‘นายกฯ’ พร้อมดัน ‘ยานยนต์ไฟฟ้า’ หวังให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตในภูมิภาคอาเซียน มั่นใจมาตรการลดภาษีสรรพสามิตกระตุ้นการลงทุน
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีคำสั่งให้ทีมโฆษกประจำสำนักนายกฯ สำรวจการจัดงานมอเตอร์โชว์ หรืองานบางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2022 ครั้งที่ 43 (Motor Show 2022) ที่เมืองทองธานี เพื่อติดตามความคืบหน้ามาตรการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในมาตรการส่งเสริมการใช้รถอีวี ซึ่งจากการสำรวจภายในงานพบว่าประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมชมนวัตกรรมยานยนต์เป็นจำนวนมาก ภายใต้การปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด มีประชาชนให้ความสนใจกับบูธยานยนต์ไฟฟ้าเป็นพิเศษ ซึ่งรัฐบาลจะใช้งบประมาณอุดหนุนเงินส่วนลดตั้งแต่ 70,000-150,000 บาท กับค่ายรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อไปทำโปรโมชั่นส่วนลดให้ประชาชน
นายธนกรกล่าวว่า กรมสรรพสามิตได้เตรียมงบประมาณในการอุดหนุนไว้แล้ว จำนวน 3,000 ล้านบาท หากมีความต้องการมากกว่านั้น จะมีการพิจารณาขอขยายกรอบงบประมาณอีกครั้ง ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตพร้อมที่จะหารือกับทุกค่ายรถยนต์เพื่อพิจารณาโครงสร้างราคา จากนั้นก็สามารถจำหน่ายรถยนต์ในราคาที่ได้รับส่วนลดที่ได้รับการอนุมัติจากกรมสรรพสามิตได้เลย เชื่อว่ามาตรการนี้จะมีส่วนช่วยส่งเสริมการลงทุนรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศเพิ่มมากขึ้น
นายธนกรกล่าวอีกว่า ข้อมูลจากงานมอเตอร์โชว์ 2022 ที่กำลังจัดอยู่ขณะนี้ ตั้งแต่ 22 มีนาคม-3 เมษายน 2565 ณ เมืองทองธานี มี 2 ค่ายรถยนต์เข้าร่วมมาตรการส่งเสริมใช้ยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาล ได้แก่ ค่ายเกรท วอล มอเตอร์ มีรถยนต์ไฟฟ้าพร้อมจำหน่าย จำนวน 1,500 คัน และ ค่ายเอ็มจี มีรถยนต์ไฟฟ้าพร้อมจำหน่าย จำนวน 500 คัน รวมทั้งหมด จำนวน 2,000 คัน รวมทั้งยังมีค่ายรถอื่นๆ ที่แสดงความสนใจเข้าร่วมมาตรการอีก 8-9 ค่าย เช่น ค่ายจากยุโรป เบนซ์ บีเอ็มดับเบิลยู และค่ายจากญี่ปุ่น โตโยต้า ฮอนด้า มิตซูบิชิ นิสสัน รวมถึงจากจีน ฟ็อกซ์คอนน์ เนต้า เป็นต้น ซึ่งภายในงาน ยังเน้นการปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
“รัฐบาลมีนโยบายในการส่งเสริมสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยและการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ CO2 เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาคอาเซียน และลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่ความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าด้วยพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีที่ทันสมัยจะตอกย้ำความเป็น Detroit of Asia ของไทย และถือเป็นการเดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์ชาติเพื่อสร้างรายได้และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ” นายธนกรกล่าว
