ทูตรัศมิ์ ชี้ ความเลวร้ายอเมริกา เล่าสามวันก็ไม่จบ แต่อย่าอคติจนเห็นปูตินทำถูกที่บุกยูเครน
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม นายรัศมิ์ ชาลีจันทร์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยในหลายประเทศ เจ้าของเพจ ทูตนอกแถว The Alternative Ambassador เขียนบทความทางเฟซบุ๊กเรื่อง ความชั่วร้ายสารพัดเลวทรามของอเมริกา โดย ระบุว่า
ความชั่วร้ายสารพัดเลวทรามของอเมริกา จะเริ่มกันตรงไหนดีล่ะ จะเอาตั้งแต่สมัยค้าทาสกันไหม? (ที่หลายคนก็อาจลืมไปการค้าทาส จับเชลยมาเป็นทาส มีมานตั้งแต่ก่อนยุคประวัติศาสตร์แล้ว) เอาเป็นว่าความเลวร้ายของสหรัฐอเมริกานั้นเล่าสามวันสามคืนก็คงไม่จบ และจะว่าไปผมก็ยังไม่เห็นมีใครในทุกวันนี้ที่เชื่อว่าสหรัฐดีเลิศ ประเสริฐศรีไปหมดนะ ยิ่งขณะนี้ดูเหมือนกระแสความเกลียดชังสหรัฐฯจะปะทุอีกรอบ จากกรณีสงครามในยูเครน
และที่หนีไม่พ้นที่ต้องยกมาด่าสหรัฐกันตอนนี้มักไม่พ้นสามสี่เรื่องฮิตๆ ได้แก่ สงครามอิรักสมัย ปธน.บุชผู้ลูก สงครามเวียดนาม และกรณีวิกฤติการณ์คิวบา เหมือนกับจะต้องคอยมาย้ำว่าสหรัฐฯนั้นเลวหนักหนาชอบรุกรานผู้อื่น และซึ่งจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม มันก็เหมือนการช่วยให้ความชอบธรรมแก่รัสเซียในการรุกรานยูเครนทางหนึ่งนั่นเอง (และในตัวมันเอง ตรรกะประเภทคนอื่นทำผิดได้ ฉันก็ทำได้ มันค่อนข้างเพี้ยน อันตราย และไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง)
เลยอยากมาชวนคุยกันถึงสามเรื่องฮิตที่ว่า แต่ก่อนอื่นขอย้ำว่าผมเองเห็นว่าสหรัฐฯผิดแน่นอนในกรณีอิรักและเวียดนาม และเคยพูดมานานแล้วด้วย (ส่วนกรณีคิวบาจะขออธิบายต่อไป)
เรื่องสงครามอิรักสมัยบุชผู้ลูกนั้น เชื่อว่าหลายคนก็คงจะรู้รายละเอียดกันพอควร ซึ่งในแง่กฎหมายระหว่างประเทศนั้น สหรัฐผิดแน่นอน แต่มันมีสิ่งที่ทำให้แตกต่างออกไปจากกรณียูเครน คือหนึ่งซัดดัมเป็นเผด็จการโหดร้ายที่ไม่ได้มาอย่างชอบธรรม กระแสของชาวโลกที่ต่อต้านการรุกรานครั้งนั้นจึงไม่ได้สูงเหมือนของยูเครน สอง เพราะซัดดัมไม่มีประชาชนสนับสนุนจริง แม้ว่าจะมีกองทัพที่มีกำลังพลใหญ่กว่ายูเครน แต่สหรัฐก็ยึดอิรักอย่างง่ายดาย เพราะอย่าว่าแต่ประชาชนเลย ทหารส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครอยากยอมตายให้ซัดดัม
แต่ผิดก็คือผิดนะครับ เพียงแต่ทุกอย่างมันก็มีข้อแตกต่างให้คิดบ้างแค่นั้น
เรื่องเวียดนามก็ผิดเช่นกัน แต่ถ้าเราจำได้คือสมัยนั้นมีเวียดนามเหนือกับเวียดนามใต้รบกัน โดยแต่ละฝ่ายก็มีแต่ละค่ายคอยหนุนหลังชัดเจน ถ้าเราเปรียบง่ายๆ รัฐบาลเวียดนามใต้ก็คล้ายๆ กลุ่มแยกดินแดนในดอนบาส ในไครเมียที่รัสเซียเข้าไปสนับสนุน คือสหรัฐฯก็อ้างความชอบธรรมว่าได้รับเชิญจากรัฐบาลเวียดนามใต้ให้เข้าไปช่วยเหลือ (ซึ่งในแง่กฎหมายก็เอาผิดลำบาก แต่คือผิดศีลธรรมแน่นอน)
แต่ถ้าคุณด่าสหรัฐในกรณีเวียดนาม แล้วคุณไม่ด่ารัสเซียที่ไปยึดไครเมีย ดอนบาส นั่นคือความอคติแล้ว และสหรัฐเองก็ไม่ได้ยกกองทัพเต็มกำลังพลไปยาตราบุกเวียดนามเหนือดื้อๆ อย่างที่รัสเซียทำกับยูเครนนะครับ ซึ่งมันต่างกันตรงนี้
แต่ที่ผิดเต็มๆ นั้นไม่ใช่กรณีเวียดนาม หากแต่คือลาวและกัมพูชาที่สหรัฐไปทิ้งระเบิดใส่เขา อันนี้ผิดแน่นอน แต่ถ้าด่าสหรัฐแล้ว ก็ควรต้องด่าบรรดาผู้นำไทยของเราเองในยุคนั้นด้วย ที่ยินยอมให้สหรัฐมาตั้งฐานทัพ (แลกกับอะไรเอ่ย?) เพื่อเอาเครื่องบินรบไปถล่มเพื่อนบ้านของเราจนคนของเขาล้มตายไปมากมาย ซึ่งมันก็คือเรายินยอมพร้อมใจสมรู้ร่วมคิดกับสหรัฐ อย่าลืมเสียล่ะ
มากรณีคิวบาที่ผมเห็นว่าคนที่ยกเรื่องนี้มาเพื่อเชียร์ หรือช่วยให้ความชอบธรรมแก่รัสเซียในกรณียูเครน ไม่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์เท่าที่ควร เพราะมันมีความแตกต่างกันมาก ประการแรก ขณะนั้นมีการติดตั้งจรวดของรัสเซียในคิวบาจริงแน่นอน ไม่ใช่การมโนเอาเองแบบรัสเซีย สอง สหรัฐไม่ได้ยาตราทัพเข้าไปรุกรานคิวบา เพียงแต่ใช้กองทัพเรือสะกัดกั้นกองทัพเรือโซเวียตรัสเซียไม่ให้ขนอาวุธไปเพิ่มในคิวบา สาม มีการเจรจาหาทางออกโดยสหรัฐฯยอมถอนจรวดออกจากบางประเทศในยุโรป แลกกับโซเวียตถอนจรวดออกจากคิวบา ซึ่งความตึงเครียดเผชิญหน้ากันครั้งนั้นไม่ได้ก่อให้เกิดสงครามสู้รบที่ทำประชาชนคนบริสุทธิ์ลูกเด็กเล็กแดงต้องล้มตายไปมากมาย อย่างเช่นในกรณียูเครน
ผมเห็นบางคนพูดว่ารัสเซียทำโฆษณาชวนเชื่อไม่เก่งเหมือนพวกตะวันตก ทำให้ขณะนี้มีคนประณามรัสเซียมากมาย ซึ่งผมเห็นว่าไม่น่าจะทั้งจริงและเป็นความเข้าใจผิดด้วย ผมก็ยังเห็นคนด่าสหรัฐฯมากมาย แต่คนที่เขาด่ารัสเซียนั้นเป็นเพราะเขาเห็นตามความเป็นจริงว่าใครเป็นฝ่ายรุกราน ใช้กำลังเข้าข่มเหงประเทศที่เล็กกว่า และที่กระแสมันสูงเพราะผู้นำและรัฐบาลยูเครนเขามาอย่างชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตยแท้จริง ที่ส่วนใหญ่โลกเขายึดถือ แต่ไม่ใช่เป็นเพราะคนเขานิยมชื่นชมสหรัฐหรือตะวันตกอะไร
และก็มีคนชอบตั้งคำถามว่าหลังสงครามโลกครั้งสองเป็นต้นมาใครคือผู้รุกรานประเทศอื่นมากที่สุด (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไมตัองเอาแค่หลังสงครามโลกครั้งสอง) ผมเองไม่แน่ใจนักเพราะในบางแง่ที่ไปยึดประเทศเขามาอย่างฝืนใจนั้น (โซเวียต) รัสเซียก็ไม่ได้น้อยหน้าใครเลย
แต่ที่ผมรู้แน่ๆ คือ หากไม่มีสหรัฐในสงครามโลกครั้งสอง ป่านนี้โลกเราคงเลือกได้แค่ว่าจะอยู่ใต้นาซี หรืออยู่ใต้คอมมิวนิสต์ ซึ่งสิ่งนี้หลายคนที่ด่าๆ สหรัฐคงทำเป็นลืมไปแล้ว
ประเทศสหรัฐเองมีปัญหาภายในมากมาย รวมทั้งการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่สหรัฐฯอ้างว่าส่งเสริมและพิทักษ์ ทั้งที่ตัวเองก็ยังแก้ไขให้หมดไปไม่ได้ แต่ถ้าเราดูจากประวัติศาสตร์ของสหรัฐ การต่อสู้เพื่อสิ่งนึ้ก็มีมาตลอด และยังคงมีต่อไป โดยในแง่หนี่งสหรัฐมาไกลจากในอดีตมากพอควร ซึ่งสิ่งที่ทำให้สหรัฐมีความพิเศษ คือความมุ่งมั่นที่พัฒนาแก้ไขสิ่งต่างๆ ที่ไม่ถูกต้องให้มันดีขึ้น แม้จะต้องใช้เวลานานเท่าใดก็ตาม
รักใครเกลียดใครมันห้ามกันไม่ได้ แต่ก็อยากให้ศึกษาข้อมูล ประวัติศาสตร์ด้วย รวมทั้งไม่อคติกันจนเกินไป ผมก็ไม่ได้เกลียดรัสเซีย แต่เห็นว่าผู้นำของรัสเซียทำไม่ถูก และเชื่อว่าคนรัสเซียจำนวนมากซึ่งน่าจะเป็นส่วนใหญ่ด้วย ก็คิดเช่นเดียวกัน
ปล. วันก่อนไปนั่งกิน poutine อาหารของชาวแคนาดาที่ร้านแถวๆสามเสนใกล้ๆ บางลำพู ก็แค่มันฝรั่งทอดราดน้ำเกรวี่ไม่ถึงอร่อยนักหนา แต่ที่ชื่อมันพอดีไปคล้ายๆ กับชื่อ ปธน. ปูติน และมีข่าวว่าในบางประเทศมีการประท้วงร้านที่ขายอาหารจานนี้กันเพราะชื่อของมัน ซึ่งนี่ก็ความอคติอย่างหนึ่งของคนเรานะครับ ผมเลยไปอุดหนุนกินขำๆ สักหน่อย