ผู้ประกอบการข้าวสาร ขอนายกฯเล่นน้ำสงกรานต์ ยันรัดกุม ชี้ช่วยกระตุ้น ศก.พันล้านบาท

‘ผู้ประกอบการข้าวสาร’ จี้นายกฯขอเล่นน้ำบนถนน พร้อมเสนอมาตรการป้องกันโควิดรัดกุม ยันใส่เฟซชิลด์สาดน้ำได้ โอด ศบค.เข้มเกิน ทำนักท่องเที่ยวหด-รายได้หาย

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 มีนาคม ที่อาคาร 26 สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ขอพิจารณาให้ผ่อนผันการเล่นน้ำบนถนนข้าวสารในช่วงเทศกาลสงกรานต์

นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร กล่าวว่า กรณีที่ ศบค.ได้มีมติเกี่ยวกับมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในการจัดงานช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยกำหนดให้พื้นที่จัดงานสงกรานต์ตามประเพณี ต้องขออนุญาตจัดงาน ซึ่งจะอนุญาตให้เล่นน้ำและจัดงานตามประเพณีได้ โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting ส่วนพื้นที่สาธารณะไม่มีการควบคุม เช่น ท้องถนนต่างๆ ห้ามเล่นน้ำ ประแป้ง และปาร์ตี้โฟมนั้น

นายสง่ากล่าวว่า ทางสมาคมฯจึงได้จัดประชุมผู้ประกอบการถนนข้าวสาร และได้มีมติที่ประชุมให้เสนอแนะเกี่ยวกับมาตรการ ป้องกันโรคโควิด-19 ในการจัดกิจกรรมสงกรานต์ ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ดังนี้

Advertisement

1.เนื่องด้วยถนนข้าวสารเป็นแหล่งท่องเที่ยว และเป็นสถานที่ที่จัดงานสงกรานต์ตามประเพณีมาโดยตลอด ซึ่งเป็นที่รู้จักของคนไทย และคนต่างชาติทั่วโลก ทางสมาคมฯได้เล็งเห็นว่า หากได้จัดงานสงกรานต์ประจำปี 2565 นี้ จะเป็นการอนุรักษ์ไว้ซึ่งประเพณีสงกรานต์ของถนนข้าวสาร รวมถึงเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ และสื่อสารให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้รับรู้ว่าถนนข้าวสารยังคงไว้ซึ่งการท่องเที่ยว และการจัดงานตามประเพณี

2.การจัดงานสงกรานต์ถนนข้าวสารจะเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจส่วนร่วมของประเทศ จนถึงเศรษฐกิจระดับรากหญ้า รายได้ที่จะเข้าประเทศในช่วงเดือนเมษายน คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท โดยผู้ประกอบการในถนนข้าวสารและพื้นที่ใกล้เคียงจะมียอดขายที่เพิ่มขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจอันเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และจะส่งผลให้สามารถสร้างรายได้กับกลุ่มลูกจ้าง พนักงาน และอาจกระจายรายได้ไปยังกลุ่มที่อยู่นอกเหนือจากถนนข้าวสารได้ เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวงานสงกรานต์ในถนนข้าวสารจะเดินทางไปเที่ยวต่อในแหล่งท่องเที่ยวอื่นของประเทศด้วย

3.ผู้ประกอบการเล็งเห็นถึงปัญหาบางประการเกี่ยวกับมาตรการจัดงานสงกรานต์ เนื่องจากโดยสถานการณ์ปกติการเตรียมงานสงกรานต์จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ 1 เดือน แต่ในขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่มีการออกระเบียบการเกี่ยวกับงานสงกรานต์ชัดเจน ซึ่งหากต้องขออนุญาตจัดงานอาจจะล่าช้าและเตรียมตัวจัดงานไม่ทันเวลา เพราะหน่วยงานผู้มีอำนาจอนุญาตต้องขอความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงการอนุญาตจัดงานในที่สาธารณะ จึงขอเสนอให้ทาง ศบค. โปรดสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้พื้นที่ถนนข้าวสารที่เคยเป็นจุดสำคัญในการจัดกิจกรรมสงกรานต์ที่ผ่านมา สามารถจัดงานสงกรานต์ในถนนคนเดินได้

Advertisement

4.ทางสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร สามารถที่จะขอความร่วมมือผู้ประกอบการในถนนข้าวสาร ในการจัดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในถนนข้าวสารได้ โดยควบคุมและปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting กล่าวคือ กําหนดช่องทางเข้าออกจากงาน และจัดจุดคัดกรองโรค, ควบคุมความหนาแน่นในพื้นที่จัดงาน (1 ต่อ 4 ตารางเมตร), ผู้ที่จะเข้ามาในถนนข้าวสาร ต้องแสดงหลักฐานการได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 2 เข็ม ควบคุมให้ผู้เข้าร่วมงานเว้นระยะห่าง โดยสวมหน้ากากหน้ากากอนามัย และเฟซชิลด์ตลอดเวลาที่อยู่ในงานสงกรานต์ งดประแป้ง และไม่มีการจัดปาร์ตี้โฟม ซึ่งการจัดงานสงกรานต์ของถนนข้าวสารทุกปีที่ผ่านมา ทางสมาคมได้มีการจัดจุดคัดกรองเพื่อความปลอดภัย ที่บริเวณทางเข้าถนนข้าวสารทั้งสองด้านตลอดระยะเวลากิจกรรมอยู่แล้ว

นายสง่ากล่าวว่า อีกทั้งในช่วงที่มีมาตรการผ่อนคลายให้ลูกค้าสามารถรับประทานอาหารที่ร้านได้ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการในถนนข้าวสาร ได้มีมติร่วมกัน นำร่องให้การเข้าถนนข้าวสารจะต้องผ่านจุดคัดกรอง และตรวจ ATK บริเวณทางเข้าถนนข้าวสาร โดยการทำหนังสือ เสนอโครงการและขออนุญาตต่อสํานักงานเขต คือ 1.จุดทางเข้าถนนข้าวสารฝั่งถนนจักรพงษ์ (วัดชนะสงคราม) และ 2 จุดทางเข้าฝั่งถนนตะนาว 3.บริเวณทางเข้าทั้งหมดตามซอย ตามภาพถ่ายจุดคัดกรองโรคเข้าถนนข้าวสาร จึงยืนยันได้ว่า ถนนข้าวสารสามารถจัดกิจกรรมในถนนควบคู่ไปกับมาตรการควบคุมโรคได้ ด้วยเหตุผลตามข้อเสนอแนะดังที่กล่าวมาข้างต้น ทางสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร จึงขอให้พิจารณามีคำสั่งผ่อนผันให้จัดงานสงกรานต์ในถนนข้าวสารได้ โดยเร่งด่วน

นายสง่ากล่าวว่า การมายื่นข้อร้องเรียนในวันนี้เพื่อให้นายกฯ ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. พิจารณาการจัดกิจกรรมสงกรานต์บนถนนข้าวสาร โดยทางเราได้เสนอมาตรการควบคู่ไปด้วย รวมถึงการกำหนดจำนวนคนที่เข้าร่วมกิจกรรม ทั้งนี้ การเล่นน้ำจะไม่มีกิจกรรมการตั้งเวทีหรือดีเจ เพื่อจะได้ไม่เป็นจุดรวมตัวกัน ยืนยันว่าที่ผ่านมาถนนข้าวสารไม่มีการแต่งโป๊ เปลือย และเล่นแป้ง สำหรับการกำหนดจำนวนคนเข้าร่วมกิจกรรมนั้น ในพื้นที่ถนนข้าวสาร 400 ตารางเมตร สามารถรองรับได้ 5,000 คน ไม่นับรวมผู้ที่อยู่ในอาคาร เมื่อนับหัวและท้ายครบจำนวน ก็จะเปิดเป็นรอบๆ ไป เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถจัดกิจกรรมได้ เพราะเมื่อประเมินถึงรายได้ที่ปกติในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 4 วัน จะมีรายได้ 50-80 ล้านบาท ซึ่งรวมค่าที่พัก ค่ากิน และค่าเที่ยวทั้งหมด ปกติช่วงเทศกาลสงกรานต์ ยอดจองโรงแรมจะอยู่ที่ 100% มีนักท่องเที่ยวตกวันละ 50,000 คน แต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมของปีนี้ นักท่องเที่ยวเริ่มจองโรงแรมเหลือเพียง 20% เบื้องต้นกลุ่มผู้ค้าแผงลอย ประมาณ 500 กว่าชีวิต สามารถฟื้นกลับมาได้เพียง 10% ส่วนร้านค้าทั่วไปฟื้นคืนกลับมาได้ 40 ถึง 50%

“ดังนั้น การออกมาตรการของ ศบค. ที่ไม่ให้จัดกิจกรรมสงกรานต์ ได้ทำให้กังวลว่า จะกระทบทำให้นักท่องเที่ยวไม่จองโรงแรมที่พัก ทั้งนี้ หากเปิดให้จัดกิจกรรมเล่นสงกรานต์บนถนนข้าวสารจะสามารถสร้างเศรษฐกิจภาพรวมได้ถึง 1,000 ล้านบาท และยังส่งผลดีต่อพื้นที่รอบข้างด้วย”

นายสง่ากล่าวว่า รัฐบาลได้แต่ห้ามอย่างเดียว ถือว่าทำร้ายประชาชนเกินไป เราเจ็บตัวมาแล้วกว่า 2 ปี ทั้งนี้หากถนนข้าวสารสามารถจัดกิจกรรมได้ตามปกติ ก็อาจจะนำไปใช้เป็นโมเดลกลับพื้นที่อื่น ส่วนที่มีการท้วงติงเรื่องของผู้ติดเชื้อแบบคลัสเตอร์ ย้ำว่าวันนี้ตัวเลขยอดติดเชื้อก็กระโดดอยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรให้การประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น สามารถทำควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ ส่วนมาตรการให้จำหน่ายแอลกอฮอล์ได้ถึงห้าทุ่มนั้น เราไม่ได้ขอให้ปรับเปลี่ยน ขอเพียงให้ขายได้เท่านี้ก็ดีแล้ว ขอย้ำว่า แค่นี้ผู้ประกอบการก็เดือดร้อนมากพอแล้ว จากค่าครองชีพที่กระโดดสูงขึ้น ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไม่ได้กำหนดเดดไลน์ การตอบข้อเรียกร้องจาก ศบค. เพราะไม่อยากบีบคั้นนายกฯมากเกินไป

เมื่อถามว่า หาก ศบค.ไม่อนุมัติ จะมีแผนรองรับอย่างไร นายสง่ากล่าวว่า เราได้ประชุมกับผู้ประกอบการแล้ว เขาสามารถจัดกิจกรรม จัดคอนเสิร์ต หรือเล่นน้ำภายในร้านได้ ถ้าไม่ห่วงเรื่องไฟฟ้าหรือเครื่องเสียง และผู้ประกอบการทุกคนได้เตรียมตัวแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image