‘ชัชชาติ’ แทคทีม ‘ดร.ยุ้ย’ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาปชช.เขตสายไหม พร้อมเปิด ‘สำนักงานเพื่อนชัชชาติ กรุงเทพเหนือ’

‘ชัชชาติ’ แทคทีม ‘ดร.ยุ้ย’ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาปชช.เขตสายไหม พร้อมเปิด ‘สำนักงานเพื่อนชัชชาติ กรุงเทพเหนือ’

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 20 มีนาคม ที่ร้านอาหารไก่โห่ (อร่อยออเงิน) เขตสายไหม กรุงเทพฯ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม และผู้เสนอลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ในนามอิสระ และนางเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ “ดร.ยุ้ย” หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ได้กล่าวนำเสนอวิสัยทัศน์และเป้าหมายการลงพื้นที่ โดยมีนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ให้การต้อนรับในครั้งนี้

นายชัชชาติกล่าวว่า เขตสายไหมเป็นเขตที่มีคนอาศัยอยู่มากที่สุด หัวใจของการพัฒนาสายไหมคือการคือการดูแลว่าคนในชุมชนต้องการอะไร ปัญหาการเก็บขยะ การระบายน้ำ รถขนส่งสาธารณะ เหล่านี้คือชีวิตของเรา เราไม่ได้ต้องการเมกะโปรเจ็กต์ที่หรูหรา เราต้องเอาประชาชนเป็นตัวตั้งและนโยบายทั้งหมดต้องมาจากประชาชนไม่ได้มาจากผู้ว่าฯ ต้องฟังปัญหาของประชาชน หลักการคือใช้น้อยแต่ได้มาก คือลงทุนน้อยแต่ได้ประโยชน์กับประชาชน ที่ผ่านมาคือใช้มากได้น้อยคือลงทุนมหาศาลแต่ประชาชนไม่ได้ประโยชน์เท่าไร

 

Advertisement

ด้านนางปวีณากล่าวว่า ในการทำงานของรัฐบาลต้องทำงานแบบบูรณาการร่วมกัน มันจะแยกจากกันไม่ได้ ฉะนั้นบอกเลยผู้ชายคนนี้ที่ชื่อชัชชาติ คือตัวจริง รู้จักเขาดี และรู้ว่าทำงานเก่ง บอกเลยว่าชาวกรุงเทพฯเราโชคดีที่มีผู้ที่มาอาสารับใช้ประชาชนที่ชื่อชัชชาติ สิทธิพันธุ์

ต่อมาเวลา 13.00 น. ได้มีพิธีเปิดสำนักงานเพื่อนชัชชาติ กรุงเทพเหนือ (ใกล้ร้าน Teak Wood Little Home Restaurant) โดยนายชัชชาติทำการตีฆ้องสามครั้งบริเวณหน้าสำนักงาน

ต่อมานายชัชชาติให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตนลงพื้นที่เขตสายไหมซึ่งเป็นเขตสำคัญมีจำนวนประชากรอาศัยอยู่จำนวนมากและมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นทุกปี ปัญหาที่ตามมากับจำนวนประชากรที่เพิ่มซึ่งก็ตรงกับนโยบายของตนเรื่องเส้นเลือดฝอยซึ่งสายไหมมีเส้นเลือดใหญ่ มีทางด่วน รถไฟฟ้า ซึ่งถือได้ว่ามีเส้นเลือดใหญ่พร้อม แต่เส้นเลือดฝอยที่ลงสู่ชุมชนมีปัญหา เช่น ถนนมีรถประจำทางวิ่งเพียงสายเดียว ชาวบ้านไม่มีทางเลือก หรือการระบายน้ำที่มีการท่วมขัง ดังนั้น ปัญหาเหล่านี้จึงสอดคล้องกับแนวคิดของตนที่ว่า กรุงเทพต้องการเส้นเลือกฝอยที่เข้มแข็งควบคู่ไปกับเส้นเลือดใหญ่ เพื่อให้ชีวิตของคนกรุงเทพฯดีขึ้น และนายชัชชาติกล่าวถึงเรื่องเศรษฐกิจว่า เป็นตัวขับเคลื่อนเมืองอยู่แล้ว กทม.ต้องมาสนใจเรื่องเศรษฐกิจ หลักๆต้องเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน

Advertisement

เมื่อถามถึงความพร้อมในการเตรียมตัวเลือกตั้งผู้ว่าฯในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง นายชัชชาติกล่าวว่า สัปดาห์ที่แล้วเรามีการเปิด 200 นโยบาย ซึ่งเป็นตัวหลักของตน เพราะตนสัญญาว่าจะทำ ดังนั้น ตนเริ่มเผยแพร่ข้อมูลเหล่านี้ ตอนนี้ยุทธศาสตร์หลักคือการสื่อสารข้อมูลให้ประชาชนรับรู้ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะทำได้จริง และนโยบายที่พูดมาเราจะทำได้จริงไม่ใช่เป็นแค่เรื่องเพ้อฝัน ก็คงเร่งสื่อสารในเรื่องนี้ให้เข้มข้นขึ้น

เมื่อถามว่าจะมีโปรเจ็กต์อะไรเพิ่มเติมหลังจากที่เปิดนโยบายไปแล้ว นายชัชชาติกล่าวว่า พอกฎหมายเลือกตั้งประกาศออกมามันมีข้อจำกัดเยอะ เพราะต้องทำตามกฎหมายค่อนข้างละเอียด แต่ตนคงเน้นเรื่องการสื่อสารเป็นหลัก ตนมองว่าทีมของตนเดินมานานมากในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา และเชื่อว่าตนไม่ใช่เพิ่งมาวิ่งสปีดร้อยเมตร เพราะคือการวิ่งมาราธอน ซึ่งการวิ่งมาราธอนตอนจบต้องรักษาสภาพให้ดี คงไม่ได้มีอะไรเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์ แต่จะมีในส่วนของทีมงานที่ค่อยๆ ทยอยเปิดตัว

“เราไม่ต้องการเป็นพลุ เพราะนโยบายที่เราเอาลงในเว็บไซต์ก็มีคนเข้ามาอ่านเรื่อยๆอยู่แล้ว เราค่อยเป็นค่อยไป มีนโยบายให้ประชาชนได้เห็น และตลอด 60 วันที่เหลือประชาชนสามารถเข้ามาให้ความเห็นได้ ดังนั้น เราไม่ได้หวังจะมีกระแสเฉพาะวันเดียวที่เปิดตัว แต่เราหวังว่าเรามีข้อมูลที่ต่อเนื่อง” นายชัชชาติกล่าว

เมื่อถามว่ากังวลใจหรือไม่ที่มีผู้สมัครเปิดตัวขึ้นมาเรื่อยๆ นายชัชชาติกล่าวว่า เป็นการดีเพราะจะทำให้เกิดการตื่นตัวมากขึ้น ทำให้ประชาชนมามารถเปรียบเทียบนโยบายได้ สุดท้ายแล้วก็จะเป็นระบบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ มีการแข่งขัน มีการพูดเรื่องนโยบาย ตนมองว่ามีคนสมัครเยอะยิ่งดี ประชาชนตื่นตัวและมีการระดมความคิดเห็น ทั้งจัดดีเบตกันจนรับไม่ทัน ตนเชื่อว่าเพราะคนไม่ได้เลือกตั้งมานาน จึงหวังว่าจะมีคนมาเลือกตั้งกันเยอะ

เมื่อถามว่าในอนาคตจะมีการเชิญนางปวีณามาร่วมทีมทำงานด้วยหรือไม่ นายชัชชาติกล่าวว่า นางปวีณาอยู่กับทีมของตนมาอยู่แล้วในแง่ของผู้แนะนำ เป็นเมนเทอร์เพราะท่านอยู่ในพื้นที่สายไหม ท่านให้คำแนะนำที่ดีและมีค่ามาโดยตลอด จริงๆ แล้วเราก็ไม่ได้ exclusive กับท่าน ถ้าท่านจะไปช่วยคนอื่นก็ไม่เป็นไร แต่ท่านช่วยเราก็ดีใจเพราะเป็นคนที่มีข้อมูลและผูกพันกับชุมนน ซึ่งนี่เป็นทรัพยากรที่หาไม่ได้แล้ว

จากนั้นเวลา 13.15 น. นายชัชชาติ ผศ.ดร.เกษรา และทีมงานได้ทำการปั่นจักรยานเพื่อเดินทางไปยังชุมชนคลองหกวา เขตสายไหม เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอจากประชาชนในพื้นที่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image