‘เพื่อไทย’ ห่วงราคาน้ำมันพุ่ง แถม ‘ประยุทธ์’ บริหารไม่เป็น ศก.ทรุดหนัก แนะฟื้นรถเมล์-รถไฟฟรี

‘เพื่อไทย’ ห่วงน้ำมันราคาพุ่ง ‘ประยุทธ์’ บริหารไม่เป็น ทำเศรษฐกิจไทยยิ่งทรุดหนัก ชี้ค่าใช้จ่ายพุ่ง ต้องลดค่าเดินทาง แนะฟื้นรถเมล์-รถไฟฟรี เร่งช่วยค่าครองชีพประชาชนและปรับเปลี่ยนประเทศ

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.หนองคาย เขต 1 พรรคเพื่อไทย อดีตรองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันยังน่าเป็นห่วง แม้ว่าจะปรับลดลงมาบ้างแล้ว แต่อาจจะเป็นแค่ชั่วคราว โดยเชื่อว่าราคาน้ำมันยังจะเป็นขาขึ้น และสงครามรัสเซีย-ยูเครนยังไม่น่าจะจบลงง่ายๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบถึงราคาน้ำมัน และวัตถุดิบอื่นๆ รวมถึงแร่ธาตุต่างๆ ได้ขึ้นราคาตามไปด้วย เช่น เหล็ก อลูมิเนียม พาลาเดียม ทองคำ เป็นต้น นอกจากนี้ยังทำให้ปุ๋ยและอาหารสัตว์ราคาสูงขึ้นมาก ดังนั้น ต้นทุนการผลิตของสินค้าที่ต้องใช้วัตถุดิบเหล่านี้จะมีราคาแพงขึ้นไปด้วย

นายกฤษฎากล่าวว่า นอกจากนี้การที่น้ำมันแพงยิ่งทำให้ค่าขนส่งที่แพงอยู่แล้วยิ่งแพงขึ้นไปอีก ทั้งการขนส่งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ และสงครามรัสเซียยูเครนยังส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทาน ซัพพลายเชนที่เป็นปัญหาอยู่แล้วให้มีปัญหามากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้สินค้าขาดแคลนและจะมีราคาสูงเพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงไม่แปลกใจเลยที่ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้ออกมาเตือนว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะหนักหนาสาหัส และจะขยายตัวได้ต่ำกว่ารัฐบาลคาดไว้ รวมถึงสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจของหลายธนาคาร ทั้งกสิกรไทย กรุงไทย และซีไอเอ็มบี ได้ให้ความเห็นคล้ายกัน ซึ่งเป็นไปตามที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้คาดการณ์ล่วงหน้าไว้แต่แรกแล้ว ทั้งนี้ ถึงแม้ไม่มีสงครามรัสเซีย-ยูเครน ราคาน้ำมันก็ยังมีคงจะขึ้นสูงจากความต้องการใช้น้ำมันที่มีมากกว่าปริมาณน้ำมันที่ผลิตได้ และถึงแม้สงครามจะสิ้นสุดเร็ว ราคาน้ำมันก็น่าจะยังคงอยู่ในระดับที่สูงเกิน 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลต่อไป

“สถานการณ์เช่นนี้ หากผู้นำคิดได้แค่ว่าให้ประชาชนใช้รถยนต์เท่าที่จำเป็น ให้ช่วยกันล้างแอร์ หรือให้ใช้รถเมล์แทนรถส่วนตัว ซึ่งเป็นแนวคิดสมัยเก่ามาก คงไม่สามารถจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังถาโถมเข้ามาได้ ต้องไม่ลืมว่าประชาชนต้องประสบปัญหาเศรษฐกิจที่ย่ำแย่มาตลอด 7 ปี มาเจอวิกฤตไวรัสโควิด-19 อีก 2 ปี แล้วยังต้องมาเจอกับสงครามรัสเซียยูเครนอีก ดังนั้น จึงอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้หาแนวทางในการช่วยเหลือประชาชนเพื่อลดค่าใช้จ่ายที่จำเป็น โดยจะต้องพิจารณาหลายด้าน พร้อมการปรับเปลี่ยนประเทศไปพร้อมกัน

“ส่วนของการช่วยเหลือลดค่าใช้จ่าย พล.อ.ระยุทธ์น่าจะต้องพิจารณานำนโยบายเก่าของพรรคพลังประชาชนที่ให้ใช้รถเมล์ฟรี รถไฟฟรี มาช่วยผู้มีรายได้น้อยในภาวะเช่นนี้ และต้องหาทางลดราคาระบบขนส่งมวลชนที่ใช้พลังงานไฟฟ้า เพื่อให้ประชาชนได้ระบบขนส่งมวลชนในราคาที่ถูกลงและลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว รวมถึงเร่งโครงการรถไฟความเร็วสูงที่ใช้พลังงานไฟฟ้าด้วย อีกทั้งส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าทดแทนการใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมันให้มากขึ้นและเร็วขึ้น โดยเริ่มจากรถยนต์ราชการ และรถประจำตำแหน่ง รวมถึงส่งเสริมพาหนะอื่นที่ใช้พลังงานไฟฟ้าด้วย” นายกฤษฎากล่าว

Advertisement

นายกฤษฎากล่าวต่อว่า นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ควรต้องเร่งการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนและพลังงานหมุนเวียนเพื่อทดแทนไฟฟ้าที่ผลิตจากฟอสซิลซึ่งเป็นทิศทางของโลก และเร่งเจรจาหาแหล่งพลังงานราคาถูกเพื่อมาลดค่าใข้จ่ายแก่ประชาชน โดยต้องปรับเปลี่ยนประเทศให้ทันสมัยควบคู่ไปกับการแก่ไขปัญหาเศรษฐกิจด้วย เพราะหากจะแก้ไขปัญหาวันต่อวันแบบที่ พล.อ.ประยุทธ์ดำเนินการอยู่ประเทศไทยจะไม่พัฒนาไปไหนเลย

“ในทุกวิกฤตจะมีโอกาส ผู้นำที่ฉลาดจะต้องหาทางพัฒนาประเทศไปพร้อมกับการแก้ไขปัญหาวิกฤต ซึ่งหาก พล.อ.ประยุทธ์ไม่เข้าใจ หรือคิดไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์น่าจะล้าหลังเกินไปที่จะบริหารประเทศนี้ต่อไปแล้ว เพราะสถานการณ์ข้างหน้าจะหนักหนาสาหัสกว่าปัจจบันมาก ซึ่งด้วยความรู้ความสามารถของ พล.อ.ประยุทธ์ไม่น่าจะรับมือกับปัญหาได้” นายกฤษฎากล่าว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image