สถานะความหมายพรรคเล็ก ผลสะเทือนจาก ‘รัฐธรรมนูญ’
ปรากฎการณ์ ‘ปาร์ตี้ซ้อนปาร์ตี้’ ของ ส.ส.พรรคการเมืองขนาดเล็ก ไม่เพียงสะท้อนความกังวลลึกๆ อันมาจากทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และทั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เท่านั้น
หากแต่ยังย้อนแย้งเป็นอย่างยิ่งต่อบทสรุปที่ว่า ‘รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN เพื่อพวกเรา’ อย่างแหลมคม
ยิ่งเป็นความแหลมคมไม่เพียงแต่การเกิดขึ้นของพรรคการเมืองขนาดเล็กทำให้ปรากฎการณ์ขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนมิถุนายน 2562 มีความแจ่มชัด
ขณะเดียวกัน ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อการเมืองเคลื่อนจากเดือนมิถุนายน 2562 มาถึงเดือนมีนาคม 2565 และเข้าใกล้เดือนพฤษภาคมเป็นลำดับกลับกลายเป็นความไม่มั่นคง
มีคนจำนวนไม่น้อยนึกถึงพระราโชวาทอันถังไท่จงฮ่องเต้ เคยตรัสในที่ประชุมมุขมนตรีอันมีเว่ยจงเป็นผู้นำว่า ‘น้ำพยุงเรือให้ดำรงอยู่ แต่น้ำก็สามารถจมเรือได้’
ไม่ว่ามองไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่ามองไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ย่อมตระหนักในอิทธิพลแห่ง ‘น้ำ’
พลันที่เกิดสถานการณ์แหลมคมทางการเมืองอันนำไปสู่การปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีในเดือนกันยายน 2564 การดำรงอยู่ของรัฐบาลก็เริ่มสั่นคลอน
เป็นการสั่นคลอนจาก ‘ภายใน’ เป็นการสั่นคลอนจากปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
เนื่องจากความเป็นจริง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ดำรงอยู่ในจุด ที่เป็นแม่เหล็กแท่งมหึมาในการดูดดึงพลังจากพรรคขนาดเล็กให้ขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี
ณ วันนี้บทบาทที่เคย ‘พยุง’ เรือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็สะท้อนถึงความเป็นไปได้ที่จะแสดงบทบาทในการ ‘จม’
นี่คือลักษณะ 2 ด้าน 2 คมอันเนื่องแต่กติกา ‘รัฐธรรมนูญ’
การเมืองนับจากเดือนมีนาคมไปจนถึงเดือนพฤษภาคม จึงไม่เพียงแต่เป็นการเมืองอันสะท้อนปรากฏการณ์ ‘ปาร์ตี้ซ้อนปาร์ตี้’ ระหว่างบ้านป่ารอยต่อกับสโมสรราชพฤกษ์เท่านั้น
สปอตไลต์ย่อมฉายจับไปยังสัมพันธภาพภายใน ‘กลุ่ม 3 ป.’
ไม่ว่าจะเป็นการระบุวาระ ‘ยุบสภา’ จาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และการปฎิเสธทันควันจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ทั้งหมดล้วนแวดล้อมการอยู่หรือไปของ ‘รัฐบาล’ คสช.ทั้งสิ้น