สกู๊ปหน้า 1 : ศึกพัทยาร้อน 4 ว่าที่นายกชิงชัย

สกู๊ปหน้า 1 : ศึกพัทยาร้อน 4 ว่าที่นายกชิงชัย

กกต.ได้ประกาศให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและนายกเมืองพัทยา ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2565 โดยเฉพาะ เมืองพัทยา ผ่านพ้นการเลือกตั้งครั้งสุดท้ายมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2555 หรือ 10 ปีที่แล้ว ประชาชนในพื้นที่ไม่เคยได้ออกไปใช้สิทธิเพื่อเลือกตัวแทนที่ตัวเองชื่นชอบเข้ามาทำงาน ทำให้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในครั้งนี้ ประชาชนอยากออกมาใช้สิทธิเต็มที่ ขณะที่เหล่าว่าที่ผู้สมัครก็พร้อมอาสาออกเป็นตัวแทนดูแลบ้านเมือง

ทำให้การเลือกตั้งนายกเมืองพัทยา มีการเปิดตัวทีมว่าที่ผู้สมัครลงชิงชัยถึง 3 ทีม กับอีก 1 คน ที่ลงในนามอิสระ

ทีม “เรารักพัทยา” นายใหญ่ หรือ “สนธยา คุณปลื้ม” นายกเมืองพัทยา แต่เดิมลงพื้นที่ด้วยตัวเองตลอดตั้งแต่เป็นนายกเมืองพัทยา ได้ผลักดันงบประมาณต่างๆ เพื่อพัฒนาเมืองพัทยา ตอนแรกต่างคาดว่า สนธยาจะตัดสินใจลงชิงนายกเมืองพัทยาเอง แต่เนื่องจากการเลือกตั้งในสนามใหญ่ที่มีปัญหากวนใจ ทำให้ต้องตัดสินใจเป็นแค่กองเชียร์และหนุนหลัง ประกาศส่ง “ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์” ที่ปรึกษา รมว.วัฒนธรรม และอดีต ส.ส.ชลบุรี ลงสมัครแทน นอกจากได้ผู้สนับสนุนจากบ้านใหญ่ที่มีคะแนนเสียงคนพื้นที่อยู่ในมือบ้างแล้ว ประกอบกับในอดีตเป็นถึง ส.ส.ชลบุรี ที่ยังเข้าหาประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอด พร้อมชูนโยบาย “ต่อยอด ต่อเนื่อง เพื่อเมืองพัทยา”

ตามประวัติ ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ อายุ 49 ปี ชีวิตอยู่บนเส้นทางการเมืองมาโดยตลอด เป็นบุตรของ สันตศักย์ จรูญ งามพิเชษฐ์ หรือ จรูญ งามพิเชษฐ์ อดีต ส.ส.ชลบุรี 6 สมัย และเป็นอดีต รมช.สาธารณสุข จบการศึกษาปริญญาตรีและโท สาขาการเงิน California State University, SanBernardino และผ่านหลักสูตรการเมือง การปกครองในระบอบประชาธิปไตยสำหรับนักบริหารระดับสูง รุ่น 15 (ปปร.15)

Advertisement

ปัจจุบัน เป็นที่ปรึกษาสมาคมนักธุรกิจ และการท่องเที่ยวเมืองพัทยา อุปนายกสมาคมวินด์เซิร์ฟแห่งประเทศไทย อุปนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดชลบุรี เคยดำรงตำแหน่งเป็น รองนายกเมืองพัทยา สมัยที่ สนธยา คุณปลื้ม ได้รับการแต่งตั้งมาเป็นนายกเมืองพัทยา ก่อนลาออกไปดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม

ขณะที่ “ทีมพัทยาร่วมใจ” ของ “นิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร” อดีตนายกเมืองพัทยา เคยประกาศวางมือทางการเมืองไปแล้ว และมีอันต้องออกจากกลุ่มของบ้านใหญ่ เมื่อถึงคราวเลือกตั้งนายกเมืองพัทยาใน พ.ศ.นี้ ได้ก่อตั้งทีมลงสู้ศึกด้วย ระบุว่าแบกรับกระแสความเดือดร้อนจากประชาชนมาอย่างมากมาย จนต้องทำอะไรเพื่อบ้านเมือง บ้านเกิดอีกครั้ง จึงตัดสินใจตั้งทีมลงสมัครชูนโยบายหลัก “คนบ้านเราพัฒนาบ้านเรา”

อาศัยประสบการณ์จากอดีต จึงทำวิสัยทัศน์ นโยบายการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดเข้าถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เน้นความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของสังคมเมือง ทำแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว รวมทั้งเรื่องการศึกษา และสุขอนามัย

Advertisement

แต่ต่อมา “นิรันดร์” คิดวิเคราะห์อย่างละเอียดแล้ว ตัดสินใจส่งน้องชาย “สินธไชย วัฒนศาสตร์สาธร” ลงสู้ศึกนายกเมืองน้ำเค็มในครั้งนี้ดีกว่า

สินธไชย เคยดำรงตำแหน่งนายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา 2 สมัย ส่วนภาคการเมืองเป็นสมาชิกสภาเมืองพัทยา ผ่านงบประมาณและโครงการที่มีประโยชน์อย่างมากมาย มีส่วนสำคัญเป็นแกนนำผลักดันการแก้ไขปัญหาหลายด้าน ทั้งการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และผ่านงานในระดับองค์กรภาคการท่องเที่ยว

ปัจจุบัน ยังมีตำแหน่งเป็นรองประธานมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน พัทยา และร่วมในการปฏิบัติหน้าที่กู้ภัยในเมืองพัทยาอีกด้วย รวมทั้งดูแลโรงเรียนภายใต้การดูแลของมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน พัทยา

มาที่ฟาก “คณะก้าวหน้า” ที่มี “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เป็นประธาน เปิดตัว กิตติศักดิ์ นิลวัฒนโฒชัย หรือบ๊อบ อดีตพนักงานการเงิน ขึ้นท้าชิงในฐานะเป็นทางเลือกใหม่ ชูนโยบายเร่งด่วน แก้ปัญหาขุดเจาะถนนให้จบ ฟื้นฟูการท่องเที่ยว สร้างผังเมืองใหม่

กิตติศักดิ์ หรือบ๊อบ แกนนำกลุ่มพัทยาฟิวเจอร์ เพิ่งกล่าวเปิดตัวว่า เป็นคนพัทยามาแต่กำเนิด มองปัญหาต่างๆ ของเมืองพัทยาในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กับวิกฤตโควิด-19 เมืองพัทยาเคยคึกคักไม่เคยหลับใหล แต่ในวันนี้แม้ไม่ถึงตายก็เหมือนตาย ถนนที่ขุดไม่จบไม่สิ้น ทิ้งหลุมบ่อขนาดเล็กขนาดใหญ่ไว้รอบเมือง ร้านอาหาร ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่ต้องปิดตัวเพราะโควิดรวมถึงปัญหาน้ำท่วมไม่สามารถแก้ไขได้

กิตติศักดิ์ อายุ 47 ปี จบปริญญาตรี แขนงวิชาการจัดการโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยทํางานสถาบันการเงินหลายแห่งและบริษัทประกันชีวิต และยังเป็นผู้ประกอบการร้านอาหาร เชี่ยวชาญธุรกิจ การเงิน การลงทุน

ส่วนว่าที่ผู้สมัครนายกเมืองพัทยารายล่าสุด คือ “ศักดิ์ชัย แตงฮ่อ” อดีตนายอำเภอบางละมุง และรองอธิบดีกรมการปกครอง ที่ประกาศผ่านโซเชียลว่าจะลงสมัครชิงชัยด้วย เนื่องจากเคยรับราชการในพื้นที่รู้สภาพปัญหาเป็นอย่างดี ทั้งเรื่องการบุกรุกที่สาธารณะ ความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมเข้าถึงประชาชนในการรับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์

ศักดิ์ชัย มาในนามอิสระไม่มีสังกัดทีมการเมือง เจ้าตัวรับว่า ที่มาลงสมัครเพราะผูกพันกับพื้นที่อำเภอบางละมุงอย่างมาก ตั้งแต่สมัยเป็นนายอำเภอ ได้สร้างผลงานไว้อย่างมากมายในด้านการแก้ไขปัญหาจนกระทั่งได้รับตำแหน่ง “นายอำเภอแหวนเพชร” จากนั้นจึงย้ายไปเป็น ผอ.สำนักกฎหมาย ทำงานคล้ายผู้บัญชาการสอบสวนกลางในของกรม การปกครอง

นโยบายของศักดิ์ชัย หวังฟื้นให้เมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวกลับคืนมาให้ได้ในระยะเวลา 2 ปี หากประชาชนเลือกเป็นนายกเมืองพัทยาจะขอรับปากว่าจะเปลี่ยนแปลงให้ได้โดยเร็ว เปรียบเสมือนเป็นเซลล์แมน ที่จะนำเมืองพัทยาไปขายเพื่อสร้างความเจริญในทุกด้านต่อไป

ถือเป็นกำไรของชาวเมืองพัทยา จะได้เลือกว่าที่ผู้สมัครที่ต่างมุ่งมั่นจะปลุกชีพเมืองพัทยาให้กลับมาเคลื่อนไหวในฐานะเมืองท่องเที่ยวระดับโลกอีกครั้ง และสร้างความอยู่ดีกินดีให้กับประชาชน

ส่วนจะเป็นใครที่จะชนะนายกเมืองพัทยา 2565 นั้น “เสียงสวรรค์” จะทำหน้าที่ในคูหา เลือกคนที่ใช่ต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image