ปชป.สัมมนา พร้อมสู้ศึก ลต. แม้สัญญาณยุบสภายังไม่มี ‘จุรินทร์’ หวังทุกคนช่วยประคับประคอง-ยึดมั่นอุดมการณ์-เอกภาพเปรียบประชาธิปัตย์เหมือนไม้รากลึก แต่หากโดนมรสุมก็เป๋ได้ ทุกคนต้องช่วยกันรดน้ำพรวนดินให้เป็นสถาบันการเมืองที่แข็งแกร่ง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 มีนาคม ที่โรงแรมแคนทารีฮิลล์ จ.เชียงใหม่ พรรคประชาธิปัตย์ จัดสัมมนา ส.ส. รัฐมนตรี และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของพรรค โดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ปีนี้เข้าปีที่ 4 ถือเป็นปีสุดท้ายของสภา สถานการณ์ที่ทุกคนติดตามอยู่มีหลายสถานการณ์ แต่อย่างน้อยปีที่ 4 สถานการณ์ยังไม่เปลี่ยนไปมาก จากที่รัฐบาลต้องเผชิญคือปัญหาโควิด เศรษฐกิจ และการเมือง โดยปัญหาโควิดยังไม่จบ แต่คลี่คลายขึ้น ส่วนเศรษฐกิจยังเป็นปัญหาใหญ่ และเป็นโจทย์ใหญ่สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าของทุกพรรคการเมืองว่าจะมีแนวนโยบายอย่างไร ส่วนการเมืองเป็นปัญหาที่ต้องแก้ควบคู่กับการบริหารราชการแผ่นดิน ที่เห็นชัด ถ้าเปิดสมัยประชุมสภามาคือ 1.การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาล และรัฐมนตรีทุกคนต้องเตรียมพร้อมในการชี้แจง และ 2.คำถามนายกฯ ครบ 8 ปี ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีหลายคนยื่นให้ศาลรัฐธรรมวินิจฉัย ตนเชื่อว่าจะเกิดขึ้นในการเข้าสู่ปีที่ 4 ในสภาชุดนี้
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นยังมีคำถามเป็นระยะๆ ว่าจะยุบสภาหรือไม่ ซึ่งถือว่ายังเป็นคำถามยอดฮิตของปีที่ 4 ในรัฐบาลชุดนี้ แต่จากประสบการณ์ของตนเองที่ทำงานทางการเมืองและรับประทานอาหารค่ำกับนายกรัฐมนตรี รับสัญญาณได้ว่านายกรัฐมนตรีตั้งใจจะเดินหน้าทำงานต่อ ผลจะเป็นอย่างไรไม่มีใครตอบได้ เพราะประเทศไทยไม่เหมือนประเทศอังกฤษ ที่จะยุบสภาช่วงที่คะแนนเสียงดีเพื่อเลือกตั้งใหม่ แต่ของเรายุบต่อเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือไปต่อไม่ได้ ซึ่งเราไม่รู้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดเมื่อไหร่ ดังนั้น เราต้องเตรียมความพร้อม แม้จะมียุบสภาหรือไม่ยุบเราก็ต้องเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้ง เมื่อครบเดือนมีนาคม ปี 2566 ครบเทอมก็ต้องจัดการเลือกตั้ง เรามีเวลา 1 ปีก่อนครบเทอม ที่ต้องเตรียมหลายเรื่องและเตรียมอย่างมีความคืบหน้าไม่ว่าจะเป็นตัวบุคคล นโยบาย ผู้สนับสนุน และเรื่องอื่นๆ รวมทั้งการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ด้วย ที่ต้องทำความเข้าใจว่า เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.แล้ว ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่สามารถช่วยหาเสียงได้ ดังนั้น ใครที่ไม่ติดเงื่อนไขนี้ขอให้ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงด้วย เพราะตนยืนยันมาโดยตลอดว่าต้องส่งผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ถือเป็นความรับผิดชอบของพรรคประชาธิปัตย์ต่อชาว กทม.ที่ผูกพันกันมายาวนาน หากไม่ส่งประชาชนจะเสียโอกาส ส่วนจะได้รับเลือกตั้งหรือไม่อยู่ที่การตัดสินใจของประชาชน
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า ปัจจัยที่จะทำให้พรรคไปสู่ความสำเร็จคือผลงาน เน้นการทำงานให้เกิดเป็นรูปธรรมให้ได้ และความเป็นเอกภาพ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของทุกองค์กร ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะนำเราไปสู่ความสำเร็จ ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกันประคับประคอง รักษาความเป็นเอกภาพของพรรคไว้ แม้บางเรื่องจะมีความเห็นไม่ตรงกันก็เป็นเรื่องปกติ เพราะไม่ใช่องค์กรเผด็จการ ที่ทุกคนจะเห็นเหมือนกันหมด แต่การเห็นต่างสุดท้ายก็ต้องเคารพมติพรรค เพื่อให้พรรคเดินไปข้างหน้าและมีเอกภาพ
“ที่สำคัญทุกคนต้องยึดมั่นอุดมการณ์ หากไม่มีอุดมการณ์ เราก็เป๋ เหมือนกับต้นไม้ที่ไร้ราก เวลามรสุมมา 2-3 ลูกก็ล้มแล้ว ไม่มีที่คอยพักพิง แต่พรรคประชาธิปัตย์เรายังมีรากลึก และพวกเราช่วยกันรดน้ำพรวนดิน ก็มั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นสถาบันการเมืองที่แข็งแกร่ง และเดินหน้าต่อไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย และเราจะต้องช่วยกันขับเคลื่อนต่อยอดไปในวันข้างหน้า” นายจุรินทร์กล่าว