โฆษก รบ.อัด พิชัย ให้ข้อมูลด้านเดียว ชี้ปี’55 เศรษฐกิจโตเพราะประชานิยม สุดท้ายล้มไม่เป็นท่า

โฆษก รบ.อัด พิชัย อย่าโฆษณาชวนเชื่อ ให้ข้อมูลด้านเดียว ชี้ปี’55 เศรษฐกิจโตเพราะประชานิยม สุดท้ายล้มไม่เป็นท่า ขยี้นิรโทษกรรมสุดซอย ทำการเมืองวุ่นวาย

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) ด้านเศรษฐกิจ กล่าวพาดพิง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าไม่สามารถผลักดันเศรษฐกิจในช่วง 7 ปี ให้เติบโตแม้น้ำมันจะมีราคาถูก และไม่ช่วยประชาชนให้มีชีวิตรอดจากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ไม่เหมือนสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เศรษฐกิจเติบโตถึง 7.2% แม้น้ำมันจะมีราคาสูง ว่าคำกล่าวอ้างของนายพิชัยเป็นเพียงการโฆษณาชวนเชื่อ ให้ข้อมูลเพียงด้านเดียว ไม่ครบถ้วน

เพราะปีที่เศรษฐกิจเติบโต 7.2% คือปี 2555 ซึ่งขณะนั้นราคาน้ำมันอยู่ในระดับปกติจึงไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังผ่านจุดต่ำสุดจากวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรป และที่แน่นอนกว่านั้นคือผลจากนโยบายประชานิยมระยะสั้นอย่างรถคันแรก ที่ช่วงแรกเหมือนจะดูดี แต่สุดท้ายก็ต้องอวสานไปเพราะหลายคนไม่ได้โอนสิทธิ ผ่อนต่อไม่ไหว ถูกไฟแนนซ์ยึด จนถูกยกเป็นตัวอย่างของโครงการประชานิยมที่ล้มเหลวมาถึงปัจจุบัน

นายธนกรกล่าวว่า ถ้าดูต่อไปปี 2556 เศรษฐกิจเติบโตลดลงเหลือ 2.7% จนปี 2557 ช่วงปลายรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ เศรษฐกิจเติบโตเพียง 0.8% สาเหตุมาจากความวุ่นวายทางการเมืองเพียงเพราะรัฐบาลในขณะนั้นต้องการทำผิดให้เป็นถูกด้วยการออกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย ส่วนราคาน้ำมันดีเซลก็พุ่งถึง 29.99 บาท/ลิตร น้ำมันเบนซินแตะราคาสูงสุด 49.15 บาท/ลิตร ถือว่ามากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทำไมนายพิชัยถึงไม่พูดให้หมด หลังจากนั้นเศรษฐกิจจึงค่อยกลับมาขยายตัวในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จาก 0.8% ในปี 2557 เป็น 4.1% ในปี 2561 และต่อมาเศรษฐกิจทั่วโลกรวมถึงไทยก็ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และวิกฤตรัสเซีย-ยูเครนในปัจจุบัน

สำหรับการแก้ไขปัญหาราคาพลังงานในขณะนี้นั้นครอบคลุมทั้งราคาน้ำมันและก๊าซ ซึ่งทางกระทรวงพลังงานได้ออกมาชี้แจงอย่างต่อเนื่อง เช่น แนวทางบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินด้านราคาน้ำมัน การสำรองน้ำมันเชื้อเพลิง การจัดหาและผลิตก๊าซธรรมชาติส่วนเพิ่ม มาตรการบรรเทาผลกระทบด้านราคาก๊าซ LPG ส่วนมาตรการควบคุมค่าไฟฟ้าหลังจากที่ กกพ.มีมติให้ปรับเพิ่มค่าเอฟทีรอบเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2565 เพื่อให้สะท้อนราคาเชื้อเพลิงที่แท้จริงนั้น รัฐบาลรับทราบปัญหาและจะหาแนวทางดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป ซึ่งจะมีมาตรการชุดใหญ่ออกมาช่วยเหลือประชาชนในอีกไม่กี่วันนี้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image