพราะสภาจะเป็นคนตัดสิน ที่สำคัญคือให้เดินไปโดยไม่สะดุดและไม่ขัดรัฐธรรมนูญในภายหน้า

เมื่อถามว่า เรื่องที่หลายคนกังวลว่าจะขัดรัฐธรรมนูญ คือเรื่องหมายเลขบัตรเลือกตั้ง นายสมชายกล่าวว่า ประเด็นหลักคือเรื่องบัตร 2 ใบ หมายเลขเดียวกัน หรือคนละหมายเลขยังมีความเห็นต่างอยู่ ซึ่งก็ไม่เป็นไร ฝ่ายไหนชนะใน กมธ. อีกฝ่ายหนึ่งก็สงวนความเห็นเป็นปกติ ซึ่งคงจะต้องมีการโหวต โดยตนได้เรียนนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะประธาน กมธ.แล้วว่าการจะนัดโหวตแต่ละครั้งจะต้องให้สมาชิกรับทราบล่วงหน้า เพื่อให้ กมธ. 49 คน ได้มาพร้อมหน้าพร้อมตา ส่วนจะโหวต หรือสงวนความเห็นอย่างไรทำได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่ต้องนัดหมายให้ชัดเจน ส่วนเรื่องวิธีการคำนวน จะใช้ 500 หรือ 100 หาร ก็ยังคุยกันไม่ลงตัว เพราะวันนี้เพิ่งเริ่มต้นพิจารณา

เมื่อถามว่า วันนี้นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค พปชร. ในฐานะ กมธ.ไม่มาประชุมจะมีปัญหาอะไรหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าลาเพราะสาเหตุใด โดยวันที่ประชุมหลังจากที่มีการโหวตให้นายสาธิตเป็นประธานแล้ว ตนเป็นคนเสนอให้นายไพบูลย์เป็นรองประธานคนที่ 1 จะได้ถือว่าทำงานด้วยกันต่อได้ แต่บังเอิญ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เสนอนายสามารถ แก้วมีชัย อดีตรองประธานสภาฯ สัดส่วนพรรค พท.มาแข่ง นายไพบูลย์ก็มีสปิริตจึงถอนตัว และให้รองประธานคนที่ 1 เป็นนายมหรรณพ เดชวิทักษ์ ส.ว. โดยสลับกันระหว่างฝ่ายรัฐบาล ส.ว. และฝ่ายค้าน ซึ่งบรรยากาศการประชุมวันนี้เป็นไปด้วยความราบรื่น และคิดว่าคงไม่มีปัญหา และคาดว่าพรุ่งนี้นายไพบูลย์จะเข้าร่วมประชุมตามปกติ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image